บทนำ : ม็อบชนม็อบ

บทนำ : ม็อบชนม็อบ สถานการณ์ของประเทศ มาถึงจุดที่เรียกว่า ม็อบชนม็อบ

บทนำ : ม็อบชนม็อบ

สถานการณ์ของประเทศ มาถึงจุดที่เรียกว่า ม็อบชนม็อบ เห็นได้ชัดจากเหตุการณ์ประชาชนกลุ่มหนึ่ง จัดการชุมนุมในพื้นที่และเวลาใกล้เคียงกับกลุ่มนักเรียนนักศึกษา และประชาชน ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ก่อนจะตะโกนขับไล่ และกลายเป็นความชุลมุน ทุ่มลำโพงใส่นักศึกษาหญิง และทำร้ายนักเรียนนักศึกษา ซึ่งจำนวนหนึ่ง สวมชุดเนตรนารี เหตุการณ์นี้มีผู้สื่อข่าวบันทึกไว้ เป็นการยืนยันข้อเท็จจริงต่อสังคม นอกจากนี้ยังมีการชุมนุมทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด บางแห่งดำเนินการโดยข้าราชการ โดยทำหนังสือนัดแนะ หรือออกคำสั่งให้มาร่วม ซึ่งน่าห่วงว่า วิธีการเช่นนี้ จะทำให้เกิดการเผชิญหน้า ซึ่งอาจจะทำให้ลุกลามเป็นความรุนแรงได้

การจัดม็อบมาชนม็อบ จัดประชาชนมาเผชิญหน้ากันเอง เป็นกลยุทธ์ทางการเมืองของผู้มีอำนาจที่ถูกประชาชนขับไล่ นำออกมาใช้เพื่อเบี่ยงเบนปัญหา พลิกสถานการณ์ สร้างคู่ขัดแย้งขึ้นมาใหม่ ปลีกตัวเองออกจากการเผชิญหน้า สร้างเฮทสปีชเพื่อกระตุ้นความรุนแรง ความเป็นปฏิปักษ์ เพื่อใช้เป็นเงื่อนไขนำไปสู่ความไม่สงบ แล้วค่อยกลับไปแทรกแซงเมื่อได้เปรียบ หรือใช้เป็นเงื่อนไขในการปราบปราม แต่วิธีนี้ ก่อความเสียหายมาแล้วในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย นักวิชาการหลายคน ตั้งข้อสังเกตว่า คนอีกกลุ่มไม่ได้เกิดขึ้นอย่างอิสระ แต่เกิดจากการจัดตั้ง เป็นโมเดลคล้ายม็อบชนม็อบ และขวาพิฆาตซ้ายเมื่อ 6 ตุลาคม 2519 ที่เกิดการเข่นฆ่าทำทารุณกรรมต่อนักศึกษาประชาชนที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

นายกรัฐมนตรี เพิ่งแถลงเรียกร้องให้ถอยคนละก้าว และต่อมาได้ประกาศยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง เพื่อยืนยันข้อเสนอให้ถอยคนละก้าว ขณะที่ทางผู้ชุมนุมเรียกร้องให้นายกฯ ลาออกภายใน 3 วัน ขณะที่การชุมนุมดาวกระจายแพร่ขยายออกไปอย่างกว้างขวาง การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุม ก็อยู่ระหว่างดึงเวลาให้เนิ่นช้าออกไป และใช้วิธีเปิดรัฐสภาวิสามัญเพื่ออภิปรายทั่วไปในวันที่ 26-27 ต.ค. ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมไม่ได้ให้ราคามากนัก เพราะทราบว่าเป็นการพูดกันในสภา โดยไม่ได้มีสภาพบังคับใดๆ ในภาพรวม ความน่าห่วงอยู่ที่เรื่องม็อบชนม็อบ อันเป็นเกมล่อแหลมที่ทุกฝ่ายที่รักชาติไม่ควรให้เกิดขึ้นมา

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image