รื่นร่มรมเยศ : นักการค้ากับความซื่อสัตย์ : โดย เสฐียรพงษ์ วรรณปก

รื่นร่มรมเยศ : นักการค้ากับความซื่อสัตย์ : โดย เสฐียรพงษ์ วรรณปก

รื่นร่มรมเยศ : นักการค้ากับความซื่อสัตย์ : โดย เสฐียรพงษ์ วรรณปก

เมื่อสองสามวันมานี้ผมไปอบรมครูสอนวิชาพระพุทธศาสนาที่จังหวัดแห่งหนึ่ง หลังบรรยายจบเปิดโอกาสให้ครูซักถามปัญหา

ครูท่านหนึ่งปรารภเชิงข้องใจว่า ศีลข้อสี่ น่าจะไม่เหมาะสำหรับนักการค้า ท่านว่านักการค้าที่ไม่รักษาศีลข้อสี่ น่าจะประสบความเจริญก้าวหน้าในการค้าขายมากกว่าผู้เคร่งครัดในศีลข้อสี่ ท่านว่าอย่างนั้น

แล้วก็ยกตัวอย่างว่า ถ้าซื้อสินค้ามาในราคา 10 บาท คนขายเป็นคนเคร่งศีลก็ไม่กล้าบอกว่าราคา 12 บาท ต้องบอกว่าราคา 10 บาท เพราะกลัวจะผิดศีล แล้วอย่างนี้ขายของกี่ปีกี่ชาติก็ไม่มีทางได้กำไร

Advertisement

ผมตอบท่านผู้นั้นว่า สงสัยเราจะมองกันคนละมุม ก่อนตอบผมได้เล่าประสบการณ์ส่วนตัวให้ที่ประชุมฟังว่า ครั้งหนึ่งผมไปซื้อผลไม้ในตลาดนครปฐม หลังจากต่อรองราคาจนเป็นที่พอใจแล้วผมก็จ่ายเงินซื้อ ในขณะที่แม่ค้าหยิบผลไม้ใส่ถุงอยู่นั้น ด้วยความไว้ใจแม่ค้า ผมก็หันไปอีกเจ้าหนึ่งซึ่งขายอย่างอื่นไม่ห่างจากที่นั้นนัก เมื่อซื้อเจ้าที่ว่านี้แล้วก็หันไปรับเอาถุงผลไม้จากแม่ค้ารายดังกล่าว

กลับไปถึงบ้านถึงได้รู้ว่าผลไม้ที่ดีๆ พอกินได้นั้นมีอยู่เฉพาะส่วนบน แต่ข้างล่างนั้นเป็นผลไม้เสียแทบทั้งนั้น

ด้วยความเจ็บใจที่ถูกแม่ค้าเจ้านี้หลอก เมื่อทราบว่าใครจะเข้าตลาดไปซื้อของ ผมก็บอกเพื่อนฝูงว่าอย่าไปซื้อเจ้านั้นเป็นอันขาด ผมโดนต้มมาแล้ว มารู้ภายหลังว่าไม่ใช่เฉพาะผมที่ถูกต้มยังมีอีกหลายคนที่โดนเช่นเดียวกับผม

Advertisement

ปากต่อปากบอกต่อๆ กันไปว่าแม่ค้าเจ้านั้น ไม่ซื่อสัตย์ต่อลูกค้า เอารัดเอาเปรียบขายของเสียๆ ให้ลูกค้ากระจายไปทั่ว เป็นอันว่าแม่ค้าเจ้านั้นได้เสียลูกค้าไปมาก ยิ่งนานวันจำนวนลูกค้าก็ลดน้อยลงไปเรื่อยๆ

จริงอยู่ อาจจะไม่รู้หมดทุกคน แม่ค้าคนนั้นก็อาจยังคงค้าขายอยู่ได้ แต่ขอให้คิดว่าในระยะยาวเธอก็จะขาดลูกค้าที่ควรจะมาอุดหนุน ถ้าเป็นสังคมเล็กๆ เธออาจถูกบอยคอต หมดทางทำมาหากินไปเลยก็ได้

เมื่อผมยกตัวอย่างขึ้นมาอย่างนี้แล้ว ก็ได้ตอบผู้ถามว่า การซื้อสินค้ามาในราคา 10 บาท แล้วมาขาย 12 บาท มิได้เป็นการเสียศีลแต่อย่างใด เพราะใครๆ ก็ทราบอยู่แล้วว่าการค้าขายทุกคนก็ต้องการกำไร คงไม่มีใครซื้อของมา 10 บาทแล้วนำมาขาย 10 บาท

ถ้าลูกค้าถามว่าต้นทุนเท่าไร คนขายบอกว่า 12 บาท อย่างนี้สิครับถึงจะเรียกว่าโกหก คนขายที่ไม่โกหก เมื่อถูกลูกค้าถามเช่นนั้น ก็ตอบไปสิครับว่าต้นทุน 10 บาท แต่ขอกำไรสัก 2 บาทเถอะ อะไรทำนองนี้ คนที่พูดจริงและชื่อสัตย์ต่อลูกค้าอย่างนี้รับรองเป็นที่ไว้วางใจของลูกค้า ทำมาค้าขึ้นแน่นอน สินค้าไม่ดีก็บอกว่าไม่ดี ไม่เอาเปรียบผู้ซื้อด้วยการปลอมปนสินค้าที่ไม่ดี ดังกรณีแม่ค้าผลไม้คนนั้น

รับรองว่ายิ่งค้าขายนานเท่าใด ก็ยิ่งเพิ่มจำนวนลูกค้ามากยิ่งขึ้น เรียกว่า เซ็งลีฮ้อ ตลอดกาล

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image