เดินหน้าชน : ‘ทางออก’

เดินหน้าชน : ‘ทางออก’ ดูเหมือนสถานการณ์ในขณะนี้ หลายฝ่าย

เดินหน้าชน : ‘ทางออก’

ดูเหมือนสถานการณ์ในขณะนี้ หลายฝ่ายเป็นห่วงว่าอาจลุกลามบานปลาย
ทำให้การเรียกร้องทางออกของประเทศเพื่อไม่ให้สถานการณ์ไปสู่ภาวะวิกฤต กึกก้องเกิดขึ้นทุกหัวระแหง
เพราะหวั่นใจกันว่า หากประวัติศาสตร์เหตุการณ์มหาวิปโยคในอดีตหวนกลับมาอีกครั้ง
ครั้งนี้อาจจะยิ่งเสียหายหนักหนาสาหัสกว่าเดิม

เพราะจากประสบการณ์หลายคนมีโอกาสได้สัมผัสบรรยากาศแห่งความโศกเศร้านั้นมาแล้ว
คงรู้ซึ้งถึงความเจ็บปวดของคนทั้งชาติในช่วงเวลานั้นเป็นอย่างดี
ครั้งนี้เป็นห่วงกันว่าจะยิ่งกว่าเดิม เพราะเคยมีประสบการณ์ความรุนแรงแบบนี้กันมาแล้ว
และครั้งนี้ยังเป็นเรื่องของความเห็นที่แตกต่างกันของคนในสังคมจำนวนมากอีกด้วย
ด้านหนึ่งเชื่อมั่นว่าเป็นผู้ถูกกระทำในสังคม ถูกใช้อำนาจอย่างไม่เป็นธรรม
ส่วนอีกด้านเชื่อมั่นว่ากำลังจะถูกท้าทายจากกลุ่มผู้ไม่หวังดี ต้องการล้มล้างสิ่งต่างๆ
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ ส่งสัญญาณให้เห็นว่า
ประเทศไทยกำลังย่างก้าวเข้าไปสู่สถานการณ์ที่เลวร้าย จนอาจเรียกได้ว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลยทีเดียว

และถ้าเราทุกคนรู้ว่ากำลังจะไปสู่จุดนั้น แล้วจะปล่อยให้เกิดขึ้นอย่างนั้นหรือ
สิ่งสำคัญคือทุกฝ่ายต้องช่วยกันประคับประคองให้ผ่านช่วงเวลาอันน่ากลัวนี้ไปให้ได้
ต้องอย่าเติมเชื้อไฟ แต่ต้องช่วยกันดึงฟืนออกจากไฟ
ในเมื่อเรารู้ประวัติศาสตร์วันมหาวิปโยคกันมาแล้ว
เราเห็นแล้วว่าการแก้ปัญหาแบบเดิมใช้ไม่ได้ผล
เพราะถ้าผู้มีอำนาจใช้อำนาจกระทำกับอีกฝ่าย
สิ่งที่จะได้กลับคืนก็คือหายนะมาเยือนในเวลาอันรวดเร็ว
นั่นหมายถึงไม่มีใครแพ้ใครชนะ แต่ประเทศยับเยิน

Advertisement

ดังนั้น จำเป็นต้องช่วยกันหาวิธีใหม่ ที่สำคัญคือ ต้องเปิดใจคุยกัน
ลดทิฐิแต่ละฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ต้องกล้าเอาความจริงมาพูดกันว่าจะอยู่กันอย่างไร
ถ้าไม่เอาความจริงมาพูดกัน หลอกตัวเองไปวันๆ ทั้งที่ความจริงเป็นอย่างไรทุกคนรู้ดี
ปัญหาที่เกิดขึ้นคงแก้ไม่ได้
ประเทศไทยต้องถือว่าเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน
ไม่เชื่อว่าถ้าคนในครอบครัวเดียวกัน มีความแตกต่างทางความคิด แล้วถูกกระทำโดยผู้มีอำนาจ
ผู้นำก็คงไม่สามารถอยู่ได้โดยสงบสุขอย่างแน่นอน

ทางที่ดีตอนนี้ยังพอมีโอกาสให้ผู้มีอำนาจปลดชนวนระเบิด
ลดทิฐิ อย่าคิดว่าเป็นการสูญเสียอำนาจ
แต่ทำไปเพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง และของทุกคน
ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ “ผู้มีอำนาจ” จะต้องกล้าที่จะลงมาจับเข่าคุย
แม้ว่าจะเป็นสิ่งที่หลายคนเชื่อว่าเป็นไปได้ยาก จากสาเหตุอะไรหลายๆ เรื่องก็ตาม
แต่อยากให้ช่วยกันคิดให้ดีว่ายังมีทางอื่นอีกหรือไม่ ถ้าอยากให้ปัญหาถูกแก้ไขได้ตรงจุด
หรือจะรอให้วิกฤตชาติมาเยือนก่อนถึงจะมาคุยกันได้

สุรพล สุประดิษฐ์ ณ อยุธยา

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image