คุณภาพคือความอยู่รอด : เหตุที่เราสวมใส่หน้ากาก : โดย วิฑูรย์ สิมะโชคดี

คุณภาพคือความอยู่รอด : เหตุที่เราสวมใส่หน้ากาก : โดย วิฑูรย์ สิมะโชคดี

คุณภาพคือความอยู่รอด : เหตุที่เราสวมใส่หน้ากาก : โดย วิฑูรย์ สิมะโชคดี

ความสำเร็จของประเทศไทยในการควบคุม COVID-19 ได้กลายเป็นกรณีตัวอย่างให้กับประชาคมโลกนี้ ดังเห็นได้จากบทความเรื่อง “How Thailand Contained COVID-19” ที่ตีพิมพ์ใน Foreign Policy In Focus ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมและยินดีเป็นอย่างยิ่ง

เมื่อสถิติ ณ วันที่ 10 มิ.ย.63 ของผู้ป่วยรายใหม่ในบ้านเราเป็นศูนย์ซึ่งมากกว่า 14 วันแล้ว (ยกเว้นกรณีที่กลับมาจากต่างประเทศ และถูกกักตัว) ทำให้มาตรการที่เข้มงวดต่างๆ ผ่อนคลายลง เพื่อเปิดโอกาสให้ระบบเศรษฐกิจ (ที่ไม่เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อร้ายโควิดมาก) ได้ดำเนินการต่อไป แต่ให้ผู้ประกอบกิจการและสถานประกอบการต่างๆ ต้องมีการดำเนินการตามมาตรการที่ปลอดภัยต่อสุขภาพและข้อแนะนำในการป้องกันโรคระบาด เช่น การเช็กอินโดยแอพพลิเคชั่น “ไทยชนะ” การวัดไข้ การล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ การรักษาระยะห่าง เป็นต้น

แต่ในความเป็นจริงแล้ว มาตรการผ่อนคลายต่างๆ ทำให้เรารู้สึกสบายใจขึ้น และเริ่มมีพฤติกรรมที่ผ่อนคลายต่างจากตอนประกาศปิดเมือง (Lockdown) ใหม่ๆ ที่เข้มงวดเอาจริงเอาจัง

Advertisement

เมื่อเดือน มี.ค.และ เม.ย.63 ถนนที่เคยร้างแทบไม่มีรถวิ่งเลย แต่ทุกวันนี้ได้เปลี่ยนไป รถบนท้องถนนเริ่มมีมากขึ้น ถนนหลายเส้นก็เริ่มติดขัด โดยเฉพาะในช่วงเช้าก่อนเริ่มงาน และช่วงเย็นหลังทำงาน การจราจรก็ติดขัดเหมือนเดิม

การผ่อนคลายให้ผู้ประกอบการรายย่อยทำมาค้าขาย และร้านค้า และธุรกิจบางอย่าง สามารถดำเนินการต่อไปได้ จึงมีความสำคัญมาก เพราะมีผู้คนระดับล่างที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการปิดเมืองและห้ามดำเนินกิจกรรมใดๆ เริ่มจะออกอาการ “อยู่ไม่ได้แล้ว” แต่ยังดีที่มาตรการเยียวยาต่างๆ ของภาครัฐมากมาย และมี “ตู้ปันสุข” เกิดขึ้นหลายจุด แต่ก็ยังคงมีผู้เดือดร้อนยืนเข้าคิวรับของแจกยาวเหยียด บางแห่งก็ไม่สามารถรักษาระยะห่างได้เลย

ทุกวันนี้ ตัวอย่างของ “ความรู้สึกผ่อนคลาย” และ “ความชะล่าใจ” จะมีให้เห็นในที่ต่างๆ มากมาย

Advertisement

เราเริ่มเห็นการปล่อยปละละเลยผู้คนเข้าร้านอาหาร ทั้งที่หน้าร้านมีป้ายประกาศไว้ชัดเจนว่า ให้มีลูกค้าเข้าทานอาหารได้กี่คน แต่ “ทั้งเจ้าของกิจการและลูกค้า” ก็ทำเป็นไม่เห็นไม่สนใจ และเข้าไปทานเป็นปกติเหมือนไม่มีเรื่องโควิดเกิดขึ้น คือ ไม่ต้องวัดไข้ก่อนเข้าร้าน นั่งทานแบบไม่ต้องรักษาระยะห่าง ไม่มีฉากพลาสติกกั้น คนนั่งโต๊ะติดกันและเกินจำนวน ทั้งที่หน้าร้านระบุไว้ไม่เกิน 30 คน แต่ประเมินดูคร่าวๆ แล้ว มีลูกค้าเกินจำนวนมาก

โดยส่วนตัวแล้ว ผมเชื่อว่าหลายปัจจัยที่ทำให้เราประสบความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19 ก็เพราะเรามีระบบสาธารณสุขและบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความสามารถและมีความเป็นมืออาชีพสูงมาก เรามีอาสาสมัครช่วยกันทำงานอย่างทั่วถึง คนไทยกลัว COVID-19 และเชื่อหมอ รัฐบาลทุ่มเทและเข้มงวดจริงจัง วัฒนธรรมไทยไม่นิยมการสัมผัสโอบกอดกัน คนไทยรักพ่อแม่ลูกหลาน (จึงกลัวเอาเชื้อไปติดครอบครัว หรือเป็นต้นเหตุที่ทำให้คนอื่นต้องลำบากด้วย) และอาจเนื่องมาจากอากาศบ้านเราที่ร้อนมาก

ทุกวันนี้ เราจะเห็นทุกคนสวมใส่ “หน้ากากอนามัย” เพราะการไม่ใส่หน้ากากเมื่ออยู่นอกบ้าน เหมือนการถูกลงโทษทางสังคม ครับผม!

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image