ภาพเก่าเล่าตำนาน : พันตำรวจเอก เจมส์ วิลเลียม แลร์ ภารกิจลับ…งานใหญ่…จะไม่ใช้คนเยอะ… โดย พลเอก นิพัทธ์ ทองเล็ก

เรื่องที่จะคุยกันวันนี้… เมื่อ 70 ปีที่แล้วเคยเป็นเรื่อง “ลับมาก”

นักรบรุ่นคุณปู่ คุณพ่อ รุ่นพี่ ที่เคยผ่านสมรภูมิโหดในลาว ล้มหายตายจากไปไม่น้อย นักรบที่เหลือ ถึงวัยโรยรา ท่านพยายามถ่ายทอดเรื่องลี้ลับ สงครามโหด ที่กลืนกินชีวิตคนนับแสน …ประเทศไทยทำอะไรในยามหน้าสิ่วหน้าขวาน

ฉากสงครามดุเดือดที่สุด สังคมไทยแทบไม่เคยได้ยิน ไม่มีสอนที่ไหน ไม่มีในตำรา …ใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร เมื่อใด และนักรบจากไทยไปสู่สนามรบในลาวได้อย่างไร…?

บรรพบุรุษของเรา ใช้คนน้อยนิด จัดการ ทำสงครามใหญ่…

Advertisement

ลาวเคยแบ่งเป็น 3 ฝ่ายรบกันเอง ฝ่ายซ้าย ฝ่ายเป็นกลาง และฝ่ายขวา มีมหาอำนาจดันหลัง สงครามข้างบ้านเมื่อราว 70 ปีก่อน เป็นสภาวะที่รัฐบาลไทยหนักใจ เหมือนเดินไต่เส้นลวดข้ามหน้าผา

เราต้องเลือกข้างอย่างระมัดระวัง…เพื่อปกป้องมาตุภูมิ

ภาพเก่า…เล่าตำนาน ตอนนี้ ขอเจาะประเด็น “ภารกิจลับ” ของหน่วยข่าวกรองกลาง หน่วยรบพิเศษ หน่วยงานเอกชนของอเมริกา ที่มาสร้างแนวร่วม เข้ามาพูดคุยกับผู้ใหญ่ของไทย…นำนักรบจากไทยไปสู้รบในลาว…

Advertisement

…ย้อนไปเมื่อ พฤษภาคม พ.ศ.2497 แม่ทัพเวียดนามเหนือ ชื่อ นายพล หวอ เหวียน ซ้าป แสดงแสนยานุภาพทำศึกบดขยี้ทหารฝรั่งเศส ณ สมรภูมิเดียนเบียนฟู ฝรั่งเศสที่เคยครอบครอง เวียดนาม ลาว เขมร นับร้อยปี ต้องถอนกำลังออกไปแบบผู้แพ้…โลกต้องตกตะลึง….

กองกำลังเวียดนามเหนือ เรียกว่า เวียดมินห์ เป็นนักรบด้วยหัวใจ

ความรู้สึกของผู้นำเวียดนามในเวลานั้น คือ “เป็นลูกพี่” … เพราะเป็นผู้ปลดปล่อยเวียดนาม ลาว เขมร ให้เป็นอิสระจากฝรั่งเศส

“ผู้นำตัวจริง” ของเวียดนามที่นิยมคอมมิวนิสต์ ชื่อ โฮจิมินห์ ต้องการให้เวียดนาม และประเทศข้างเคียงปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์

วันที่ 8 พฤษภาคม 2497 ตัวแทนเวียดนามคอมมิวนิสต์ ฝรั่งเศส จีน โซเวียต ลาว ตัวแทนเวียดนามฝ่ายที่สหรัฐถือหางและสหรัฐ ไปพบกันในกรุงเจนีวา ทำข้อตกลงหยุดยิง… ผล คือ แบ่งประเทศเวียดนามออกเป็นเหนือ-ใต้ ตามเส้นขนานที่ 17 และมีรายละเอียดอีกมากหลาย…

ข้อตกลงเจนีวา เป็นข้อตกลงแบบหลวมๆ ลุงโฮ ผู้นำเวียดนามคอมมิวนิสต์ ที่เพิ่งชนะสงครามไล่ฝรั่งเศสออกไปได้…ไม่แฮปปี้

ลุงโฮ มุ่งมั่นจะสถาปนาเวียดนามให้เป็น 1 เดียว ต้องปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์เท่านั้น มีลูกพี่จีนและโซเวียต สนับสนุนให้อุ่นใจ

