เดินหน้าชน : บิณฑ์-เอกพันธ์ โดย เสกสรรค์ กิตติทวีสิน

“อย่าโยงการเมือง” เป็นคำพูดที่สองพี่น้อง “ท็อป บิณฑ์ และไทด์ เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์” บอกกล่าวกับสื่อที่ได้นำเงินสดพร้อมทีมงานมูลนิธิร่วมกตัญญูไปช่วยเหลือ “คนจน” ตามชุมชนต่างๆ

ล่าสุด เดินเท้าเคาะประตูชาวบ้านพื้นที่กรุงเทพมหานคร ในช่วงผลกระทบจากโควิด-19 เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน จนถึงวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา รวม 39 วัน แจกไปแล้วทั้งสิ้น 15 ล้านบาท เป็นเงินส่วนตัวของบิณฑ์ 10 ล้านบาท

เอกพันธ์บอกว่า “เรารู้สึกถึงความอดอยาก ความจนต่างๆ ที่เราก็เจอมาตั้งแต่เด็ก มีใครยื่นมือเข้ามาช่วยก็ดีใจแล้ว”

การช่วยเหลือของ 2 อดีตดารา ในฐานะ “อาสากู้ภัย” ทั้งสองจะแจกให้อย่างน้อยครอบครัวละ 500 บาท หรืออาจมากกว่านั้น ถ้าความลำบากมีมากขึ้น ยิ่งได้เจอผู้เฒ่าตามริมถนนหนทาง จะหยุดรถ เข้าไปสอบถามเพื่อช่วยเหลือทันที

Advertisement

บางรายที่เจอระหว่างเดินทางไปแจกเงินช่วยผู้ประสบอุทกภัยที่ภาคอีสานช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน 2562 หรือเมื่อปีที่แล้ว เป็นภาพที่สร้างความประทับใจอย่างยิ่ง เมื่อบิณฑ์เข้าไปช่วยลุงไร้บ้านที่เนื้อตัวมอมแมม เลยจัดการอาบน้ำ สระผม ถูตัวให้สะอาด ก่อนตัดผมและหนวดเคราที่รุงรังให้ พร้อมมอบเงินให้จำนวนหนึ่ง

สำหรับการช่วยเหลือคนยากคนจนตามชุมชนต่างๆ ในพื้นที่กรุงเทพฯ ช่วงโควิด-19 บิณฑ์เคยบอกผ่านคลิปของทีมงานว่า จะไม่เปิดบัญชีธนาคารรับบริจาคจากประชาชนทั่วไปเหมือนตอนน้ำท่วมหนักที่อุบลฯ เพราะยามนี้ต่างก็ลำบากกันทั้งสิ้น แต่จะใช้เงินส่วนตัว 10 ล้านบาท เป็นเงินจากค่าพรีเซ็นเตอร์สินค้า อันเป็นอานิสงส์จากการไประดมเงินกว่า 400 ล้าน ช่วยพื้นที่น้ำท่วมที่อุบลฯและอีกหลายจังหวัดใกล้เคียงมาใช้ เพราะไม่คิดว่าเป็นเงินของตัวเอง

ขณะที่ช่วงช่วยเหลือน้ำท่วม ตั้งต้นที่ จ.อุบลราชธานี นั้น บิณฑ์ตัดสินใจถอนเงินในบัญชีจำนวน 1 ล้านบาท ไปช่วยทันที เดินฝ่าน้ำท่วมลุยถึงแต่ละบ้าน ก่อนไลฟ์เพื่อขอระดมเงินบริจาคจากประชาชน มีทั่วประเทศหลั่งไหลโอนให้กว่า 400 ล้านบาท บิณฑ์นำไปแจกช่วยเหลือได้ในหลายจังหวัดจนครบทุกบาททุกสตางค์

Advertisement

กรณีการช่วยเหลือ แสงสุรีย์ รุ่งโรจน์ ในวัย 66 ปี อดีตนักร้องลูกทุ่งชื่อดังระดับเบอร์ๆ ต้นของประเทศไทย เป็นอีกเคสหนึ่ง ขณะเดินเข้าช่วยเหลือชุมชนในพื้นที่กรุงเทพฯ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว บิณฑ์กับเอกพันธ์ พร้อมทีมงาน ได้เจอเจ้าของเสียงร้องเพลง “รักสาวเสื้อลาย-หิ้วกระเป๋า” โดยบังเอิญ อาศัยอยู่ในบ้านสภาพทรุดโทรม เมื่อทักทายและถามสารทุกข์สุกดิบ จึงรู้ว่าแสงสุรีย์ในวันนี้ ตาข้างขวามองไม่เห็น และป่วยเป็นโรคเบาหวาน

บิณฑ์และไทด์มอบเงินสด 1 หมื่นบาทให้แสงสุรีย์ไว้ใช้จ่าย ในฐานะที่เคยขับกล่อมเสียงเพลงให้คนไทยได้มีความสุข ต้องช่วยเหลือกันในยามตกทุกข์ได้ยาก ขณะที่อดีตนักร้องลูกทุ่ง
ผู้ยิ่งใหญ่ยืนยันว่า เป็นเพราะช่วงโควิด-19 ทำให้ไม่ได้รับมือมาก่อน ปกติจะมีงานร้องเพลงได้มีเงินใช้จ่ายเล็กๆ น้อยๆ ประทังชีวิต และยืนยันไม่ขอรับบริจาคใดๆ ทั้งสิ้น ล่าสุดก็ไปร้องเรียนเรื่องเงินเยียวยา 5 พันแล้ว

ดาราทั้งสองยืนยันจะช่วยเหลือเรื่องโรคภัยไข้เจ็บให้เอง โดยเฉพาะดวงตาที่ต้องได้รับการรักษา

แสงสุรีย์ยังกล่าวออกรายการโหนกระแสทางช่อง 33 เอชดี เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย ผู้ดำเนินรายการ และไทด์ เอกพันธ์ ร่วมในรายการ เมื่อถูกถามว่า หากชวดเงินเยียวยา 5 พัน จะทำอย่างไร อดีตนักร้องกล่าวสั้นๆ ว่า “ก็อยู่ตามมีตามเกิด มีข้าวสารก็หุงกินไป มีเงินน้อยก็ใช้น้อย”

หากไม่มีเรื่องของโควิด-19 ก็คงยากที่จะรู้ว่า กรุงเทพฯ ยังมีคนยากคนจน คนที่ตกสำรวจจากทุกสารบบ ที่ยังรอความช่วยเหลืออย่างแท้จริง ยากที่จะทางการจะเข้าถึงและคงไม่มีวันเข้าถึง

เป็นเหตุผลว่าทำไม บิณฑ์กับไทด์และทีมงานจึงไม่ต้องการหลักฐานใดๆ เป็นเงื่อนไขในการแจกเงิน ขอให้รู้ว่าแต่ละชุมชนมีกี่ครัวเรือน ก็จะนำเงินไปช่วยให้ครบทุกหลังคาเรือน แม้แต่บ้านเพิงหมาแหงน ก็จ่ายให้อย่างเท่าเทียมกัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image