| ผู้เขียน | กลิ่นบงกช |
|---|
ไม่ควรซื้อเวลา
บทความนี้ เขียนในช่วงที่คณะราษฎรนัดชุมนุมกันในวันที่ 14 ตุลาคม 63 ตอนแรกเดาว่า ผู้มีอำนาจจะยินยอมลาออก เพราะประชาชนมากเป็นเรือนแสน แต่เมื่อไม่ยอมลาออก แถมประกาศภาวะฉุกเฉินร้ายแรง เหมือนเติมเชื้อเพลิงเข้าไปอีกคราวนี้เลยหนัก เพราะม็อบกระจายไปทั่วประเทศ เท่านั้นยังไม่พอ ยังสวนคำเรียกร้องของคณะราษฎรที่ให้ลาออกอย่างท้าทายว่า ไม่ลาออก ผมผิดอะไร ! สังคมจึงถึงบางอ้อว่า ที่เขาไม่ลาออก เพราะเขาถือว่าเขาไม่ผิด สังคมจึงควรชี้ความผิดของเขาให้เขาเห็น ว่าเขาผิดอะไรบ้าง
หนึ่ง ใช้อาวุธยึดอำนาจจากรัฐบาลที่ประชาชนเลือกมา สอง ยึดอำนาจจากผู้บังคับบัญชาและผู้ให้ตำแหน่ง ผบ.ทบ.แก่ตน คือ นายกฯยิ่งลักษณ์ สาม เมื่อได้อำนาจปกครองแล้ว ไม่มีคุณสมบัติส่วนตนที่พระพุทธเจ้าประทานไว้สำหรับผู้ปกครองบ้านเมือง เมื่อไม่พอใจใคร ก็แสดงความโกรธ จนทำให้คนเอือมระอาทั่วประเทศ
ความเอือมระอาที่ประชาชนมีต่อเขา ยังมีอีก เช่น เมื่อใครต่อว่าเขาว่าตั้ง ส.ว.เพื่อมาตั้งเขาเป็นนายกฯ เขาจะอ้างว่า เขาทำตามรัฐธรรมนูญ ทำตามกฎหมาย เขาไม่รู้เลยหรือว่า ชาวบ้านเขาก็รู้ว่ากฎหมายที่เขาอ้างมานั้น เขาวางแผนเอาเปรียบคนอื่น จึงร่างมา เขายิ่งอ้างคนฟังยิ่งเอือมระอา แถมเมื่อทั่วโลกโวยว่าไปสลายการชุมนุมทำไม เพราะฝูงชนมิได้ ทำอะไรรุนแรง นั่งฟังอยู่เฉยๆ เขาก็อ้างอีกว่า ทำตามขั้นตอนสากล ความเป็นจริงมิใช่สากลเลย ถ้าเป็นสากลเขาจะฉีดน้ำ เมื่อฝูงชนทำลายสิ่งของเท่านั้น
ดังนั้น การที่เขาไม่ลาออก ทางรัฐสภาต้องรีบแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อให้บ้านเมืองดีขึ้น และการแก้ก็ต้องผ่าน ส.ส.ร. เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วม ที่ต้องระวังก็คือ อย่าได้มีการซื้อเวลา เพื่อประโยชน์ของตน เราควรรู้ว่า การซื้อเวลาในการแก้รัฐธรรมนูญ และการเร่งแก้รัฐธรรมนูญมีผลเสียผลดีต่างกันอย่างไร จาระไนข้อแรกก่อน การซื้อเวลาแก้รัฐธรรมนูญตามที่ ส.ว.กำลังทำอยู่นี้ เป็นผลเสียแก่คนส่วนใหญ่ของประเทศ แต่เป็นผลดีแก่คนส่วนน้อยนิดเท่านั้น คืออย่างไร ? คนไทยทุกคนคงทราบว่า ความวุ่นวายทางการเมืองของประเทศไทยทุกวันนี้ เริ่มมาตั้งแต่ ปี พ.ศ.2549 อันเป็นช่วงที่ไทยใช้รัฐธรรมนูญที่ประชาชนร่างขึ้นมาเอง รัฐบาลที่มาจากกติกานั้น อยู่ได้นานจนครบเทอม และทำท่าจะได้คะแนนกลับมาเป็นรัฐบาลอีก
ทั้งนี้ น่าจะเป็นเพราะพรรคนี้ทำประโยชน์ให้ประชาชนเยอะ ประชาชนจึงนิยม แต่ผู้มีอาวุธในมือและพวกพ้องมองออกว่า ถ้าปล่อยไปอย่างนี้ กลุ่มของตนหมดอำนาจแน่ จึงทำการขับไล่ หัวหน้าพรรคคือ ทักษิณ ออกนอกประเทศ และยุบพรรคการเมืองนี้เสีย แล้วแต่งตั้งคนที่เกลียดชังทักษิณมาเป็นกลุ่มปกครองบ้านเมืองมาจนถึงทุกวันนี้ …