เมื่อการเจรจาไม่ถึงใจพระเดชพระคุณ…ก็ต้องรบกัน

สนธิสัญญาเจนีวา มันก็แค่ตัวอักษรในแผ่นกระดาษ โลกแห่งความเป็นจริง…คือ ใครใหญ่-ใครถูกเสมอ…ลุงโฮ สั่งกองทัพเวียดมินห์ เริ่มแทรกซึมเข้าไปในดินแดนลาวที่การเมืองภายในก็แสนจะยุ่งเหยิง

ลุงโฮ มีแม่ทัพโคตรเก่ง ชื่อ หวอ เหวียน ซ้าป และวัน เทียนดุง ผู้ผ่านการรบมาโชกโชน สร้างเส้นทางลับในป่าเขา เป็นเส้นทางส่งกำลังบำรุงลงสู่เวียดนามใต้ เป็นท่อน้ำเลี้ยงเบี่ยงเข้าไปในดินแดนลาว ชื่อ เส้นทางโฮจิมินห์ ยาวกว่า 1,500 กิโลเมตร (ดูภาพ)

นักรบเวียดนามนับหมื่นเริ่มรุกคืบเข้าสู่ลาว ส่วนหนึ่งเพื่อ สร้าง ปกป้องเส้นทางโฮจิมินห์ รัฐบาลไทยใจหายใจคว่ำ …ไฟบรรลัยกัลป์ลูกใหญ่ลุกโชน ลมกระโชกแรง กำลังพัดพาข้ามแม่น้ำโขงมาเมืองไทย

สหรัฐ ซึ่งเป็น “หัวหน้าใหญ่” ฝ่ายโลกเสรี ตระหนักดีว่า นี่คือ หายนะของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถ้าคอมมิวนิสต์เวียดนาม (ที่มีจีนและโซเวียตสนับสนุน) มีชัยชนะ…มันคือ ความพ่ายแพ้ของโลกเสรี

หน่วยข่าวกรองกลางสหรัฐ หรือ CIA ที่ติดตาม เฝ้ามองสถานการณ์มานานนับปี ขยับตัวเพื่อ “หาวิธีการ” เข้าผจญเพลิงกองใหญ่

สหรัฐให้ความช่วยเหลือ (เรียกแบบสุภาพว่า ร่วมมือ) กับรัฐบาลไทย จัดการฝึก มอบอาวุธ กระสุน อุปกรณ์ เครื่องใช้ทางทหาร ส่งทหารไทยไปศึกษา ฝึกในอเมริกาแบบกระหึ่ม

3 เหล่าทัพ ของไทย มีชีวิตชีวาขึ้นมาทันตาเห็น อาวุธ ยานพาหนะ เครื่องสนาม เครื่องมือสื่อสาร ฯลฯ ที่มหามิตรมอบมาให้ เยี่ยมยอด เป็นของดีมีคุณภาพจริงๆ …ทหารไทยต้องอ่านคู่มือการใช้เป็นภาษาอังกฤษ

พ.ศ.2496 ค่ายทหารไทยหลายหน่วย มีทหารอเมริกัน กิน นอน ฝึก อบรม เกิดหน่วยงาน JUSMAG (Joint United States Military Advisory Group) ทหารอเมริกันเป็นครูฝึกในเกือบทุกค่ายทหาร

(คุณพ่อของผู้เขียน ร้อยโท สนอง ทองเล็ก เป็นทหารพลร่มที่ผ่านฝึกจากกองทัพบกสหรัฐ เคยรับราชการในค่ายสมเด็จพระนารายณ์ ลพบุรี และค่ายธนะรัชต์ ปราณบุรี ผู้เขียนเคยสัมผัสกับ จนท.สหรัฐเมื่อยังเป็นเด็ก และเคยเห็นมีสำนักงานนี้ตั้งอยู่)

ประธานาธิบดีเคนเนดี ที่เกลียดคอมมิวนิสต์สุดชีวิต ให้ไฟเขียวเพื่อเข้าจัดการทหารเวียดนามเหนือในลาว …หากแต่ต้องปิดลับ

ผู้เขียนเคยถามเพื่อนนายทหารสหรัฐว่า ทำไมต้องเรียกว่า “สงครามลับ” หรือ Secret war เพื่อนมะกันตอบแบบติดตลกว่า… เพราะเป็นสงครามที่ไม่ต้องการให้ประชาชนอเมริกันรู้…แต่คนทั่วโลกเค้ารู้กันหมดแหละ…

หน่วยข่าวกรอง CIA ส่งเจ้าหน้าที่และหน่วยรบพิเศษไม่กี่คน เข้าไปในลาวทางตอนเหนือ เพื่อตรวจสอบสถานการณ์ และหาข้อมูลชาวม้ง (Hmong) กลุ่มชาติพันธุ์นับหมื่นคนที่อาศัยบนเขาสูง ทางตอนเหนือของลาว…ชาวม้งมีชีวิตแสนยากจน คับแค้น….

