สถานีคิดเลขที่ 12 : เล่นงานติ๊กต็อก โดน ชุมฉันท์ ชำนิประศาสน์

สถานีคิดเลขที่ 12 : เล่นงานติ๊กต็อก

แอพพ์เล่นสนุกยามเบื่อโดยเฉพาะช่วงล็อกดาวน์โควิดฮิตไม่มีใครเกินก็คือ ติ๊กต็อก-TikTok เดือนหนึ่งๆ มีผู้ใช้ทั่วโลก 800 ล้านราย

บรรดาเราๆ ท่านๆ หลายๆ คนที่โหลดแอพพ์ ติ๊กต็อกมาเล่น คงไม่ได้สนใจหรอกว่าแอพพ์นี้เป็นของบริษัทจีน หรือของใคร เพราะมันเป็นแอพพ์ ที่ดูสนุก เล่นสนุก แสนจะเพลิดเพลิน

ใครจะไปคาดคิดว่ามันจะเป็นเหตุพิพาทใหญ่โตขนาดคนระดับประธานาธิบดีลงมาเล่นงานเอง

ติ๊กต็อกกลายเป็นข่าวใหญ่ระหว่างประเทศติดต่อมาหลายวันมานี้ หลังจากประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐอเมริกา ประกาศเปรี้ยงว่าจะแบนแอพพ์นี้ในอเมริกา

ข้อกล่าวหาที่มีต่อติ๊กต็อก คล้ายๆ แบบหัวเว่ย คือไม่ต้องการให้มีเทคโนโลยีสอดแนมชาวอเมริกัน หรือเข้ามาขโมย “สติปัญญา” ของสหรัฐ

เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงสหรัฐเตือนว่า บริษัทจีนชื่อ ByteDance อาจถูกใช้สำหรับเก็บข้อมูลส่วนตัวของชาวอเมริกัน ซึ่งปัจจุบันใช้ติ๊กต็อกอยู่ไม่ใช่น้อยๆ ราวๆ 80 ล้านคนต่อเดือน

นายไมก์ พอมเพโอ รมว.ต่างประเทศสหรัฐ ที่เคยเป็น ผอ.ซีไอเอ ยังตอบคำถามนักข่าวเขย่าขวัญชาวอเมริกันว่า “ถ้าคุณอยากให้ข้อมูลส่วนตัวของคุณตกอยู่ในมือของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ก็เอาสิ”

สำหรับทรัมป์ ความไม่ถูกชะตากับติ๊กต็อกเพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน เมื่อเดือนมิถุนายน ตอนที่ทรัมป์ไปหาเสียงที่เมืองทัลซา รัฐโอกลาโฮมา มีคนเข้าฟังแค่ 1 ใน 3 ของสนามที่มีความจุ 19,000 คน

ต่อมาพบสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากกลุ่มวัยรุ่นใช้ติ๊กต็อกแกล้งลุงทรัมป์ ด้วยการชวนเชิญเพื่อนๆ ลงทะเบียนขอรับบัตรเข้าฟังการปราศรัย แล้วถึงวันจริงก็ไม่ไป

เจอพวกเด็กๆ คนรุ่นใหม่เล่นงานด้วยแอพพ์ จากจีนแบบนี้ยิ่งน่าแค้นใจ

ล่าสุดนี้ ทรัมป์ยังคาดคั้นเอากับบริษัทไมโครซอฟท์ที่จะเข้าซื้อกิจการติ๊กต็อกส่วนที่ดำเนินการในสหรัฐ เพื่อจะได้เลี่ยงข้อวิตกกังวลว่าจีนจะมาสอดแนมสหรัฐ โดนทรัมป์ขีดเส้นตายว่าถ้ายังไม่บรรลุข้อตกลงซื้อกิจการให้เสร็จสิ้นโดยไว ก็จะแบนแอพพ์ ติ๊กต็อกภายใต้บริษัทจีน วันที่ 15 กันยาฯ นี้เลย

การรับมือนี้ ทรัมป์ถูกมองว่า…เอาอีกแล้ว ทำอะไรแบบที่ประธานาธิบดีคนก่อนๆ เขาไม่ทำอีกแล้ว

แต่ทรัมป์ก็ยังคงเป็นทรัมป์ และน่าจะเป็นทรัมป์ได้มากขึ้นอีก เพราะพฤศจิกายนปีนี้ ชาวอเมริกันต้องเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐกันอีกครั้ง หลังจาก 4 ปีก่อน ทรัมป์กวาดชัยเข้าสู่ทำเนียบขาวได้เหนือความคาดหมาย ทั้งๆ ที่ดูเป็นคนนอกวงการการเมือง ดูเอียงขวาชัดมาก ไม่แคร์สื่อ และพร้อมจะทวีตหาเรื่องได้ตลอด

สถานการณ์ล่าสุดนี้ลุงทรัมป์ดูจะไม่ยอมเสียเวลาไปกับโรคโควิด-19 ระบาดให้มากนัก เพราะนั่นมีแต่เสียคะแนน หันมาเผชิญหน้ากับจีนดูจะเป็นเส้นทางที่น่าสนใจกว่า

เพราะมีกลุ่มชาวอเมริกันส่วนหนึ่งที่ขุ่นเคืองจีนอยู่แล้วพร้อมสนับสนุน

แม้จะมีคนเตือนว่า การเล่นงานติ๊กต็อกครั้งนี้ ลุงทรัมป์อาจเสียคะแนนเสียงจากกลุ่มคนรุ่น Gen Z อย่างแน่นอน แต่แกคงคิดดีแล้วว่า จะเอาชนะใจ Gen Z ไม่ใช่เรื่องง่าย และเวลาที่เหลือนี้ไม่พอแล้ว

ยิ่งเห็นลุงๆ ประเทศอื่น โดนเด็กต้านเอาหนักๆ คงทำให้ถอดใจได้ง่ายขึ้น