| ผู้เขียน | ทวี ผลสมภพ |
|---|
เชื้อโรคเกิดจากการกระทำของมนุษย์ : โดย ทวี ผลสมภพ
ขณะนี้ประเทศไทยและทุกประเทศในโลก กำลังหวาดหวั่นพรั่นพรึงต่อความตาย อันเกิดจากโรคระบาดที่เชื่อ covid-19 ทั่วโลกจึงยุติภารกิจเพื่อการค้าหากำไร ยุติภารกิจที่แสวงหาความสุขสำราญ ฝูงชนที่ยากไร้โดยเฉพาะที่ขายแรงงานให้กับภารกิจทั้งสองและอื่นๆ ก็ไม่มีงานทำ เมื่อไม่มีงานทำรายได้ก็ไม่มี เมื่อไม่มีรายได้ ก็ไม่มีอาหารที่จะนำมาเลี้ยงตัวเองและครอบครัว นั่นคือความเดือดร้อนที่ผู้รับผิดชอบกำลังประสบอยู่ทุกประเทศ ขณะนี้หลายประเทศกำลังระดมกันทำวัคซีนเพื่อหาทางป้องกันเชื้อโรคระบาดนั้นอย่างขะมักเขม้น ชาวโลกทุกคนต่างรอคอยความสำเร็จของการมีวัคซีนป้องกันโรคนั้นอย่างใจจดจ่อ
ชาวเราทุกคนเมื่อโรคร้ายเกิดขึ้น ก็แสวงหายาบำบัด แต่โรค covid-19 ยังไม่มียาบำบัด และยังไม่มีวัคซีนป้องกัน ผู้เขียนจึงขอเสนอสาเหตุให้เกิดเชื้อโรคทุกชนิดรวมทั้งโรคระบาดด้วยเพื่อพิจารณาตามสติปัญญาของผู้อ่านต่อไป
ข้อมูลที่นำมาแจกแจงนี้มาจากคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั่นเอง เพราะปรากฏในพระไตรปิฎกว่า ความชั่วของมนุษย์และเชื้อโรคร้ายต่างๆ เกิดเพราะความโลภของมนุษย์ทั้งสิ้น
ในพระสูตรชื่อ อัคคัญญสูตร พระไตรปิฎก เล่ม 15 หน้า 159 กล่าวไว้ว่า ในช่วงที่มนุษย์มีเพียงข้าวสาลีเป็นอาหาร มิได้มีสิ่งอื่นเป็นอาหาร โดยเฉพาะสัตว์มีชีวิต เฉพาะข้าวสาลีเมื่อมนุษย์เก็บไปกินแล้ว คืนต่อมาเมล็ดข้าวสาลีก็เกิดขึ้นมาใหม่ ในช่วงนี้ชีวิตมนุษย์ไม่มีโรคภัยเบียดเบียนเลย
กาลต่อมา ข้าวสาลีนั้นก็วิปริตไปคือที่เก็บไปแล้วก็ไม่มีเมล็ดเกิดขึ้นใหม่ ทั้งนี้ เพียงเพราะมนุษย์ ที่ผิวพรรณดีดูหมิ่น คนผิวพรรณไม่ดีเท่านั้น จึงทำให้ข้าวสาลีวิปริต สังคมมนุษย์ในยุคนั้นจึงปรึกษากันแบ่งเขตข้าวสาลีเป็นเขตๆ แล้วก็แบ่งให้แต่ละคนเก็บเกี่ยวข้าวสาลีในเขตของตนเท่านั้น เมื่อได้จัดระเบียบกันแล้ว หมู่มนุษย์ส่วนใหญ่ก็ปฏิบัติตามกติกาที่สังคมตั้งไว้
ต่อมามีมนุษย์คนหนึ่งมีความโลภ เมื่อจะไปเก็บเกี่ยวข้าวสาลีเพื่อนำมาหุงกิน แทนที่จะเก็บข้าวสาลีในเขตของตน ได้เกิดความคิดขโมยเก็บข้าวสาลีในเขตของคนอื่น พฤติกรรมเช่นนี้ของผู้นั้น เมื่อทำไปนานวันเข้า คนอื่นรู้เข้าก็เอาเป็นตัวอย่าง เมื่อการขโมยมากขึ้น สังคมมนุษย์ในยุคนั้น จึงปรึกษากัน ตั้งผู้ดูแลนาข้าวสาลีขึ้นมาคนหนึ่ง ถ้ามีการขโมยกันอีกก็ให้มีอำนาจลงโทษได้
