คอลัมน์หน้า 3 : ชุมนุม บานปลาย จาก เยาวชน ปลดแอก กับ กรณี ‘อานนท์’

คอลัมน์หน้า 3 : ชุมนุม บานปลาย จาก เยาวชน ปลดแอก กับ กรณี ‘อานนท์’

ชุมนุม บานปลาย
จาก เยาวชน ปลดแอก
กับ กรณี ‘อานนท์’

กรณีของ บอส อยู่วิทยา กรณีของ บ่อน เฮียตี้ มีความสัมพันธ์กับปรากฏการณ์การจับกุม นายอานนท์ นำภา และ นายภาณุพงศ์ จาดนอก

กลับกลายเป็นคนละเรื่องเดียวกัน

เหตุเพราะกรณีของ บอส อยู่วิทยา เรื่องเกิดตั้งแต่ก่อนรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 แต่มาถึงเดือนกรกฎาคม 2563

Advertisement

ก็เกิดการแปรเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ

เหตุเพราะกรณีของ บ่อน เฮียตี้ เกิดขึ้นใจกลางมหานคร มีการยิงกันตายถึง 4 ศพ แต่กองบัญชาการตำรวจนครบาลไม่แน่ใจว่าเป็น “บ่อน”

เนื่องจากเหตุเกิด 3 ทุ่ม แต่ตำรวจไปถึง 5 ทุ่ม

Advertisement

ตรงกันข้าม กรณีของ นายอานนท์ นำภา และ นายภาณุพงศ์ จาดนอก เหตุเกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 18 กรกฎาคม วันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม ก็มีการจับตัว

เป็นการจับตัวโดยไม่มีการออก “หมายเรียก”

หากไม่มีสถานการณ์อันเกี่ยวกับ คดีบอส อยู่วิทยา หากไม่มีสถานการณ์อันเกี่ยวกับ กรณี บ่อน เฮียตี้ ปะทุขึ้น การจับกุม นายอานนท์ นำภา นายภาณุพงศ์ จาดนอก

ก็อาจถือได้ว่าเป็นเรื่องปกติ

แต่พลันที่เกิดขึ้นในตอนบ่ายของวันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม เรื่องปกติก็กลายเป็นเรื่องไม่ปกติขึ้นอย่างผิดสังเกต

สปอตไลต์จึงฉายจับไปที่ “ตำรวจ”

ยิ่งมีการ “ไลฟ์” สดรายละเอียดของการจับกุม ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศใน สน.สำราญราษฎร์ ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศใน สน.บางเขน

ยิ่งสัมผัสได้ในลักษณะอันเป็น “เอบี-แอบนอร์มอล”

แม้รายละเอียดอันปรากฏตลอดบ่ายและตอนค่ำของวันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม จะไม่ปรากฏผ่านสื่อกระแสหลัก ไม่ว่าโทรทัศน์ ไม่ว่าหนังสือพิมพ์ในเช้าวันต่อมา

แต่คนที่ติดตามผ่าน “ออนไลน์” รับรู้อย่างครบถ้วนบริบูรณ์

ใครก็ตามที่อยู่ในโลกของสื่อเก่า ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์ ไม่ว่าจะเป็นสื่อหนังสือพิมพ์ อาจจะตกใจอย่างใหญ่หลวงเมื่อปรากฏ “แฟลชม็อบ” ที่สกายวอล์ก แยกปทุมวัน

คนนับพันไปรวมตัวกันอยู่ที่นั่น

ทั้งๆ ที่เป็นการนัดหมายกันล่วงหน้าเพียงไม่กี่ชั่วโมง จากตอนสายของเช้าวันเสาร์ที่ 8 สิงหาคม คนนับพันก็ออกจากบ้านไปยังสกายวอล์ก

ไปด้วยอารมณ์ ไปด้วยความไม่เข้าใจ

ไม่เข้าใจว่าเหตุใดการดำเนินคดีกับ นายอานนท์ นำภา นายภาณุพงศ์ จาดนอก จึงรวดเร็ว ว่องไวอย่างเหลือเชื่อ

ขณะที่มีรูโหว่มากมายกับกรณีบอส กับกรณีบ่อน

สถานการณ์จากความไม่เข้าใจเช่นนี้เองนำไปสู่การรวมตัวกันอย่างแทบจะเป็นอัตโนมัติ และที่สุดก็บังเกิดเสียงร้องตะโกนอย่างพร้อมเพรียงกัน

“ออกไป ออกไป”

จากสถานการณ์แฟลชม็อบ ณ ลานสกายวอล์ก ตอนค่ำวันเสาร์ที่ 8 สิงหาคม จึงเป็นเหมือนกับดัชนีชี้วัดถึงแนวโน้มใหม่ที่จะตามมา

ไม่ว่าที่ประตูท่าแพในวันอาทิตย์ที่ 9 สิงหาคม

ไม่ว่าที่ลานพญานาค มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในวันจันทร์ที่ 10 สิงหาคม และการนัดหมายในวันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

ทุกอย่างมีจุดเริ่มมาจาก “เยาวชนปลดแอก”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image