CIA เล็งเห็นผล ที่จะสร้างชาวม้ง ให้เป็นนักรบป่า ภูเขา

ในเวลาเดียวกัน…สหรัฐหันมาเพ่งมองพันธมิตรใกล้ชิด แนบแน่น ทั้งกายใจ คือ กองทัพและตำรวจไทย

ดอลลาร์สหรัฐทำงาน…ปูทางสะดวกทุกหนแห่ง ปฏิบัติการลับในลาวเป็นการปฏิบัติการ CIA ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ

สภาคองเกรส แทบไม่ทราบรายละเอียดการทำสงครามในลาว

ซีไอเอ ทุ่มเทเงิน ความช่วยเหลือ อาวุธ และอาหารอย่างเต็มพิกัด เพื่อครองใจนักรบชาวม้งและครอบครัว

กลับมามองที่ประเทศไทย….

ก่อน พ.ศ.2500 มีแต่ข่าวลือรัฐประหาร ซีไอเอ ค่อนข้างสนิทชิดเชื้อกับ พลตำรวจเอก เผ่า ศรียานนท์ อธิบดีตำรวจ ผู้ได้รับฉายา “บุรุษเหล็กแห่งเอเชีย”

สหรัฐมีหลักการว่า จะให้การฝึก สนับสนุนยุทโธปกรณ์แก่พันธมิตร เพื่อจัดตั้งกองกำลังไปช่วยสหรัฐทำสงคราม

บุคคลคนสำคัญ… ถูกส่งมาจากหน่วยงาน ซีไอเอ เพื่อสถาปนากำลังรบในไทยไปช่วย ซีไอเอ ทำสงครามในลาว…

เขา คือ เจมส์ วิลเลียม แลร์ (James William Lair) หรือ บิล แลร์

บิล แลร์ เกิดในรัฐโอกลาโฮมา เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ.2467 ย้ายไปอยู่เท็กซัส เมื่ออายุ 3 ขวบ… ครอบครัวไม่อบอุ่นนัก

อายุ 16 ปี จบมัธยมปลาย ทำงานหาเงินเรียนหนังสือ บิล มีบุคลิกเงียบขรึมและขี้อาย อยากเป็นทหาร…

อายุ 17 ปี เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัย Texas A&M ในคณะวิศวกรรมธรณีวิทยา เมื่อเรียนจบเทอมแรก กองทัพบกเปิดรับสมัครทหาร บิล รีบไปสมัคร ได้รับการบรรจุในหน่วยรถถังที่ไปประจำอังกฤษและเยอรมนี รวม 3 ปี

เมื่อปลดประจำการ บิล กลับไปศึกษาต่อที่ Texas A&M สำเร็จปริญญาตรีเมื่อ พ.ศ.2493 มีผลการศึกษาดี เป็นวิศวกร มีลักษณะนิสัยที่หน่วยข่าวกรอง CIA ต้องการ คือ เรียนดี ขรึม หน้าตาไม่โดดเด่น

ซีไอเอ เป็นองค์กรที่พิถีพิถัน มีแมวมองไปตามมหาวิทยาลัย เพื่อเลือก “หัวกะทิ” มาทำงาน หนุ่มสาวอเมริกันไม่น้อยฝันจะทำงานกับซีไอเอ…บิล ได้เข้าทำงาน

CIA คือ หน่วยข่าวกรองที่ทรงอิทธิพลระดับโลก ทำงานข่าว และลงมือปฏิบัติงานทั่วโลก เพื่อสร้างความมั่นคงให้อเมริกา รักษาผลประโยชน์ของอเมริกา…มีงบประมาณมหาศาล

บิล ไปฝึกโดดร่มที่ ฟอร์ต เบนนิง จอร์เจีย เมื่อผ่านการอบรมจากสถาบัน ซีไอเอ บิล แลร์ กลายเป็นสายลับมืออาชีพ…ถูกส่งมาเมืองไทยที่กำลังร้อนระอุ