ตำแหน่งผู้ดูแลนาข้าวสาลี คนสมัยนั้นให้ชื่อว่า ขัตติยะ แปลว่า ผู้ดูแลนาข้าวสาลี
ในช่วงที่มนุษย์มีธัญพืชคือข้าวสาลีเป็นอาหารนั้น โรคภัยในร่างกายของมนุษย์ไม่มีเลย เพราะปรากฏว่า มนุษย์ในยุคนั้นอายุยืนนาน ต่อมา มีข้อมูลปรากฏในสมัยพระเจ้าโอกากราช ผู้เป็นบรรพบุรุษของ เจ้าศากยวงศ์ และเจ้าโกลิยวงศ์ ได้อนุญาตให้พวกพราหมณ์ ทำการบูชายัญ ด้วยการฆ่าสัตว์ มีโคและสัตว์อื่นๆ มากมาย พวกพราหมณ์สมัยนั้นมีความโลภอยากกินเนื้อสัตว์ เท่านั้นไม่พอ ยังหลอกพระเจ้าโอกากราชให้ถวายผู้หญิงสาวๆ ที่แต่งตัวพร้อมเครื่องประดับ มาบำเรอแก่พวกพราหมณ์ด้วย
พวกพราหมณ์เป็นชนชั้นที่สังคมอินเดียสมัยนั้นให้ความเคารพ เพราะเป็นวรรณะชั้นสูงในวรรณะทั้ง 4 ของอินเดีย แม้ทุกวันนี้สังคมอินเดียก็ยังมีการนับถือกันอยู่ ถ้าจะเปรียบเทียบกันกับสังคมไทย พวกพราหมณ์ก็คือปัญญาชนที่สังคมยอมรับความคิดเห็น ในเรื่องนั้น ท่านใช้ศัพท์ว่า พวกพราหมณ์แต่งมนต์ ให้พระเจ้าโอกากราชอนุมัติการทำพิธีบูชายัญด้วยการฆ่าโค เป็นต้น
ในเนื้อเรื่องนั้น ในพระไตรปิฎกกล่าวไว้ชัดว่า หลังจากการทำพิธีบูชายัญคราวนั้นแล้ว โรคร้ายได้เกิดแก่มนุษย์ถึง 99 โรคด้วยกัน
เพียงการฆ่าอย่างเดียวคงไม่ทำให้เกิดโรคร้ายถึงขนาดนั้นได้ คงเป็นว่าเมื่อฆ่าสัตว์บูชายัญกันแล้ว คงแจกเนื้อสัตว์เหล่านั้นไปทำอาหารกินกันอย่างแน่นอน เมื่อเลือดเนื้อของมนุษย์มาจากเนื้อสัตว์ มันน่าจะง่ายต่อการที่จะเกิดโรค มันเป็นเหมือนยาสั่งของคนสมัยก่อน เมื่อจะฆ่าใคร เขาจะให้คนผู้นั้นกินอะไรสักอย่าง
ต่อมาเมื่อคนผู้นั้นไปกินของตัวชอบ เขาก็จะตายด้วยของที่กินใหม่เข้าไปผสมกับของเก่านั้น
เมื่อได้เค้ามูลว่า โรคร้ายต่างๆ เกิดจากการฆ่าสัตว์เป็นอาหาร จึงนำมาสู่การสันนิษฐานว่า ทุกวันนี้แทบทุกประเทศทำการฆ่าสัตว์เป็นอาหารโดยการสร้างโรงฆ่าสัตว์ วันหนึ่งไก่ตายกี่ร้อยตัว หรือเป็นพันตัว หมูตายวันละกี่ร้อยตัว วัวตายวันละกี่สิบตัว มนุษย์ที่ทำไม่มีความละอาย ไม่มีความเกรงกลัวต่อความชั่วเลย เมื่อเนื้อสัตว์หาง่าย คนก็พร้อมที่จะหาเงินไปซื้อมากิน นั่นมันทำให้ร่างกายมนุษย์มันพร้อมที่จะเกิดโรคในเมื่อได้รับอาหารอะไรก็ได้ที่มันเป็นคู่ปรับกัน เหมือนยาสั่งที่กล่าวมาแล้ว
การที่โรคระบาด covid-19 มันระบาดไปทั่วโลก มีคนเจ็บป่วยและตายทั่วโลก นั่นคือกรรมที่มนุษย์เบียดเบียนสัตว์ให้เจ็บและตาย
