รื่นร่มรมเยศ : ‘สมาธิ’ประยุกต์นำมาใช้ได้ในชีวิตประจำวัน : โดย เสฐียรพงษ์​ วรรณปก

รื่นร่มรมเยศ : ‘สมาธิ’ประยุกต์นำมาใช้ได้ในชีวิตประจำวัน : โดย เสฐียรพงษ์​ วรรณปก

รื่นร่มรมเยศ : ‘สมาธิ’ประยุกต์นำมาใช้ได้ในชีวิตประจำวัน : โดย เสฐียรพงษ์​ วรรณปก

หลายๆ ท่านคงเป็นคนที่มีกีฬาในหัวใจ คือการชอบกีฬา เล่นกีฬา หรือดูกีฬา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทางออกในอารมณ์ที่แก้ไขความเครียดในตัวเองได้ พอๆ กับอีกหลายๆ ท่านเลือกหาทางออกชนิดอื่นๆ อย่างการอ่านหนังสือเบาๆ ฟังหรือดูดนตรี หรือถ้าจะให้ดีก็ดูตลกให้ใจปลอดโปร่ง ได้ส่งเสียงหัวเราะเต็มกำลังรู้แล้วรู้รอดไป

เพื่อนผมคนหนึ่งเขาเลือกการพักผ่อน ปล่อยวางทางสมองด้วยการดูกีฬามวย โดยเฉพาะมวยสากลที่กำลังฮิตติดอันดับในบ้านเมืองเรา จนมีแชมป์โลกหลายคน เขาบอกว่าเกิดความรู้สึกประทับใจอย่างมาก ไม่ใช่เพราะสไตล์การชกสวยงามของนักมวย แต่มาจากตัวผู้จัดการท่านหนึ่งที่บอกกล่าวเตือนสตินักมวยว่า ให้มี “สมาธิ” ทำใจให้มั่นคง นึกถึงและยึดมั่นในพระพุทธคุณ

นักมวยผู้นั้นเป็นผู้เชื่อฟังโค้ชหรือผู้ฝึกสอนในเชิงฝึกปรือตามตำรับตำราว่าด้วยพิชัยยุทธ์ของการใช้กำปั้นหุ้มนวมเป็นศิลปะอยู่แล้ว จึงรับคำเตือนสติได้ไม่ยากนัก และคาดกันว่าเขาคงใช้ “สมาธิ” และความมุ่งมั่นได้ดีพอสมควร เพราะปรากฏว่าได้รับชัยชนะมาเป็นรางวัลแด่ประชาชนในลำดับต่อมาเมื่อเสร็จสิ้นการชก

Advertisement

การทำสมาธิดังกล่าวอาจทำได้ง่ายๆ และเป็นเพียงเบื้องต้น ยังไม่เข้าถึงกฎเกณฑ์เบื้องลึก แต่กระนั้นก็สามารถส่งผลให้เห็นปรากฏได้ คนเราลองมีความตั้งใจมุ่งมั่นอยู่กับอะไรสักอย่างมักได้ผล คิดดีก็ย่อมได้ดี…คิดชั่วก็ย่อมได้ชั่วได้ความเลวร้ายมาทันตาเห็นเช่นกัน ล้วนแล้วแต่เป็นคำสอนคำเตือนสติที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงลุล่วงเห็นจริง หนีไม่พ้นความจริง 4 ประการ

แม้เป็นการทำสมาธิเบื้องต้นก็สามารถเห็นคุณประโยชน์บ้างมิใช่หรือ

ท่าน “อิสระมุนี” ให้ความกระจ่างในเรื่องการทำใจให้มีสมาธิว่า เป็นตัวให้เกิดปัญญา เมื่อมีปัญญาแล้วจะเป็นตัวทำลายความทุกข์ทางใจให้หมดสิ้นไปอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด และอย่าไปหลงใหลในทางที่ผิด เช่น การอ้อนวอน หรืออธิษฐานขอเอาอะไรๆ ตามใจชอบ

Advertisement

เห็นจะนับเนื่องเข้าหา “ความเป็นผู้มีสติ” เข้ามาข้องเกี่ยวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อรู้ตัวว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ ก็ต้องคิดต่อไปว่า ที่กำลังกระทำอยู่นั้นถูกต้องหรือเปล่า ถ้าไม่…ก็จงตั้งสติใหม่ให้ถูกทิศถูกทางคือไม่หลงทาง

เมื่อมีสติแล้วก็สามารถตามดูความรู้สึกภายในจิต ย่อมสามารถตัดความทุกข์ตั้งแต่ความทุกข์เล็กๆ เช่น ความหงุดหงิดใจไม่เป็นปกติซึ่งมักจะเกิดเป็นเบื้องต้น ความตั้งใจเด็ดเดี่ยวช่วยให้เกิดสมาธิตัดความหงุดหงิด ความกังวลออกไปได้จากจิต ถ้ายังคิดห่วงอันใดอีกก็ตัดได้อีก ทำอยู่เช่นนี้เสมอๆ ปัญญาของท่านก็จะสมบูรณ์เปี่ยมอยู่ในจิต

นี่แหละท่าน “อิสระมุนี” ว่ามันคือทรัพย์สินอันประเสริฐสุดในชีวิต

อย่างไรก็ตาม ผมคงจะมาจบเรื่องราวลงที่เพื่อนคนที่ให้ความคิดเกี่ยวกับนักมวยมี “สมาธิ” ว่าเขาอยากเห็นตัว “สมาธิ” แพร่ระบาดเข้าไปในวังวนของนักการเมืองบ้านเราบ้าง เผื่อปากจะได้มี “หูรูด” พูดจาแต่สิ่งดีๆ ไม่เอาแต่เชือดเฉือนกันอย่างขาดสติ

จะเป็นไปได้หรือ…ก็เป็นปุจฉาให้คิดอย่างมีสติอีกทีก็แล้วกัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image