1 มีนาคม พ.ศ.2494 บิล ได้พบกับ เอ็ดวิน เอฟ. สแตนตัน (EDWIN F. STANTON) เอกอัครราชทูตสหรัฐคนแรกประจำในกรุงเทพฯ ไทย-สหรัฐ แนบแน่นจะสกัดกั้นลัทธิคอมมิวนิสต์ที่กำลังคุกคามในลาว

ข้อตกลงสยาม-ฝรั่งเศส พ.ศ.2469 กำหนดไว้…ห้ามมีกองกำลังทหารในระยะ 25 กิโลเมตร ในบริเวณชายแดน…

ไทยก็ทำตามเคร่งครัด…ไม่มีทหาร แต่ขอมี ตำรวจตระเวนชายแดน

บิล แลร์ เสนอโครงการเพิ่มขีดความสามารถตำรวจไทย

บิล เลือกที่จะทำงานกับตำรวจ เริ่มวางแผนการฝึก หาที่ตั้งหน่วยฝึก หาของ คน ฯลฯ ต้องการสถาปนา ตชด. เป็นนักรบแบบกองโจร เพื่อทำหน้าที่ตามแนวชายแดนภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ

การฝึกที่ใช้งบประมาณมากที่สุด คือ การฝึกส่งทางอากาศ (การโดดร่ม) ให้กับตำรวจตระเวนชายแดนไทย เพราะต้องใช้อากาศยาน มีร่มสำหรับโดด ซีไอเอ จัดให้ทั้งหมด…

บิล และชุดครูฝึกอเมริกัน ฝึกตำรวจเป็นหน่วยแรกที่ค่ายฝึกเอราวัณ ลพบุรี รุ่นแรก 50 นาย เพิ่มเติมการ “ฝึกรบแบบกองโจร”

(ค่ายเอราวัณ เดิมเป็นพื้นที่ทหารญี่ปุ่นใช้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ต่อมาส่งมอบให้ตำรวจเพื่อใช้เป็นพื้นที่การฝึก)

ตชด. กลายเป็นกองกำลังหลักที่ซีไอเอ จัดตั้งขึ้นเพื่อรบกับคอมมิวนิสต์

ซีไอเอ สนับสนุนตำรวจไทยเต็มพิกัด กลายเป็นซุปเปอร์แมน มีตำรวจยานเกราะ มีตำรวจพลร่ม ตำรวจน้ำ มีอาวุธทันสมัย ตชด. ที่ผ่านการฝึกจากซีไอเอ โดดร่มได้ เรียกว่าหน่วย PARU คือ Police Aerial Reinforcement Unit หรือตำรวจส่งกำลังทางอากาศ

14 ธันวาคม พ.ศ.2503 บิล บินไปเจรจาลับกับ พันตรี วังเปา มีแผนจะจัดตั้งกองกำลังชาวม้งให้ได้ราว 30,000 นาย

ซีไอเอ ทำงานลับในลาวได้ราบรื่น ดอลลาร์สะพัดเช่นเคย

ปลายปี พ.ศ.2503 บิล สร้าง “ข่ายการติดต่อ” ในทางลับระหว่าง พันตำรวจโท ประเนตร ฤทธิฤาชัย ตชด.ไทย กับ วังเปา ในลาว

ประวัติศาสตร์บันทึกไว้ว่า นี่คือ “จุดกำเนิด” ของการทำสงครามลับในลาว พูดคุย ณ บ้านท่าเวียง ทางตอนใต้ของทุ่งไหหิน เป็นข้อตกลงที่จะให้ ตชด.ไทยไปทำหน้าที่ครูฝึกให้ชาวม้ง (ส่วนหนึ่ง) เป็นนักรบ

พ.ศ.2503 บิล แลร์ มีโอกาสได้พบกับ จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ และนายทหาร นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในวงเล็ก ที่สำคัญที่สุด คือ ตั้ง บก. ผสม 333 เพื่อจัดส่งนักรบไทยไปทำงานในลาว

ซีไอเอไม่ทำให้ผิดหวัง สัมภาระ อาวุธ กระสุน อาหาร เสื้อผ้า ถูกส่งลงโดยการทิ้งร่ม ณ บริเวณที่ ตชด.ไทยและชาวม้งทำการฝึกในลาว

วิศวกรจากเท็กซัสกลายเป็นคนสำคัญที่ กรมตำรวจไทยแต่งตั้งให้เป็น พันตำรวจเอก พร้อมด้วยซีไอเออีก 2 นาย มียศร้อยตำรวจเอก

