บทนำ : ต้องรู้เหตุแล้วป้องกัน
เหตุการณ์ท่อส่งก๊าชธรรมชาติของ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) รั่วและเกิดเพลิงลุกไหม้บริเวณตรงข้ามวัดเปร็งราษฎร์บำรุง ถนนเทพราช-ลาดกระบัง ต.คลองสวน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ กระทั่งมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บเกิดขึ้นมาหลายวันแล้ว แต่ภาพอันน่าหวาดเสียวที่เกิดขึ้นยังทยอยเผยแพร่ออกมาสู่สาธารณะ โดยล่าสุดเป็นคลิปบันทึกเหตุการณ์การอพยพนักเรียนจากโรงเรียนใกล้ที่เกิดเหตุออกมา ตอกย้ำว่าท่อส่งก๊าซธรรมชาติดังกล่าวอยู่ใกล้ชุมชน
หลังจากเกิดเหตุสิ่งที่ดำเนินการเร่งด่วนคือการช่วยชีวิต และเยียวยาความเสียหาย ตลอดจนดูแลความรู้สึกของเหยื่อ ขณะเดียวกันสิ่งที่ต้องดำเนินการในระยะกลางและยาวคือการสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้น โดยต้องสร้างความเชื่อมั่นว่าท่อก๊าซธรรมชาติที่วางในประเทศไทยนั้นปลอดภัย ซึ่งขณะนี้ ปตท.ได้เข้าพื้นที่และได้ดำเนินการเยียวยาญาติผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ ตลอดจนชดใช้ทรัพย์สินที่เสียหายไปแล้ว ส่วนการสร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัย สิ่งที่ต้องดำเนินการเป็นอันดับแรกคือ รู้สาเหตุของการรั่ว ลุกไหม้ และเกิดระเบิดขึ้น
จากการตรวจสอบเบื้องต้น ปตท.ยืนยันมาตรฐานในการดูแลรักษาท่อว่าได้ดำเนินการอยู่ตลอดเวลา มีการตรวจสอบรายสัปดาห์ ตรวจสอบรายปี ราย 5 ปี ใช้กระสวยตรวจสอบท่อ ซึ่งเพิ่งดำเนินการเมื่อปี 2562 ไม่พบเหตุผิดปกติอะไร ขณะที่รอบรายสัปดาห์ได้มีการวัดไฟฟ้าสถิตของท่อเพื่อตรวจสภาพท่อเมื่อวันก่อนเกิดเหตุก็ไม่พบความผิดปกติอะไร ส่วนสภาวิศวกรได้เข้าตรวจสอบพบว่า สาเหตุมาจากท่อฉีกขาด เมื่อท่อฉีกขาดแรงดันทำให้ดินทะลักขึ้นมา และดินอาจมีเศษลอยขึ้นสูงไปแตะกับสายไฟฟ้าแรงสูงทำให้เกิดประกายไฟ เมื่อก๊าซลอยไปเจอกับประกายไฟทำให้เกิดระเบิดขึ้น แต่ยังไม่สามารถระบุชัดเจนว่าทำไมท่อถึงฉีกขาด ซึ่งยังไม่มีบทสรุปว่าเป็นเพราะเหตุใด มีแต่ข้อสันนิษฐานว่าอาจจะเกิดจากข้อต่อของท่อ
การสร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัยนั้น วิธีการที่ดีที่สุดคือการอธิบายให้ทราบว่าสาเหตุที่เกิดเหตุขึ้นนั้นมาจากอะไร เพื่อที่จะอธิบายถึงวิธีป้องกันมิให้เหตุร้ายเกิดขึ้นซ้ำ และยังสามารถยกระดับการป้องกันเหตุร้ายขึ้นในพื้นที่อื่นๆ ได้อีก เพราะโดยปกติแล้วการดำเนินการวางท่อก๊าซธรรมชาติมีการดำเนินการที่ปลอดภัยอย่างสูงสุดอยู่แล้ว แต่เมื่อการป้องกันดังกล่าวยังเกิดเหตุขึ้นมาได้ การรู้สาเหตุที่แท้จริง และการหยุดยั้งการเกิดเหตุนั้นซ้ำ ย่อมส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นมากกว่าการปล่อยให้เหตุการณ์เกิดขึ้นแล้วเงียบหายไป
