มหาอำนาจเชิงเปรียบเทียบ : โดย ทิวสน

สํานักข่าวจีนได้ยกเอาคำพูดเกี่ยวกับความหมายของมหาอำนาจในหนังสือปกขาวที่ให้ชื่อว่า “ประเทศจีนและโลกในยุคใหม่” ซึ่งสำนักงานข่าวสารแห่งชาติของจีนได้ประกาศเมื่อเดือนกันยายน ค.ศ.2019 ซึ่งได้ให้คำอรรถาธิบายว่า “มหาอำนาจจะต้องมีลักษณะของประเทศใหญ่ มหาอำนาจจะต้องมีการแบกรับของประเทศใหญ่ ความใหญ่ของมหาอำนาจมิได้อยู่ที่ตัวใหญ่ กล้ามใหญ่ หมัดใหญ่ แต่อยู่ที่ใจใหญ่ สถานภาพใหญ่ การแบกรับใหญ่” หลังจากได้ผ่านไปครึ่งปี จากประเทศที่สำคัญในโลกได้ปฏิบัติอันสำคัญในการสู้กับโรคระบาดโควิด-19 ได้พิสูจน์ให้เห็นความแม่นยำที่ว่าอะไรคือมาตรฐานและบรรทัดฐานของมหาอำนาจ

บทความของสำนักข่าวจีนยกคำกลอนที่ว่า “สุภาพชนคุณธรรมรู้กันทั่ว คนถ่อยมั่วแต่ได้มิหน่ายแหนง” การที่ประเทศจีนหนุนช่วยการสู้กับโรคระบาดทั่วโลกเป็นการปฏิบัติในการแบกรับความรับผิดชอบของมหาอำนาจ แต่มิใช่เป็นการชิงอำนาจการนำในโลก ต่อหน้าการเกิดโรคระบาดอย่างดุเดือดฉับพลัน ในขณะที่รวบรวมสรรพกำลังต่อสู้กับโรคไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ประเทศจีนก็ได้ใช้ท่าทีที่เปิดเผยโปร่งใสรับผิดชอบประกาศข่าวสารโรคระบาดให้ประชาคมโลกในเวลาแรกเริ่ม ได้แชร์กับองค์การอนามัยโลกและประชาคมโลกในการรับด้านเทคนิคทางวิทยาศาสตร์และดอกผลทางเทคนิคเกี่ยวกับกรุ๊ปไวรัสยีน ในขณะที่ตนเองได้ประสบผลสัมฤทธิ์ในการต่อสู้กับเชื้อไวรัสโควิด-19 และทั่วโลกมีหลายที่หลายจุดเกิดโรคระบาดนั้น ประเทศจีนได้นำเอาบทเรียนความจัดเจนอันล้ำค่าในการป้องกันและควบคุมโรคที่แลกมาด้วยการจ่ายค่าทดแทนและความเสียสละอันมหาศาล ตลอดจนสูตรการตรวจรักษาโรคไปแบ่งปันให้แก่ชาวโลก สนองวัตถุปัจจัยในการต้านเชื้อไวรัสโคโรนาเท่าที่กำลังความสามารถของตนทำได้ให้แก่ประเทศต่างๆ ในโลก “ระดมปฏิบัติการมนุษยธรรมฉุกเฉินทั่วโลกที่มีขนาดมหึมาในประวัติศาสตร์ประเทศจีนใหม่” นับตั้งแต่เดือนมีนาคม-พฤษภาคม ประเทศจีนได้สนับสนุนวัตถุปัจจัยแก่ 200 ประเทศในโลกนี้ ส่งออกหน้ากากทางการแพทย์ 70,600 ล้านชิ้น ชุดป้องกันตัว 340 ล้านชุด ชุดตรวจหาเชื้อสำหรับ 225 ล้านคน ต่อหน้า “การส่งถ่านท่ามกลางหิมะ” มีประเทศจำนวนมากแสดงความขอบคุณและชื่นชม แต่ก็มีบางประเทศกล่าวหาการกระทำของประเทศจีนว่า “เพื่อยกระดับผลสะเทือนทางการเมืองเชิงภูมิรัฐศาสตร์ เป็นการกระทำเพื่อชิงอำนาจการนำในโลกนี้”