โรคระบาด covid-19 มันก็ทำให้คนไข้เจ็บป่วยทรมานแล้วก็ตายเหมือนกัน ทุกครั้งที่มีโรคร้ายเกิดขึ้นในหมู่มนุษย์ มนุษย์ไม่เคยมองตัวเองเลย เช่น เมื่อโรคเอดส์เกิดขึ้น มนุษย์ก็ไปอ้างลิงค่างว่าเป็นตัวนำเชื้อมา ความน่าจะมาจากพฤติกรรมของมนุษย์นี่เอง
พระพุทธเจ้าตรัสไว้ใน คิริมานนทสูตร ในพระไตรปิฎกภาษาไทยชื่อ พระสูตรและอรรถกถา เล่ม 38 หน้า 192 ว่า โรคเกิดจากสาเหตุ 7 ประการ คือ หนึ่ง โรคเกิดจากเสมหะให้โทษ น่าจะเป็นโรคหวัด โรคหืดหอบ สอง โรคเกิดจากลมให้โทษ น่าจะเป็นโรคลม สาม โรคเกิดจากดี เสมหะและลมให้โทษ หมอโบราณท่านเรียกว่าไข้สันนิบาต สี่ โรคเกิดจากฤดูเปลี่ยน เราจะสังเกตเห็นว่า ทุกครั้งเมื่อจะเข้าสู่ฤดูหนาว พวกเราต้องระวังโรคหวัด เราเรียกว่าไข้หัวลม
ห้า โรคเกิดจากการเปลี่ยนอิริยาบถไม่เสมอกัน อิริยาบถมีอยู่ 4 คือ ยืน เดิน นั่ง และนอน เราจะนั่งอย่างเดียวโดยไม่เปลี่ยนอิริยาบถอื่นเลยไม่ควรอย่างยิ่ง หลายปีมาแล้วคนนั่งเครื่องบินจากอเมริกาเอาแต่นั่งอย่างเดียว ไม่ลุกขึ้นยืน ไม่เดินบนเครื่องบินบ้างเลย แล้วเขาก็ตายเพราะไม่เปลี่ยนอิริยาบถ หก โรคเกิดจากทำงานหนักจนเกินไป คนเราถ้าทำงานหนักมากไป พักผ่อนน้อยไม่นานโรคอื่นจะเกิดขึ้นในร่างกาย เจ็ด โรคเกิดจากวิบากของกรรม ปัจจุบันนี้โรคเกิดจากวิบากของกรรม เราสามารถชี้ไปที่โรคมะเร็งเท่านั้น เพราะเป็นโรคที่รักษาไม่หาย ทุกคนที่เป็นแล้ว ล้วนตายด้วยโรคมะเร็งทั้งนั้น หมอแผนใหม่ก็ไม่สามารถรักษาให้หายได้ เพียงรักษาให้ยับยั้งชั่วคราวเท่านั้น
เชื้อ covid-19 น่าจะมีสมุฏฐานจากลม กล่าวคือ ลมหายใจที่มีเชื้อโรคนี้ติดตามเข้าไป
เมื่อกล่าวโดยสรุป มนุษย์เรานี่เอง เป็นผู้สร้างความชั่วให้เกิดขึ้นในสังคม เพราะความโลภ จนสังคมในยุคนั้นต้องตั้งผู้มีอำนาจลงโทษคนผิดเหล่านั้น ขอให้สังเกตดูยุคแรกในสังคมมนุษย์ ที่แสวงหาผู้ปกครองบ้านเมืองตามที่กล่าวไว้ในจักวัตติสูตร มาจากประชาชนเป็นผู้เลือกขึ้นมา
อนึ่ง มนุษย์มิได้สร้างแต่ความชั่วให้มนุษย์รุ่นหลังเห็นเป็นตัวอย่างเท่านั้น พวกมนุษย์ที่เห็นแก่กิน ยังทำลายชีวิตสัตว์อื่นๆ เพื่อเอาเนื้อเขามากิน เมื่อเนื้อสัตว์หาง่าย ชาวโลกก็พากันกินอย่างไม่ระวัง จนเนื้อและเลือดของมนุษย์มีคุณภาพต่ำๆ จนแม้เพียงหวัดธรรมดาๆ เมื่อเข้าไปสัมผัสอวัยวะ ภายในมีปอดเป็นต้น ปอดจึงกลายเป็นอาหารอย่างดีของเชื้อ covid-19 อย่างดี ดังที่เห็นกันทั่วโลกขณะนี้
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงการสันนิษฐานเท่านั้น