นายตำรวจหนุ่มมือดีที่ พล.ต.อ.เผ่า คัดเลือกไปทำงานฝึกและสร้างนักรบ คือ ร.ต.ต.เสน่ห์ สิทธิพันธุ์ และ ร.ต.ต.สุวรรณ รัตนชื่น

พลโท วิฑูรย์ ยะสวัสดิ์ จากกองทัพบก เป็นผู้ดำเนินการในทางลับ จัดส่ง ประสานงานการทำงานทั้งปวงกับ ซีไอเอและลาว

มีนายทหารไทยระดับ “ท็อปแมน” ถูกส่งไปทำงานกับใกล้ชิดระดับ นายทหารคนสนิทของผู้ใหญ่ในกองทัพลาว เพื่อการวางแผนยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี

กองทัพเวียดนามเหนือ ยังรุกหนักในลาว สหรัฐเริ่มทิ้งระเบิดอย่างหนัก

กฎหมายสหรัฐห้ามกองทัพสนับสนุนการรบ เลยต้องใช้ “เอกชน” ออกหน้า วอชิงตัน ตั้งบริษัทใช้ชื่อเป็นรหัสว่า บริษัท SEA Supply (South East Asia Supply) ประหนึ่งเป็นร่างทรงของรัฐบาลสหรัฐ

วอชิงตันว่าจ้างบริษัทเอกชน ชื่อ แอร์อเมริกา ทำงานทั้งหมด ซึ่งนักบินส่วนหนึ่งก็ คือ นายทหารนักบินอเมริกัน

นายทหารไทยจำนวนหนึ่ง ถูกส่งเข้าสนามรบแบบตั้งตัวไม่ติด

กำลังรบที่แข็งแกร่งกว่า 4,000 นายจากไทยที่ได้รับการฝึกฝนจากสหรัฐ ซึ่งรู้จักกันในชื่อ เสือพราน ทยอยเดินทางไปสมรภูมิลาว เป็นผลัด บางส่วนมิได้กลับมาอีกเลย

บิล ของบประมาณมาให้ไทยจัดตั้งกองพันพิเศษ ต่อมาคือ ค่ายสฤษดิ์เสนา ตั้งศูนย์ฝึกการรบในป่าห้วยสัตว์ใหญ่ ตั้งหน่วยข่าวอีกจำนวนมาก

1 เมษายน 2496 ตำรวจพลร่ม เข้าที่ตั้งถาวรค่ายนเรศวร อ.หัวหิน

ในเดือนกันยายน พ.ศ.2500 จอมพล สฤษดิ์ ก่อรัฐประหารโค่นเจ้านายตัวเอง จอมพล ป. พิบูลสงคราม พล.ต.อ.เผ่า และทีมงานต้องลี้ภัยไปนอกประเทศ บิล ทำทุกอย่างเพื่อรักษาหน่วย PARU ให้รอดพ้นจากการ “ถูกยุบ” ได้อย่างหวุดหวิด

ลาวได้รับเครื่องบิน T-28 ต้องมาฝึกบินที่สนามบิน จ.อุดรธานี ครูการบินที่มาฝึกให้นักบินลาว…ยืมตัวมาจากกองทัพอากาศไทย

สถานการณ์ผันแปรไปตามผู้นำ… งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา…

สิงหาคม พ.ศ.2507 วอชิงตัน เบนความสนใจการทำสงครามในลาว หันเหไปทุ่มเท ทำสงครามในเวียดนาม…ภารกิจของซีไอเอในลาวเริ่มแผ่วเบา

ชีวิตของ บิล แลร์ มิได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ระหว่างการทำงานมีปัญหาความขัดแย้ง มีผิดพลาด ที่เป็นชนวนแตกหัก คือ มีความขัดแย้งกับเอกอัครราชทูตสหรัฐในเวียงจันทน์ เรื่องของขอบเขตอำนาจ ในการทำสงคราม…

เวียดนามเหนือมุ่งมั่น สู้รบอย่างถวายชีวิต ตายเป็นเบือ เพื่อให้เป็นไปตามคำสั่งของลุงโฮ…ทหารเวียดนามเหนือเข้าตีที่มั่น ยึดภูมิประเทศได้…