“สุภาพชนใจเบิกบาน คนถ่อยหมั่นโศกเศร้า” การหนุนช่วยของประเทศจีนในการด้านเชื้อโควิด-19 ดำเนินไปอันเนื่องด้วยการแบกรับความรับผิดชอบของมหาอำนาจโดยตลอด เพื่อกู้ชีวิตของมนุษย์ให้มากยิ่งขึ้นโดยตลอด เพื่อฟื้นฟูกิจกรรมทางเศรษฐกิจของโลกให้เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วเท่าที่จะทำได้ และก็เพื่อสนับสนุนการแสดงบทบาทการนำและการวางแผนอย่างเป็นเอกภาพของสหประชาชาติและองค์การอนามัยโลก ตรงกันข้าม รัฐบาลสหรัฐอเมริกาที่ยอมปล่อยให้สถานการณ์โรคระบาดในประเทศตนแผ่ขยายกลายเป็นภัยพิบัติโดยในมือกำเช็คเปล่าที่ไม่มีวันขึ้นเงินได้ ได้พร่ำพูดว่าตนเองเป็นผู้นำประเทศต่างๆ ทั่วโลกต้านเชื้อไวรัสอยู่ แต่ข้อเท็จจริงก็คือนอกจากทำอะไรไม่ได้แล้ว ยังก่อความวุ่นวายไปทั่ว แต่ก็โทษเขายาก แม้กระทั่งสื่อและผู้เชี่ยวชาญอเมริกันก็พากันตอบโต้ ซึ่งรังแต่จะก่อให้ประชาชนทั่วโลกซึ่งรวมทั้งพันธมิตรของเขาหัวเราะเยาะเอา

“อับจนดีแต่ตัว รุ่งโรจน์เผื่อทั่วฟ้า” นี่เป็นบรรทัดฐานทางคุณธรรมมาแต่ไหนแต่ไรของคนประเทศจีนในยามเผชิญภาวะกระแสทวนกับภาวะกระแสไหล อีกทั้งเป็นสีสันทางคุณธรรมพื้นฐานของประเทศจีน แต่ไหนแต่ไรประเทศจีนไม่เคยลืมเลือนบอกปัดละทิ้งการแบกรับความรับผิดชอบในฐานะมหาอำนาจ แม้ตนเองจะอยู่ในยามยากลำบากก็ต้องอุทิศพลังส่วนหนึ่งเท่าที่จะทำได้

Advertisement

ในหลายปีที่แล้วมา พร้อมกับการเพิ่มทวีพลานุภาพของรัฐอย่างต่อเนื่อง การส่งกำลังไปรักษาสันติภาพของโลก การคุ้มกันเรือสินค้าทางทะเลมิให้โจรสลัดปล้นชิงเอา การผ่อนคลายความตึงเครียดของภูมิภาค ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นการอุทิศคุณูปการของประเทศจีนต่อสันติภาพของโลกอย่างโดดเด่น เพื่อรับมือกับวิกฤตการณ์ทางการเงินทั่วโลกและการเปลี่ยนแปลงภาวะอากาศนั้น ประเทศจีนได้นำพาการจัดตั้งธนาคารลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเอเชีย ได้ขับเคลื่อนการปฏิบัติ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ให้เป็นจริง ได้เป็นเสาหลักในการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจของโลก ในมิติด้านหนุนช่วยทางการแพทย์การรักษาโรคต่อต่างประเทศก็มีผลงานโดดเด่น นับตั้งแต่ ค.ศ.1963 เป็นต้นมา ประเทศจีนได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ไปรักษาโรคจำนวน 2.5 หมื่นคน/ครั้งใน 69 ประเทศ ได้รักษาผู้ป่วยจำนวน 280 ล้านคน/ครั้งในด้านการรับมือกับเชื้อไวรัสไซคา (Zika) ไข้หวัดใหญ่ H1N1 เชื้อไอโปรา (Ebola) ก็มีคนประเทศจีนร่วมสู้อยู่ที่นั่น ในการต่อสู้กับโรคโควิด-19 ในปัจจุบันก็อย่างที่เห็นๆ กันอยู่

