รื่นร่มรมเยศ : คติสำหรับคนทำงาน : โดย เสฐียรพงษ์ วรรณปก

รื่นร่มรมเยศ : คติสำหรับคนทำงาน : โดย เสฐียรพงษ์ วรรณปก

รื่นร่มรมเยศ : คติสำหรับคนทำงาน : โดย เสฐียรพงษ์ วรรณปก

เคยดูรายการทีวีสัมภาษณ์บุคคลผู้ประสบความสำเร็จในชีวิตท่านหนึ่งนานมาแล้ว นานจนจำไม่ได้ว่าบุคคลท่านนั้นชื่ออะไรรู้แต่ว่าเป็นผู้ผลิตดอกไม้ประดิษฐ์ส่งขายต่างประเทศ

ตามประวัติท่านเป็นลูกคนยากจน เป็นเด็กวัดมาก่อน ดิ้นรนทำมาหาเลี้ยงชีพด้วยการประกอบอาชีพหลายอย่าง ล้มเหลวมาตลอด ท้ายสุดได้จับงานด้านการประดิษฐ์ดอกไม้จำหน่ายก็ล้มลุกคลุกคลานมาตลอดเหมือนกัน อาศัยใจสู้ไม่ยอมเลิกรา ทนทำไปเรื่อย ในที่สุดก็ประสบความสำเร็จ สินค้าได้รับความนิยมแพร่หลายขึ้นตามลำดับ

ผู้สัมภาษณ์ถามว่า ยึดถือคติธรรมหรือปรัชญาข้อใดในการทำงานจนประสบความสำเร็จ ท่านผู้นั้นบอกว่าไม่มีอะไรมาก ยึด “หนึ่งต้อง สองอย่า” (ถ้าจำผิดก็ขออภัย เพราะมันนานมาแล้ว)

Advertisement

หนึ่งต้องคือ ต้องทำงานที่ตนถนัด หมายความว่าบรรดางานต่างๆ อาจมีหลายชนิดที่ตนไม่ถนัดก็ไม่ต้องไปริทำ ให้ค้นหาด้วยตัวเองว่างานชนิดไหนที่ตนถนัด หรือที่ตนพอจะทำได้ดี ให้เลือกงานชนิดนั้น แล้วทุ่มเทลงไปทั้งชีวิต

บางคนเสียงยังกับเป็ดร้อง ริอยากจะเป็นนักร้อง อยากออกเทปกับเขาบ้าง เพราะเห็นคนอื่นประสบความสำเร็จมามาก แต่ไม่ได้ดูตัวเองว่าเสียงเป็ดๆ อย่างนี้มันพอจะเป็นนักร้องได้ไหม ในที่สุดก็ไปไม่รอด อย่างนี้เรียกว่าไม่ดูตัวเองว่าถนัดในทางนี้หรือไม่

เดี๋ยวนี้เป็นแฟชั่นว่านักแสดง (หรือแม้กระทั่งนางงาม) ก็ต้องเป็นนักร้องด้วย เอาความดังในด้านการเป็นดารามาขายเสียง ก็เป็นได้เพียงบางคนเท่านั้น มิใช่ขึ้นชื่อว่าเป็นดาราแล้วจะต้องร้องเพลงได้ทุกคน

Advertisement

ตนถนัดทางไหนก็มุ่งไปทางนั้นเถิด สงสารหูคนฟังบ้าง

ท่านผู้นี้บอกว่า เมื่อท่านจับงานมาหลายอย่าง ในที่สุดก็รู้ว่างานด้านการผลิตดอกไม้ประดิษฐ์นี้เป็นงานที่ตนทำได้ และจะทำได้ดีด้วย เมื่อมีความมั่นใจว่าถนัดทางนี้จึงทุ่มเทให้ทั้งกายและใจแม้ว่าในระยะแรกๆ จะประสบความล้มเหลวก็ไม่เลิกรา คิดว่าสักวันหนึ่งจะต้องไปถึง “ดวงดาว” แน่นอน เพราะท่านว่าท่านมีคติประจำใจอีกอย่างหนึ่งว่า “สองอย่า”

“อย่า” ที่หนึ่งคือ อย่าท้อถอย ทุกครั้งที่ล้มเหลวก็จะท่องมนต์บทว่า “อย่าท้อถอย” แล้วกำลังใจก็จะมา ท่านว่าอ่านประวัติบุคคลสำคัญในโลกที่ประสบความสำเร็จในชีวิตด้านต่างๆ แต่ละคนล้วนมีความมานะบากบั่น ไม่ท้อถอยทั้งนั้น เราต้องไม่ท้อถอยเด็ดขาด ว่าอย่างนั้น

“อย่า” ที่สอง อย่าเล็งผลเลิศ การตั้งเป้าหมายสูงเกินไปแล้วทำไม่ได้ หรือทำได้ไม่บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ ก็จะทำให้หมดกำลังใจท่านผู้นี้บอกว่าค่อยๆ ทำ ค่อยๆ ไป ตั้งเป้าหมายให้ใกล้ๆ สั้นๆ ไว้แล้วทำให้สำเร็จแต่ละขั้นๆ ไป ดุจขึ้นบันไดปราสาทที่มีหลายชั้น

ไม่ใช่ว่าอยากจะไปถึงชั้นบนปราสาท แล้วก็กระโดดพรวดขึ้นไป ขึ้นทำอย่างนั้นก็มีหวังตกลงมาคอหักตาย จะต้องค่อยๆ ก้าวขึ้นทีละขั้นอย่างมั่นคง ถึงขั้นนี้แล้วก้าวต่อไปขั้นนั้น ถึงขั้นนั้นแล้วก้าวต่อไปขั้นโน้น ในที่สุดก็จะไปยืนอยู่ที่ปราสาทชั้นบนสมความตั้งใจ

ท่านผู้อ่านลองนำเอาไปปฏิบัติดูสิครับ บางทีอาจประสบความสำเร็จอย่างท่านผู้นี้ก็ได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image