คอลัมน์หน้า 3 : วิถี การเมือง ประวิตร วงษ์สุวรรณ ‘พี่นี้มีแต่ให้’
แม้ในที่สุดแล้ว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะตัดสินใจยอมรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แต่จะก้าวไปถึงตำแหน่งหัวหน้ารัฐบาลหรือไม่
ยังเสมอเป็นเพียงการคาดหมาย
เป็นการคาดหมายจาก 1 ภาวะอันเป็น “อนิจจัง” ความไม่แน่นอนในทางการเมือง และ 1 แรงดันอันมาจากคนรอบข้าง
คนรอบข้างซึ่งรวมถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อยู่ด้วย
เพราะการเมืองล้วนดำเนินไปตามสถานการณ์ หากว่าสถานการณ์รู้เห็นเป็นใจและเอื้ออำนวยให้โอกาสที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะก้าวเดินไปถึงขั้นนั้น
ย่อมมีความเป็นไปได้ ย่อมเกิดขึ้น
กระนั้น หากประเมินจากการวางตัวและการดำรงอยู่ตั้งแต่อดีตกระทั่งทุกวันนี้ก็ยากที่จะเชื่อว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะเลือกเส้นทางแบบนั้น
เพราะนี่คือวิถีในแบบของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
ภาพลักษณ์อันเป็นตัวตนของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ตั้งแต่ลงหลักปักฐาน ณ กรมทหารราบที่ 2 มหาดเล็กรักษาพระองค์มีความเด่นชัด
เด่นชัดในความเป็น “พี่ใหญ่”
เป็นพี่ใหญ่ให้กับน้องๆ ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ทยอยกันเข้าไป
บทบาทของ “พี่ใหญ่” เป็นในแบบ “สลากกินแบ่ง”
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อ่านออก แทงทะลุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ควรเล่นบทใด พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ควรเล่นบทใด
ที่สำคัญก็คือ ตัวของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะอยู่ในจุดอย่างไร
อำนาจอัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้มาผ่านการตระเตรียม วางแผนอย่างเป็นระบบ แต่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็มิได้เล่นบท “กินรวบ”
หากแบ่งให้น้องๆ ไปตามบท ไปตามความเหมาะสม
การเคลื่อนไหวล่าสุดอันเกิดขึ้นภายในพรรคพลังประชารัฐอาจทำให้ “เกจิ” ทางการเมืองมองทะลุไปจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคถึงขั้นนายกรัฐมนตรี
นั่นอาจมิใช่ “เป้าหมาย”
เป้าหมายของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ น่าจะยังดำรงเหมือนกับที่เคยดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 มหาดเล็กรักษาพระองค์
หรือแม้กระทั่งเมื่อเป็น “ผบ.ทบ.”
นั่นก็คือ ปฏิบัติการทุกอย่างเพื่อตระเตรียม เคลียร์และสร้างความสะดวกให้กับน้องๆ ไม่ว่าจะชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่าจะชื่อ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา
เป็นวิถีในกระสวน “พี่มีแต่ให้”
หากแม้กระทั่งเพื่อนเก่าจากเซนต์คาเบรียลอย่าง ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ก็เคยจัดการมาแล้วเมื่อเดือนสิงหาคม 2558
ยุทธการยึดพรรคในเดือนมิถุนายนก็ย่อมเกิดขึ้นได้
ความละเอียดอ่อนของสถานการณ์ระหว่างปฏิบัติการในเดือนสิงหาคม 2558 กับสถานการณ์ในเดือนมิถุนายน 2563 อาจแตกต่างกัน
ผลสะเทือนก็ย่อมแตกต่างกันไปด้วย
เดือนสิงหาคม 2558 ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อาจเพียงโพล่ง “แบ่งแยกแล้วปกครอง” แต่ในเดือนมิถุนายน 2563 อาจไปไกลกว่านั้น
เพราะ “กลุ่ม 4 กุมาร” ก็ใช่ว่าจะงอก่องอขิง หมอบราบคาบแก้ว