ขณะเดียวกัน คนกลุ่มนี้ดูเหมือนถูกบงการให้ทำลาย กลุ่มที่เป็นประชาธิปไตย แต่กลุ่มที่สนับสนุนผู้มีอำนาจจะได้รับความคุ้มครองอย่างดี แม้จะทำขนาดนี้ แต่พรรคนี้ยังมีคะแนนนำอยู่นั่นเอง ครั้งสุดท้ายคนกลุ่มนี้จึงยึดอำนาจใหม่เมื่อปี พ.ศ.2557 แล้วตั้งกลุ่มที่เกลียดทักษิณนั่นแหละ มาเป็น ส.ว.ให้มีอำนาจเลือกนายกฯได้ มันเป็นภาพที่น่าเกลียดมาก ในประเทศที่ปกครองระบอบประชาธิปไตย แต่ประยุทธเลือก ส.ว. แล้ว ส.ว.มาเลือกประยุทธ์เป็นนายกฯได้ แต่ประชาชน ทั้งประเทศเลือก ส.ส.มา 500 คน แต่ ส.ว.250 คน รวมกับ ส.ส.เลือก ประยุทธ์ ชนะทุกที่
นี่คือ จุดหมายของคนกลุ่มนี้ ที่ต้องการยึดอำนาจเพื่อตัวเองถึง 20 ปี
นี่คือจุดที่ชาวบ้านไม่อยากทนต่อไป
ทั้งนี้ มิได้กล่าวลอยๆ ที่ว่าเขาจะอยู่ถึง 20 ปี เพราะมีหลักฐานจาก ทวิตเตอร์ สั่งปิดรายการจากประเทศไทย ถึง 900 กว่า แล้วระบุว่า เป็นทวิตเตอร์ที่ออกจากกองทัพที่อวยรัฐบาล และด่า พรรคอนาคตใหม่ และในทวิตเตอร์ดังกล่าว มีข้อความว่า ประยุทธ์ เป็นคนดี นี่คือหลักฐานที่ว่า ใช้ทวิตเตอร์อวยตัวเองให้อยู่นานๆ และในขณะที่มีอำนาจอยู่ ก็ประพฤติไม่เหมาะกับการที่ตนเป็นคนของประชาชน ด่าชาวบ้าน คงลำพองว่า ตัวไม่มีใครมาแซะออกจากตำแหน่งได้
ต่อไปนี้มาดูผลดีของการรีบเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญบ้างว่าจะเป็นอย่างไร ?
การเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญ ผลดีประการแรก จะทำให้ชาวโลกดีใจว่า ผู้ยึดอำนาจจากประชาชนไป สำนึกผิดแล้ว โดยการยอมรับการแก้รัฐธรรมนูญตามความต้องการของคนส่วนใหญ่ ภาพพจน์ของเขาจะดีขึ้น ผลดีต่อมาก็คือ ลายลักษณ์อักษร ที่เป็นกติกาอันน่าเกลียดเอาเปรียบประชาชนเหมือนมองพวกเขาไม่ใช่คน มีหัวใจจะหายไป ผลดีข้อต่อมาคือ ประเทศไทยหมดภาพอัปยศที่ชาวโลกเขาเห็นเป็นประจำที่ฝ่ายผู้กุมอำนาจ รังแกชนชั้นรากหญ้า
ผลดีต่อมาคือ ประเทศทางยุโรปจะได้หันมาคบค้าและค้าขายด้วย ผลดีต่อมาคือ ประชาชนจะผลิตสินค้าขายกับต่างประเทศได้ นั่นคือประโยชน์ส่วนใหญ่ของประชาชน ผลดีสุดท้ายคือบ้านเมืองจะคืบคลานเข้าสู่ความสงบร่มเย็นต่อไป
ถามต่อไปว่า ใครเป็นคนมีอำนาจในการเร่ง หรือถ่วงในการร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ตอบว่า จะมีใครเสียอีกเล่า ถ้าไม่ใช่บิ๊กตู่ เพราะดูท่าทางเขาแล้วเขาไม่อยากลงจากอำนาจเลย เขาเดินทางไปเยี่ยมสำนักพิมพ์ต่างๆ เพื่อจะแสดงตัวว่า จะทำงานให้ประชาชนจริงๆ ขอให้ผู้มีความรู้จากสื่อสำนักต่างๆให้คำแนะนำด้วย ดูเหมือนเขาสร้างพฤติกรรมชิ้นนี้ขึ้นมา เพื่อให้ประชาชนมองเขาว่า ตั้งใจอาสาประชาชนจริงๆ แต่ขอโทษเถอะ ! การอาสาแบบนี้ ไม่ใช่การแบกหามเหน็ดเหนื่อยแทนชาวบ้าน แต่เป็นการอาสาที่มีเกียรติ มีเงิน มีคนคอยเอาใจ มีอำนาจ จะสั่งอะไรคนก็ต้องทำตาม งานชิ้นนี้ประชาชนเขาจะให้เฉพาะคนดีและประชาชนรักเท่านั้น
ในเมื่อบิ๊กตู่ยึดอำนาจจากคนที่ประชาชนเลือกมา แล้วร่างกติกาเอาเปรียบชาวบ้านในการเลือกตั้ง แม้จะมีอาวุธทำให้คนกลัวก็จริง แต่ความกลัวนั้น มันจะผันเป็นความเกลียดได้ เมื่อประชาชนเกลียดแล้ว มีแต่ผลเสีย….