เมื่อเทียบกับความพยายามของประเทศจีนในการส่งเสริมให้มีการพัฒนาอย่างสันติ ในฐานะที่สหรัฐเป็นประเทศเดียวเท่านั้นที่เป็นอภิมหาอำนาจในโลกมีการแบกรับอย่างไรบ้าง? ในด้านการเมืองสหรัฐยึดมั่นในทรรศนะแนวคิดสงครามเย็นและ “ซีโร่เกม” ในด้านการทหารแทรกแซงประเทศอื่นด้วยทหาร ปลุกปั่น “การปฏิวัติสี” ใช้วิธีการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจไปถึงที่ไหนก็ก่อเพลิงสงคราม ทำให้ชาวบ้านบ้านแตกสาแหรกขาด ตะวันออกกลาง แอฟริกาเหนือ ยุโรปตะวันออก อเมริกาใต้ ล้วนตกอยู่ในภาวะวุ่นวายอลหม่านเป็นเวลายาวนาน ด้านเศรษฐกิจได้อาศัยเงินดอลลาร์สหรัฐที่มีสถานะเป็นเงินตราหลักทางสากลโดยใช้วิธีพิมพ์ธนบัตรเกินจำนวนเป็นวัฏจักรวิกฤตทางการเงินให้ประเทศต่างๆ ในโลก หลายปีมานี้ยังใช้สงครามการค้ามาสกัดการพัฒนาของประเทศอื่น กอบโกยผลประโยชน์อันไม่สมควรไม่ถูกต้อง การปฏิบัติตามพันธกรณีทางสากลนั้น กฎกติกาทางสากลและองค์กรทางสากลที่สำคัญ “ถ้าชอบก็ใช้ ถ้าไม่ชอบก็ทิ้ง” โดยได้ถอนตัวออกจากองค์การยูเนสโกและคณะกรรมาธิการว่าด้วยสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ ในยามวิกฤตที่ได้สู้กับการระบาดของโรคโควิด-19 สหรัฐไม่เพียงแต่ดักกักปล้นสะดมวัตถุปัจจัยในการสู้กับโรคไวรัสโคโรนาของประเทศอื่น นอกจากปฏิเสธแบ่งปันตัวเลขด้วยกัน หากยังปฏิเสธการชำระค่าสมาชิกองค์การอนามัยโลกที่คั่งค้างอยู่กระทั่งถอนตัว “ออกจากหมู่” สหรัฐโอ่ตัวเองว่า “เป็นผู้นำของโลก” แต่บทความสำนักข่าวจีนถามว่า การแบกรับในฐานะมหาอำนาจอยู่ที่ไหน ?

“หนี้บุญคุณจากน้ำเพียงหยดเดียว จะต้องเที่ยวตอบแทนเป็นสายธาร” “การรู้สึกเป็นบุญคุณแบบประเทศจีน” เป็นประเพณีอันดีงามที่ประชาชาติจีนสืบสานมานับพันปี ประเทศจีนมิได้ลืมในยามที่สู้กับโรคโควิด-19 ที่ยากลำบากที่สุด ประชาคมโลกได้ให้การสนับสนุนและการช่วยเหลืออันล้ำค่า ทั่วโลกมีผู้นำ 170 กว่าประเทศผู้รับผิดชอบขององค์กรระหว่างประเทศและภูมิภาค 50 องค์กรตลอดจน 300 กว่าพรรคการเมืองและองค์กรทางการเมืองได้ไต่ถามความทุกข์สุขและให้การสนับสนุน มี 77 ประเทศ และ 12 องค์การระหว่างประเทศได้บริจาควัตถุปัจจัยและอุปกรณ์ทางการแพทย์และการรักษาโรคให้ประเทศจีนเพื่อสู้กับ โรคระบาด มีรัฐบาลท้องถิ่น วิสาหกิจ องค์กรภาคประชาชนและส่วนบุคคลได้บริจาควัตถุปัจจัยให้แก่ประเทศจีน ในนั้นมี “ปาเถี่ย” ได้บริจาคหน้ากากอนามัยแบบเททั้งคลังสินค้า มีประเทศมองโกเลียซึ่งอยู่ทางเหนือได้บริจาคแกะ 3 หมื่นตัว มี “เด็กหญิงกี่เพ้า” ของญี่ปุ่นโค้งคำนับเรี่ยไรเงินตามถนนที่โตเกียวเพื่อช่วยจีน มีนักศึกษาเยาวชนประเทศต่างๆ ถ่ายวิดีโอเชียร์ประเทศจีนให้เจียอิ๋ว (สู้ ๆ) … “ภูเขาลำธารต่างแดนต่างภาค มิได้ยากจันทราลมฟ้าเดียว” ประเทศจีนซาบซึ้งประทับใจต่อความปรารถนาดีที่หลั่งไหลมาจากทั่วโลก
“ให้ข้าหวีไม้มู่เถา ตอบแทนเขาด้วยจินดา” ประชาชาติจีนเป็นประชาชาติรู้จักตอบแทนบุญคุณ สิ่งที่ท่านให้เรา เราจะต้องตอบแทนเป็นทวีคูณ เป็นสิบเท่าร้อยเท่า ภายหลังโควิด-19 ระบาดไปทั่วโลก ประเทศจีนได้หนุนช่วย “ปาเถี่ย” ด้วยวัตถุปัจจัยประเภทต่างๆ ซึ่งรวมทั้งชุดตรวจเชื้อยาฆ่าแมลงและอุปกรณ์สำหรับการฆ่าตั๊กแตน ตอบแทนประเทศอิตาลีซึ่งเคยให้หน้ากาก 4 หมื่นชิ้นแก่เราด้วยหน้ากากอนามัยหลายล้านชิ้น รัสเซียซึ่งเคยส่งหน้ากากอนามัยให้เรา 2 ล้านชิ้นก็ได้รับตอบแทนด้วยหน้ากากอนามัย 150 ล้านชิ้นจากประเทศจีนผ่านช่องทางต่างๆ นานา ประเทศจีนยังได้จัดส่งผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์การรักษาพยาบาล 26 ทีมไปยังประเทศที่ต้องการเร่งด่วน ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ล้วนแสดงให้เห็นถึงการแบกรับในฐานะมหาอำนาจ