21 เมษายน 2515 ซีไอเอได้รับคำสั่งให้ยุติการปฏิบัติการในลาว

30 เมษายน 2518 ไซ่ง่อนแตก เวียดนามเหนือ ชนะสงครามในเวียดนาม นายพล วังเปา ลี้ภัยเข้ามาในไทยและเดินทางต่อไปยังสหรัฐ ได้สัญชาติอเมริกัน เสียชีวิตเมื่อ พ.ศ.2554 ที่แคลิฟอร์เนีย

พ.ศ.2518 กองทัพเวียดนามเหนือ และทหารลาวฝ่ายคอมมิวนิสต์ ประกาศชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ในลาว… นักรบไทยพลีชีพนับพันนายในสมรภูมินรก

บิล แลร์ สุภาพบุรุษท่านนี้ เข้ามาทำงานในเมืองไทยเมื่อ พ.ศ.2494 (กลับไปศึกษาวิทยาลัยการทัพบกและทำงานในอเมริกา 2 ปี) แล้วกลับมาทำภารกิจในประเทศไทย-ลาว ถึงปี พ.ศ.2513 แต่งงานกับสุภาพสตรีชาวไทย แล้วเกษียณอายุ …กลับไปอเมริกาพร้อมครอบครัว

หลังสงคราม รัฐบาลอเมริกา ก็แสนจะใจดี ให้ชาวม้งลาว ทยอยเข้าไปอยู่ในอเมริกา ถึงปี 2563 มีประชากรม้ง-อเมริกัน ราว 2 แสนกว่าคน

หลังเกษียณ… บิล ใช้ชีวิตอย่างสงบเงียบ ติดต่อกับชุมชนชาวม้งในอเมริกา ที่สหรัฐอนุญาตให้อพยพไปตั้งหลักแหล่งในอเมริกา ชาวม้งอเมริกันจัดงานวันเกิดให้เขา เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2556 เมื่ออายุ 89 ปี

บิลล์ แลร์ คือผู้อยู่เบื้องหลังหรือผู้ทำให้เกิด “พลร่ม” ขึ้นในประเทศไทยโดยแท้จริง ซึ่งหากกล่าวเป็นทางการ ก็ต้องถือว่า พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ คือผู้ให้กำเนิดตำรวจพลร่ม

28 ตุลาคม 2557 บิล แลร์ เสียชีวิตด้วยชราภาพในเมือง Meridian Texas เมื่ออายุ 90 ปี รัฐบาลสหรัฐจัดพิธีศพให้อย่างสมเกียรติ ให้นำศพไปบรรจุในสุสานอาร์ลิงตัน รัฐเวอร์จิเนีย ซึ่งเป็นสุสานแห่งชาติ สำหรับบุคคลที่ทำคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติ

ปี พ.ศ.2551 ผู้เขียนดำรงตำแหน่ง เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร ได้รับคำสั่งให้ประสานงานกับกองทัพลาว เพื่อดูแลชาวม้งราว 7,800 คน ที่อพยพจากลาวเข้ามาประเทศไทย ณ จังหวัดเพชรบูรณ์…

กองทัพบกเป็นผู้ปฏิบัติงานหลัก ผู้เขียนได้ทำงานใกล้ชิดกับ พลจัตวา บัวเสี้ยง จำปาพัน รอง หน.กรมใหญ่ สปป.ลาว ผู้เขียนได้มีโอกาสไปชี้แจงปัญหาม้งลาว ณ สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยสหประชาชาติ (UNHCR) ณ นครเจนีวา ได้รับคำชมว่าทหารไทยทำงานสำเร็จโดยยึดหลักมนุษยธรรม

พ.ศ.2551 ผู้เขียนและนายทหารไทยอีก 4 ท่าน ได้รับเหรียญเชิดชูเกียรติ จาก พลโท ดวงใจ พิจิด รมว.กห. สปป.ลาว ในภารกิจดูแลชาวม้งลาว

นักรบจากไทยจำนวนไม่น้อย ยังทิ้งร่าง ฝังลึกไว้ในสมรภูมิในลาว

นักรบ ทหารบก เรือ อากาศ ตำรวจ ที่ผ่านสมรภูมิรบ รอดชีวิตมาได้ จัดตั้ง “สมาคมนักรบนิรนาม 333” ที่ลูก หลาน ยกย่องเชิดชู…

บิล แลร์ คนธรรมดา…ที่ไม่ธรรมดา

ผมจะหาโอกาสเรียบเรียง ยกย่องบรรพบุรุษนักรบไทยในสมรภูมิลาวในโอกาสต่อไปครับ…

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image