บทนำ : ต้อง‘ชัดเจน’
นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. ตรวจเยี่ยมการรับสมัครเลือกตั้ง อบจ.วันแรก และกล่าวว่า เห็นความคึกคัก ความตื่นตัวของผู้สมัครและผู้สนับสนุน เป็นภาพที่ดี ส่วนการหาเสียงจะต้องดูมาตรา 65 ของ พ.ร.บ.สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 เป็นหลัก ห้ามหาเสียงคล้ายกับการหาเสียง ส.ส. อาทิ ห้ามซื้อเสียง ห้ามแสดงมหรสพ ผู้สมัครและผู้ที่เกี่ยวข้องต้องให้ความสำคัญกับมาตรา 65 เป็นพิเศษ ส่วนมาตรา 34 ที่นักการเมืองกังวลนั้น ห้ามไม่ให้ข้าราชการการเมือง ส.ส. ส.ว. ผู้บริหารท้องถิ่น สมาชิกท้องถิ่น กระทำการโดยมิชอบ กลั่นแกล้งผู้สมัคร หรือดำเนินการให้คุณให้โทษ เป็นการห้ามกลุ่มบุคคลเหล่านี้ แต่ไม่ได้ห้ามคนอื่น
ส่วนแนวทางปฏิบัติในการหาเสียง พรรคการเมืองและนักการเมืองจะเข้าไปเกี่ยวข้อง การใช้โลโก้พรรคหาเสียง การใช้รูปนักการเมืองหาเสียง ที่มีการสอบถามกันมาก ประธาน กกต.กล่าวว่า คณะกรรมการที่ปรึกษากฎหมาย กกต.และ กกต.จะพิจารณาในวันที่ 3 พฤศจิกายน เพื่อให้ความชัดเจน และตอบคำถามพรรคการเมืองที่ซักถามมายัง กกต. ซึ่งยังอยู่ในกรอบเวลาที่ กกต.จะต้องตอบคำถามพรรคการเมืองไม่เกิน 30 วัน
ความจริงที่เกิดขึ้นขณะนี้ มีพรรคที่ประกาศส่งและไม่ส่งผู้สมัคร และเกิดคำถามว่า จะนำไปสู่การร้องเรียนหรือไม่ และ กกต.จะมีแนวทางปฏิบัติอย่างไร นอกจากนี้ยังมี ส.ส.และ ส.ว.หรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีญาติพี่น้องลงสมัครนายก อบจ.และ ส.อบจ. และมีคำถามว่าจะแสดงท่าทีสนับสนุนได้หรือไม่ หรือทำได้มากน้อยแค่ไหน มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า ถ้าการอ้างแนวปฏิบัติของ พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่น 2562 มาตรา 34 และระเบียบของ กกต.มาปฏิบัติอย่างเคร่งครัด จะทำลายระบบพรรคการเมือง และไม่ส่งเสริมให้พรรคการเมืองทำงานใกล้ชิดกับประชาชนในระดับท้องถิ่น
กฎกติกาที่คลุมเครือก่อปัญหาและทำให้เกิดผลได้เสียทางการเมืองในการเลือกตั้ง 26 มี.ค.2562 มาแล้ว การคืนอำนาจให้เลือกตั้งท้องถิ่นครั้งแรกในรอบหลายปี น่าจะใช้กรณีจากปี 2562 เป็นบทเรียน เพื่อให้การเลือกตั้งสะท้อนเจตนาประชาชนได้อย่างชัดเจนว่า ต้องการบุคคล กลุ่มหรือแนวนโยบายแบบไหนมาดูแลท้องถิ่นแทนประชาชน และเพื่อมิให้เกิดการใช้ประโยชน์จากความไม่แน่ชัดเพื่อประโยชน์ทางการเมืองของบางกลุ่ม
