บทนำ : ต่างชาติเริ่มเข้าไทย

บทนำ : ต่างชาติเริ่มเข้าไทย

บทนำ : ต่างชาติเริ่มเข้าไทย

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงถึงข้อสรุปของ ศบค.ชุดเล็ก เรื่อง Medical and wellness program ว่า หลังจากนี้จะใช้คำว่าโปรแกรม จะไม่ใช้คำว่าทัวริสซึ่ม เพราะผู้ที่เดินทางเข้ามาคือ ผู้ป่วย โดยจะเป็นผู้ที่เข้ามาผ่านทางเมดิคัล ฮับ (Medical Hub) ซึ่งประเทศไทยมีชื่อเสียงมาก และเพื่อการหมุนเวียนเศรษฐกิจ วัตถุประสงค์คือ การกักกันตัวร่วมกับการรักษาพยาบาล เป้าหมายคือ ผู้ป่วยและผู้ติดตามชาวต่างชาติที่มีความจำเป็นต้องเข้ามารับการรักษาพยาบาลเท่านั้น ตามโรคเฉพาะกลุ่มเดินทางด้วยสายการบิน โดยรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง รักษาพยาบาลรวมกักกันตัวจนครบ 14 วัน ในสถานพยาบาลที่กำหนด และต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 รวม 3 ครั้ง ทั้งนี้เพื่อสร้างรายได้กลับเข้าสู่ประเทศ และเพื่อให้ไทยเป็นที่ยอมรับในเวทีโลก

นพ.ทวีศิลป์กล่าวอีกว่า ขณะนี้มีผู้ขึ้นทะเบียนรวม 34 ประเทศ รวม 3 เดือน ผู้ป่วย 1,169 คน และผู้ติดตาม 1,521 คน โดยจากประเทศทางอาเซียน 1,685 คน จีน 389 คน ยุโรป 23 คน เอเชียใต้ 125 คน ตะวันออกกลาง 427 คนอเมริกาเหนือ 16 คน โอเชียเนีย 1 คน และแอฟริกา 23 คน โดยทิศทางคือ ก่อนเข้ามาจะต้องปลอดเชื้อโควิด-19 กระทรวงการต่างประเทศอนุมัติ ระหว่างอยู่ในประเทศไทย 14 วัน ในสถานพยาบาล และไม่ให้กลับออกก่อน 14 วัน

การอนุญาตให้ชาวต่างชาติเข้ามาประเทศไทยถือเป็นอีกก้าวหนึ่งในสถานการณ์โควิด-19 ระบาดทั่วโลก โดยตังแต่วันที่ 1 กรกฎาคมที่ประเทศไทยเริ่มผ่อนปรน และมีชาวต่างชาติตอบรับที่จะเข้ามาในประเทศ จวบจนถึงบัดนี้ ปรากฏว่าทุกอย่างยังคงอยู่ในความควบคุม ซึ่งหากการเปิดทางให้ชาวต่างชาติเข้ามาโดยที่ประเทศยังปลอดภัยจากการระบาดของโรคได้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า แนวทางการเปิดประเทศให้ชาวต่างชาติที่ต้องการมาพักผ่อนในไทยจะสามารถขับเคลื่อนเป็นรูปธรรมได้ในที่สุด เพื่อให้การท่องเที่ยวของไทยฟื้นตัว และช่วยให้เศรษฐกิจประเทศขยับขึ้น และหากสามารถมีข้อตกลงที่ทำให้คนไทยก็เดินทางไปยังประเทศที่เดินทางเข้ามาได้ด้วยก็ยิ่งดีเพราะถ้าทุกอย่างดำเนินไปได้และอยู่ในความควบคุม ย่อมส่งผลดีต่อทุกฝ่าย และถือเป็นทางออกของประเทศอีกทางที่ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน น่าจะร่วมแรงร่วมใจกันให้เกิดเป็นรูปธรรมได้จริงๆ

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image