ผลเสียอย่างไร ? ขอยกตัวอย่างประธานาธิบดี โงดินเดียม แห่งเวียดนามใต้ในอดีต ที่ประชาชนเกลียด เพราะคนผู้นี้เป็นชาวคริสต์ แต่ได้เป็นประธานาธิบดีเวียดนามใต้ เพราะอเมริกาหนุน ขณะอยู่ในตำแหน่ง ห้ามชาวพุทธทำกิจกรรมทางพุทธศาสนา เขาลืมไปว่า คนส่วนใหญ่ในเวียดนามใต้เป็นชาวพุทธ การเอาเปรียบทางศาสนา ทำให้พระในลัทธิมหายาน ชื่อท่านตีกวางเผาตัวเองประท้วง แต่เดิมชาวบ้านไม่สนใจ แม้จะเป็นชาวพุทธ แต่เป็นชาวพุทธที่ไม่ได้เข้าวัด พอทราบความคับแค้นขนาดพระเผาตัวประท้วงเท่านั้น จึงพากันสนใจ แล้วขับไล่ให้ลงจากตำแหน่ง แต่เขาก็เฉย เพราะทะนงว่า อเมริกาหนุน ประชาชนจึงลุกฮือขึ้นขับไล่ทั้งประเทศ แล้วเขาก็เสียชีวิตบนถนนที่เขาลนลานหนีประชาชน เขาตายอย่างไร ขอผู้อ่านคิดเอาเอง
สำหรับเมืองไทยคงไม่ถึงขนาดนั้น แต่ก็ต้องระวัง เพราะดูเหมือนทั่วประเทศไทยประชาชนลุกฮือขึ้นมาเหมือนชาวเวียดนามในอดีตแล้ว ขอให้ดู ขนาด ประกาศภาวะฉุกเฉินร้ายแรง ฝูงคนยังไม่กลัวยังไปชุมนุมกันต่อที่สี่แยกราชประสงค์ ต่างจังหวัดก็ชุมนุมขับไล่กันที่มหาวิทยาลัยหลายแห่งแล้ว ถ้าจะผ่อนหนักเป็นเบา ก็น่าจะมีเฉพาะพรรคร่วมรัฐบาลช่วยบีบให้เร่งแก้รัฐธรรมนูญเท่านั้น
ประเทศไทยเดินเข้าสู่สภาวะซบเซาระทมทุกข์ ตั้งแต่ปี 2549 จนถึงปัจจุบัน อันเนื่องมาจากผู้มีอำนาจปัจจุบัน เปลี่ยนรัฐธรรมนูญที่เขียนโดยประชาชน ปี 2540 แล้วเขียนรัฐธรรมนูญเอาเปรียบเพื่อให้ตัวอยู่นานๆ ประชาชนตั้งแต่เด็กชั้นประถม มัธยม นักศึกษาและประชาชนหมดความไว้วางใจ จึงรวมตัวกันขับไล่ และให้ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ให้เป็นฉบับของประชาชน
งานอันยากเย็นนี้ พรรคร่วมรัฐบาลเท่านั้น ที่จะบีบบิ๊กตู่ให้แก้รัฐธรรมนูญใหม่ ประชาชนออกแรงให้เต็มที่แล้ว ส.ส.ช่วยผลักช่วยดัน อย่านิ่งเฉยเป็นทองไม่รู้ร้อนอยู่เลย สาธุ !!! ..
กลิ่นบงกช