Advertisement

แหงนหน้าไม่อายฟ้า มองดินไม่อายคน การที่ประเทศจีนหนุนช่วยต่างประเทศสู้กับโรคระบาดเป็นการกอบกู้ชีวิตคนในโลก โดยมิใช่ต้องการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว เป็นการเห็นใจชีวิตคน มิใช่เป็นการแสวงหาชื่อเสียงเกียรติศักดิ์ พฤติกรรมกับใจตรงกัน สง่าผ่าเผย วันที่ 18 พฤษภาคม ค.ศ.2020 เป็นวันที่น่าจดจำ เป็นวันที่
โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ยื่นคำขาดครั้งสุดท้ายต่อองค์การอนามัยโลกว่า “ถ้าภายในหนึ่งเดือนองค์การอนามัยโลกไม่ทำตามข้อเรียกร้องของเขาและได้ทำการปรับปรุงเชิงธาตุแท้อันสำคัญละก็ สหรัฐจะอายัดเงินทุนที่สนองให้องค์การอนามัยโลก” อีกทั้ง “จะพิจารณาใหม่เกี่ยวกับสถานะภาคีที่อยู่ในองค์กรนี้ด้วย” ในวันเดียวกันนั้นเอง ณ ที่ประชุมสมัชชาอนามัยโลก สมัยที่ 73 ซึ่งจัดทางวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนได้ประกาศในพิธีเปิดการประชุมว่าประเทศจีนจะสนองเงินจำนวน 2 พันล้านเหรียญสหรัฐเป็นการหนุนช่วยทางสากลภายใน 2 ปี ร่วมมือกับสหประชาชาติสร้างคลังสินค้าฉุกเฉินทางมนุษยธรรมและชุมทางการลำเลียงในประเทศจีน สร้างโรงพยาบาลจีน-แอฟริกา 30 โรงเพื่อเป็นกลไกความร่วมมือ วัคซีนต้านโควิด-19 ของจีนถือเป็นผลิตภัณฑ์สาธารณะทั่วโลก ประเทศจีนจะร่วมกับกลุ่ม 20 ประเทศปฏิบัติตาม “ข้อริเริ่มเสนอให้ประเทศที่ยากจนที่สุดยุติชำระหนี้เป็นการชั่วคราว” ในยามที่ทั่วโลกพากันต้านเชื้อไวรัสระบาด พฤติกรรมของมหาอำนาจต่างกันราวฟ้ากับดิน ต่างก็เป็นมหาอำนาจ เพราะเหตุใดจึงมีพฤติกรรมต่างกันเช่นนี้

มหาอำนาจหนึ่งมีมิตรทั่วโลก หนุนช่วยซึ่งกันและกันอย่างจริงใจ อีกมหาอำนาจหนึ่งกลับโดดเดี่ยวเดียวดาย ท่านผู้อ่านเปรียบเทียบกันเอาเองได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image