บทนำ : ตรวจสอบเงินกู้
มองเข้าไปในยอดเงิน 4 แสนล้านบาท ที่ต้องไปกู้เงินมาตาม พ.ร.ก.ให้กู้เงิน 1 ล้านล้านบาทแล้ว ณ บัดนี้เริ่มมีความคืบหน้า โดย นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ ในฐานะประธานคณะกรรมการกลั่นกรองโครงการ ใช้เงินกู้ดังกล่าว เปิดเผยว่า ในก้อน 4 แสนล้านบาท มีผู้เสนอโครงการเข้ามา แบ่งเป็นของบพัฒนาภาคการเกษตรมูลค่าเพิ่ม และการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพมา 91 โครงการ วงเงิน 2.2 แสนล้านบาท โครงการเศรษฐกิจฐานราก ที่เสนอจากระดับหน่วยงานและจังหวัด 28,331 โครงการ วงเงิน 3.72 แสนล้านบาท โครงการส่วนราชการ 13 กระทรวง 4 หน่วยงานที่ขึ้นตรงสำนักนายกรัฐมนตรี 115 โครงการ วงเงินกว่า 1.68 แสนล้านบาท รวมแล้วมีมูลค่ามากกว่าเงินกู้ที่เตรียมไว้
นายทศพรเปิดเผยถึงระยะเวลาการดำเนินการใช้เงินกู้เพื่อฟื้นฟูว่า สศช.ได้ตั้งคณะอนุกรรมการคัดกรอง เพื่อพิจารณาแผนโครงการที่เสนอมาจากหลายส่วน รวมถึงได้เปิดให้ประชาชนตรวจสอบโครงการที่เสนอมาได้ผ่านเว็บไซต์ สศช. ระหว่างวันที่ 5-15 มิถุนายน 2563 ส่วนวันที่ 15-30 มิถุนายน จะนำโครงการที่ผ่านการพิจารณาเสนอคณะอนุกรรมการพิจารณา ซึ่งหนึ่งในคณะอนุกรรมการจะมีนักวิชาการเข้ามาร่วม ก่อนที่จะเสนอเข้าคณะรัฐมนตรีในวันที่ 7 กรกฎาคม เพื่อพิจารณาอนุมัติและเบิกจ่ายงบประมาณรอบแรกในเดือนกรกฎาคม รอบที่สองเดือนสิงหาคมปีนี้ และโครงการที่เหลือภายในเดือนกันยายนปีหน้า
เมื่อการจัดการใช้เงินมีความคืบหน้า ฝ่ายตรวจสอบการใช้เงินก็เริ่มตั้งไข่ โดยวิปรัฐบาลเห็นชอบให้ตั้ง กมธ.วิสามัญพิจารณาตรวจสอบติดตามการใช้เงินตาม พ.ร.ก.เงินกู้ 1.9 ล้านล้านบาท จำนวน 49 คน ซึ่งงบประมาณ 4 แสนล้านบาท ที่นำมาใช้ฟื้นฟูนี้ เงินที่นำไปใช้จ่ายล้วนเป็นเงินที่กู้ยืมมา เงินจำนวนดังกล่าวต้องคืนเจ้าหนี้เมื่อครบกำหนด และเงินที่จะนำไปคืนเจ้าหนี้พร้อมดอกเบี้ย หนีไม่พ้นภาษีประชาชน ดังนั้น ประชาชนจึงควรเข้าไปมีส่วนร่วมในการใช้งบประมาณเหล่านี้ด้วย
การที่ สศช.เปิดให้ประชาชนได้ตรวจสอบโครงการนั้นเป็นเรื่องดี ประชาชนควรเข้าไปตรวจดู ตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึงวันที่ 15 มิถุนายน หากมีข้อคิดเห็นประการใด รัฐบาลควรเปิดช่องทางรับฟัง และหลังจากแต่ละโครงการผ่านการพิจารณาแล้วนำไปสู่การปฏิบัติ ภาคประชาชนก็ยังควรเกาะติดการใช้เงินกู้ดังกล่าว เพื่อให้การใช้เงินเกิดประสิทธิภาพ และหากพบการทุจริต ณ ที่ใด ภาคประชาชนย่อมเป็นอีกเรี่ยวแรงในการตรวจสอบและเปิดโปง ทั้งนี้ เพื่อให้เงินทุกบาททุกสตางค์เป็นประโยชน์ต่อประชาชน
ให้มากที่สุด
