บทนำ : ปฏิวัติ‘ติดลบ’

บทนำ : ปฏิวัติ‘ติดลบ’ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก

บทนำ : ปฏิวัติ‘ติดลบ’

พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก เคยกล่าวในการประชุมหน่วยขึ้นตรง ทบ.ครั้งแรกว่า โอกาสที่จะเกิดรัฐประหารเป็นศูนย์ และเมื่อวันที่ 9 พ.ย. ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่าโอกาสการรัฐประหารยังเป็นศูนย์อีกหรือไม่ โดย ผบ.ทบ.กล่าวว่า “ติดลบ” เมื่อถามต่อไปว่า การเมืองขณะนี้ยังไม่มีทางออก พล.อ.ณรงค์พันธ์กล่าวว่า “มี” และว่า การเมืองก็ต้องแก้ด้วยการเมือง หากทุกคนมีสติและมองกระจกให้รอบด้าน เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ดูแลอะไรบ้าง พล.อ.ณรงค์พันธ์กล่าวว่า ได้รับคำสั่งว่าให้ดูแลตามแนวชายแดน โดยเฉพาะการป้องกันเรื่องโควิด

คำตอบของ ผบ.ทบ.เกิดขึ้นท่ามกลางกระแสข่าวว่าจะเกิดรัฐประหารหรือไม่ เนื่องจากสถานการณ์ของรัฐบาลที่ต้องเผชิญกับการเคลื่อนไหวของผู้ชุมนุมที่เป็นคนรุ่นใหม่และมีข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ได้แก่ ให้ยุติการคุกคามประชาชน ให้แก้รัฐธรรมนูญ และนายกรัฐมนตรีลาออก และปฏิรูปสถาบัน การชุมนุมของคณะราษฎรได้แพร่กระจายออกไปขณะที่มีผู้ชุมนุมอีกกลุ่มออกมาต่อต้าน และเรียกร้องให้ทหารออกมายึดอำนาจเพื่อแก้ไขวิกฤตที่เกิดขึ้น ในวันเดียวกันนี้ ได้มีกลุ่มบุคคลไปยื่นหนังสือถึง ผบ.ทบ.และนายกรัฐมนตรี ให้ออกมาแก้ไขสถานการณ์การเมือง

การเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง การรัฐประหารไม่ใช่ทางออก ซ้ำยังอาจทำให้ยุ่งยากมากขึ้น การรัฐประหาร 2 ครั้งหลังของประเทศเป็นบทเรียนสำคัญ รัฐประหาร 19 ก.ย.2519 อ้างเหตุทุจริตคอร์รัปชั่นในรัฐบาล นายทักษิณ ชินวัตร แต่สุดท้ายเสียของ ต้องทำรัฐประหารใหม่อีกครั้งในวันที่ 22 พ.ค.2557 เพื่อปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง แต่ไม่ได้ผลอีก กฎกติกาในรัฐธรรมนูญที่ออกแบบมาเพื่อกลุ่มการเมืองบางกลุ่มถูกต่อต้านอย่างหนัก

Advertisement

ในสถานการณ์วิกฤตเช่นปัจจุบัน ทุกฝ่ายต้องยึดหลักการในอำนาจหน้าที่ของตน รัฐบาลและรัฐสภาต้องแก้ปัญหาตามหลักประชาธิปไตย โดยฟังเสียงประชาชนและคำนึงถึงประโยชน์ของชาติเป็นหลัก ปมสำคัญคือผู้มีอำนาจจะยินยอมให้ประเทศขับเคลื่อนด้วยระบอบประชาธิปไตยหรือไม่ หากยินยอมก็ต้องแก้รัฐธรรมนูญ กำหนดกฎกติกาที่เป็นธรรม โดยยอมสละอำนาจที่เกิดขึ้นจากกติกาที่ไม่เป็นประชาธิปไตย เงื่อนไขของวิกฤตจะหมดไป แล้วโอกาสของความวุ่นวายจะ “ติดลบ” ดังที่ ผบ.ทบ.กล่าวไว้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image