สถานีคิดเลขที่ 12 : เฟซบุ๊กแบบไทยๆ โดย ชุมฉันท์ ชำนิประศาสน์

สถานีคิดเลขที่ 12 : เฟซบุ๊กแบบไทยๆ โดย ชุมฉันท์ ชำนิประศาสน์

สถานีคิดเลขที่ 12 : เฟซบุ๊กแบบไทยๆ โดย ชุมฉันท์ ชำนิประศาสน์

ความซับซ้อนในศึกระหว่างเฟซบุ๊กกับรัฐบาลไทย ว่าด้วยการบล็อกเพจที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน เป็นตัวอย่างหนึ่งที่สะท้อนความขัดแย้งระหว่างทัศนคติและความคิดของรัฐบาลไทยกับอุดมการณ์หรือหลักการสากล

ต่อเนื่องจากที่มีกลุ่มคนไทยส่วนหนึ่งออกอาการไม่พอใจหลักการสากลมาแล้วหลายๆ เรื่อง โมเมเอาว่าไม่เข้ากับสังคมบ้านเรา บ้างก็ซัดว่าฝรั่งก็ปากว่าตาขยิบ บ้างเลยเถิดไปไกลถึงขั้นว่ามีเสรีภาพมากๆ ก็นั่นไง ทำให้โรคโควิดระบาดหนัก

ทั้งที่หลักการคือหลักการ หลักปฏิบัติคือการลงมือ ถ้าทำไม่ดีต้องปรับให้ดีเท่ากับหลักการ ไม่ใช่บิดหลักการลงมาเย้ยหยันว่าแย่เหมือนการปฏิบัติ

Advertisement

เรื่องชัดเจนที่สุดคือการกล่าวอ้างว่า เรามีประชาธิปไตยแบบไทยๆ ประชาธิปไตยแบบเมืองนอกไม่ดีหรอก เพราะต้องฆ่ากันตายกว่าจะได้มา

แบบไทยๆ ที่ว่าคือ เปิดช่องให้ทหารยึดอำนาจรัฐบาลได้ แม้รัฐบาลจะมาจากการเลือกตั้งและแม้รัฐบาลจะจำนนถึงขั้นยุบสภาเพื่อเปิดทางให้มีการเลือกตั้งแล้ว พอรัฐประหารไปแล้วถูกนานาชาติวิจารณ์ ตำหนิ หรือลงโทษ ก็บอกว่าเรามีประชาธิปไตยแบบไทยๆ

ต่อมาเรื่องสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกทางการเมืองหรือแสดงความคิดเห็น กฎหมายไทยก็มีบัญญัติไว้ดูดีทีเดียว แต่ในทางปฏิบัติทำให้งง เพราะบางทีเอาธงชาติไปทำโบผูกผมได้ เป่านกหวีดได้ เข้าไปยึดสถานที่ราชการได้ ปราศรัยเหยียดหยามเพศแม่ได้

Advertisement

แต่ถ้าเด็กๆ เอาโบสีขาวมาผูกผมหรือผูกกระเป๋า หรือชูสามนิ้ว ก็อาจถูกครูแสดงอาการฉุนเฉียวใส่ ตำหนิติเตียน หรือขู่ว่าอีกหน่อยจบไปจะหางานทำไม่ได้ ถ้าหนักขึ้นไปอีกกรณีผู้ประท้วงเป็นผู้ใหญ่แล้วก็จับกุมดำเนินคดีเสียเลย อย่างน้อยก็มีกฎหมายห้ามกีดขวางการจราจร กับกฎหมายห้ามใช้เครื่องขยายเสียงในสถานที่ที่ไม่ได้รับอนุญาต อยู่ในมือแล้ว ไปดักจับเอาตอนเย็นๆ ค่ำๆ ให้ถูกกักตัวไว้โรงพักข้ามคืน

ส่วนสิทธิมนุษยชนแบบไทยๆ คือ เปิดช่องให้ผู้ใหญ่ใช้กำลัง ข่มขู่คุกคาม คาดโทษ จะกล้อนผมนักเรียนก็ได้ จะใช้ถ้อยคำหยาบคาย ประเภทแหกแข้งแหกขา ไม่ให้เกียรติเด็กก็ยังได้

ฉะนั้น ประเด็นเฟซบุ๊กมีแถลงการณ์ที่ส่งสัญญาณมาแล้วว่าจะฟ้องร้องดำเนินคดีกับรัฐบาลไทย กรณีมีคำสั่งให้เฟซบุ๊กบล็อกการเข้าถึงเพจ จึงกลายเป็นข้อพิพาทที่ไม่น่าประหลาดใจ

เพราะเฟซบุ๊กมีหลักการของเขา ที่บอกว่ารัฐบาลไทยขอให้ทำในสิ่งที่ขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนสากล และยังส่งผลกระทบต่อเสรีภาพในการแสดงออก ถือว่าเป็นการแทรกแซงที่เกินขอบเขตของรัฐบาล

ส่วนรัฐบาลก็มียืนกรานว่าต้องยึดกฎหมายไทย เพราะเหตุเกิดขึ้นในแผ่นดินไทย

คำถามแห่งยุคสมัยนี้ก็คือ ปมปัญหาบนโลกออนไลน์จะนับว่าเป็นสิทธิในแผ่นดินใด ในเมื่อออนไลน์เป็นระบบเครือข่ายที่ใช้กันทั่วโลก

ขนาดคนไม่พอใจเฟซบุ๊กเรื่องนี้ ยังใช้เฟซบุ๊กต่อว่าต่อขานบนเพจที่ตัวเองเป็นสมาชิกอยู่เลย

แทนที่จะรบ หันไปร่วมมือกับเฟซบุ๊กให้ช่วยตรวจสอบ คัดกรองเนื้อหาที่แสดงความรุนแรง ความเกลียดชัง เฟคนิวส์ ตามหลักที่เฟซบุ๊กมีอยู่ แล้วพิจารณาไปแต่ละกรณีจะดีกว่าหรือไม่

อย่าได้ขอให้เฟซบุ๊กทำอะไรแบบไทยๆ เลย เพราะมันเป็นไปไม่ได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image