คอลัมน์หน้า 3 : กระแส กดดัน ทหาร และ 250 ส.ว. ตั้งรับ การเมือง
ในสถานการณ์ไวรัสแพร่ระบาดมี 2 หน่วยงาน 2 องค์กรกำลังถูกกระแสในทางสังคม กดดัน หนักหน่วง รุนแรงมากยิ่งขึ้นเป็นลำดับ
1 คือทหาร 1 คือ ส.ว.
รูปธรรมอันเด่นชัด คือ กระแสเรียกร้องให้ตัด เกลี่ย งบของกระทรวงกลาโหม คือ กระแสเรียกร้องให้ ส.ว.เสียสละเงินเดือน
เบื้องต้นมีการเอ่ยขึ้นลอยๆ เหมือนเสียงรำพึง
แต่ยิ่งสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัส รุนแรง กว้างขวาง ลึกซึ้งไปมากเพียงใด เสียงรำพึงก็กลายเป็นเสียงตะโกน
ก่อให้เกิดเป็น “กระแส” ก่อให้เกิดการ “กดดัน”
มีความจำเป็นที่กระทรวงกลาโหมจักต้องเก็บรับไปพิจารณา มีความจำเป็นที่ 250 ส.ว.จักต้องเก็บรับไปพิจารณา
ค้นหา เหตุและปัจจัยอย่างจริงจัง
หากพิจารณาจาก “องค์ประกอบ” ก็จะมองเห็นความสัมพันธ์อันยึดโยงระหว่างกระทรวงกลาโหม และ ส.ว.ต่อรัฐบาลอย่างเป็นพิเศษ
เริ่มจาก “ที่มา” และ “วิถี” เป็นไป
จุดหนึ่งซึ่งสำคัญและไม่ควรมองข้าม คือ บทบาทอันเป็นรากฐานความเป็นมาของรัฐบาล ไม่ว่าเมื่อ 6 ปีก่อน ไม่ว่าในปัจจุบัน
นั่นก็คือ รากฐานแห่งการ “รัฐประหาร”
เมื่อเป็นอำนาจจาก “รัฐประหาร” ด้านหนึ่ง ทำให้กลุ่มผู้ก่อรัฐประหารอยู่ในสถานะของการกุมอำนาจ ด้านหนึ่ง ทำให้ประจักษ์ในความสัมพันธ์
เพราะว่า รัฐประหารเกิดจาก “ทหาร”
ขณะเดียวกัน การดำรงอยู่ของรัฐบาลยึดโยงอยู่กับอำนาจของทหาร การดำรงอยู่ของ ส.ว.มาจากการแต่งตั้งโดยอำนาจของ คสช.
ไม่ว่า “ทหาร” ไม่ว่า “ส.ว.” จึงตกเป็นเป้าในทางการเมือง
คําว่า “เป้าหมาย” ในทางการเมืองจึงยึดโยงอยู่กับความสัมพันธ์แห่งอำนาจ สัมพันธ์อยู่กับรากฐานแห่งอำนาจในทางการเมือง
ถามว่าใครเป็นรัฐมนตรี “กลาโหม”
ถามว่าการได้มาของ 250 ส.ว.ดำเนินไปอย่างไร และวัตถุประสงค์ในการแต่งตั้ง 250 ส.ว.เพื่อสนองประโยชน์อะไร
คำตอบเด่นชัดโดยแทบไม่จำเป็นต้องตอบ
ยิ่งเมื่อเปรียบเทียบงบประมาณกระทรวงกลาโหมกับกระทรวงสาธารณสุขยิ่งก่อให้เกิดอาการป่วยเจ็บในความรู้สึก
ทั้งนี้ แทบไม่ต้องเปรียบ ส.ว.กับ ส.ส.
ความรู้สึกต่องบประมาณกระทรวงกลาโหมจึงรุนแรง ล้ำลึก ความรู้สึกต่อการดำรงอยู่ของ 250 ส.ว.จึงเด่นชัด
เป็นด้าน “ลบ” มากกว่าด้าน “บวก”
โดยอำนาจแห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ความเบ็ดเสร็จ เด็ดขาดอาจอยู่ในมืออันแข็งแกร่งของรัฐบาล
เหมือนกับจะกุมด้าน “รุก” ทางการเมือง
กระนั้น สภาพการวิพากษ์วิจารณ์งบประมาณกระทรวงกลาโหม สภาพการตั้งคำถามต่อบทบาทของ ส.ว.ที่กำลังกลายเป็นกระแส
ยืนยันการ “ตั้งรับ” อย่างเด่นชัด
