สถานีคิดเลขที่ 12 : ปรับครม.รับสึนามิ

สถานีคิดเลขที่ 12 : ปรับครม.รับสึนามิ

สถานีคิดเลขที่ 12 : ปรับครม.รับสึนามิ

การปรับคณะรัฐมนตรี มีเสียงเร่งเร้าเพิ่มมากขึ้นอีกหน เมื่อทีม 4 กุมาร ประกาศลาออกจากพรรคพลังประชารัฐอย่างเป็นทางการ แต่ยังไม่ลาออกจากการเป็นรัฐมนตรี โดยบอกว่าเรื่องสัดส่วนใน ครม.นั้น เป็นการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี

ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐคนใหม่ ก็พูดหลังการลาออกของ 4 กุมาร ในประเด็นตำแหน่งรัฐมนตรี ว่าเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี

ทุกสายตาจึงต้องจับจ้องมาที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่าจะตัดสินใจอย่างไรในเรื่องนี้

โดยก่อนหน้านี้ หลังเกิดการเปลี่ยนแปลงภายในพรรค เปลี่ยนหัวหน้าและเลขาธิการพรรค ก็มีเสียงเรียกร้องจากคนในพรรคพลังประชารัฐ ว่าจะต้องเปลี่ยนแปลงรัฐมนตรี โดยพุ่งเป้าไปที่ทีมเศรษฐกิจ ที่อดีตหัวหน้าพรรคและอดีตเลขาธิการพรรคนั่งอยู่

Advertisement

ทั้งนี้เก้าอี้ของ 4 กุมารในรัฐบาล ประกอบด้วย เก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายอุตตม สาวนายน อดีตหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ, เก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตเลขาธิการพรรค, เก้าอี้รัฐมนตรีว่าการอุดมศึกษาฯ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ อดีตรองหัวหน้าพรรค โดยมี นาย กอบศักดิ์ ภูตระกูล เป็นรองเลขาธิการนายกฯ

แต่หลังเปลี่ยนแปลงในพลังประชารัฐแล้ว ท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ ต่อการปรับ ครม.คือ ไม่รีบร้อน ยังคงให้รอเวลาที่เหมาะสมไปก่อน

จนมาล่าสุดเมื่อ 4 กุมาร ลาออกจากสมาชิกพรรคแต่ไม่ลาออกจากรัฐมนตรี

คนในพรรคพลังประชารัฐก็ออกมาเรียกร้องทันที ว่าเก้าอี้รัฐมนตรีเหล่านี้ เป็นโควต้าของพลังประชารัฐ เมื่อทั้ง 4 พ้นจากการเป็นสมาชิกพรรค ก็ต้องเอาโควต้านี้มาให้กับคนในพรรคแทน

ภาระการตัดสินใจว่าจะปรับ ครม.หรือไม่ อย่างไร จึงมาตกหนักที่ พล.อ.ประยุทธ์ อีกครั้ง

หลังจากสยบกระแสไปได้ครั้งหนึ่ง แต่ก็มาเกิดแรงกระเพื่อมขึ้นมาอีก

มีการมองในหลายแง่มุม ถึงท่าทีของ 4 กุมาร

ด้านหนึ่งมองว่า การลาออกจากพรรค พร้อมการย้ำว่าเป็นการยุติบทบาททางการเมืองในฐานะสมาชิกพรรค และพวกเราไม่ใช่นักการเมือง เหมือนจะเป็นการประกาศตัวว่า ขณะนี้ดำรงตำแหน่งในรัฐบาล ในฐานะคนนอก ขึ้นตรงกับนายกฯ

เพื่อปลอดพ้นจากแรงกดดันจากพรรคพลังประชารัฐอะไรทำนองนั้น

แต่อีกด้านก็มองว่า เมื่อพ้นจากพรรคพลังประชารัฐ ก็เท่ากับจะถูกทวงคืนเก้าอี้ ด้วยเป็นโควต้าของพลังประชารัฐโดยทันที

ถ้ามองในแง่นี้ ยิ่งเป็นการเปิดทางให้ พล.อ.ประยุทธ์ได้ลงมือปรับ ครม.รวดเร็วขึ้น อะไรทำนองนั้น

จุดสำคัญก็คือ เก้าอี้รัฐมนตรีคลังและพลังงาน เป็นทีมเศรษฐกิจที่สำคัญ รวมทั้งนายกอบศักดิ์ก็เป็นเลขานุการ ครม.เศรษฐกิจด้วย

ขณะที่ปัญหาเศรษฐกิจจากสถานการณ์โควิดนั้น ทุกคนรู้ดีว่าทรุดหนักอย่างมาก ต้องเร่งหาทางออกอย่างจริงจัง

คงจะปล่อยให้ตัวบุคคลที่จะทำงานในกระทรวงเหล่านี้ อยู่ในภาวะเคว้งคว้างไม่ชัดเจนคงไม่ได้

ต้องตัดสินใจกันให้ชัดเจน จะปรับจะเปลี่ยนอย่างไร คงต้องเร่งทำ

ความที่เป็นรัฐบาลบนพื้นฐานพรรคการเมือง ก็เป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้ในประเด็นโควต้า จะมีคนนอกได้กี่มากน้อย เมื่อเทียบกับสัดส่วนของพรรค

ป.หัวหน้าพรรค กับ ป.หัวหน้ารัฐบาล ต้องเร่งคุยกันให้จบ

เพื่อให้ประชาชนมั่นใจในภาวะที่สึนามิเศรษฐกิจกำลังจะมา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image