สถานีคิดเลขที่ 12 : แพ้เป็นพระ

สถานีคิดเลขที่ 12 : แพ้เป็นพระ สํานวนสุภาษิตแพ้เป็นพระ ชนะเป็นมาร อาจไม่ค่อย

สถานีคิดเลขที่ 12 : แพ้เป็นพระ

สํานวนสุภาษิตแพ้เป็นพระ ชนะเป็นมาร อาจไม่ค่อยจะเป็นที่นิยมเท่าไรนัก เพราะหมายถึงการยอมคู่กรณีเพื่อไม่ให้มีเรื่องราวบานปลาย

ตอนนี้ก็มีเห็นๆ ว่า โดนัลด์ ทรัมป์ คงจะไม่ยอมทำตามคำสอนนี้หรอก ขอเป็น “มาร” ดีกว่าจะยอมให้ โจ ไบเดน ชนะการเลือกตั้งได้ง่ายๆ

หลานสาวคนหนึ่งที่ไม่ค่อยถูกชะตากับลุงทรัมป์ ชื่อ แมรี ทรัมป์ เป็นนักจิตวิทยา เพิ่งเขียนบทความลงเดอะการ์เดียน สื่อของอังกฤษว่า ลุงของเธอคงจะไม่ยอมรับความปราชัยเป็นแน่ และสิ่งที่ลุงจะได้รับ มีแต่พังกับพัง

Advertisement

ไม่เท่านั้นคุณหลานยังพยากรณ์ว่า ถ้าลุงยังฮึดฮัดๆ ต่อไป อีกไม่นานจะได้เห็นว่าคนรอบข้างของลุงจะพยายามตีตัวออกห่าง เริ่มคนแรกที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หรือเพนตากอน ก่อนเลย

ปรากฏว่าคำพยากรณ์นี้กลายเป็นจริงในสองสามวันถัดมา เพียงแต่รัฐมนตรีไม่ได้ไปลาออกเอง หากโดนลุงทรัมป์ปลดจากตำแหน่ง

นายมาร์ก เอสเพอร์ ผู้ถูกปลด เคยงัดข้อกับทรัมป์มาก่อน ช่วงที่ผู้คนในอเมริกาลุกฮือประท้วงเรื่องสีผิว หรือ Black Lives Matter จากเหตุการณ์ที่ นายจอร์จ ฟลอยด์ คนผิวดำที่ถูกตำรวจผิวขาวใช้กำลังกดคอจับกุมจนขาดใจตาย

Advertisement

ตอนนั้นทรัมป์โมโหที่มีม็อบอาละวาดหลายเมือง และตำรวจก็ดูเหมือนจะอ่อนล้าจึงประกาศจะส่งทหารจากหน่วยเนชันแนลการ์ดเข้าไปจัดการ แต่เจอนายเอสเพอร์สกัดเข้าจังๆ แบบไม่ไว้หน้า เพราะเห็นว่าความไม่สงบในประเทศ จะให้ทหารที่มีภารกิจป้องกันอาณาเขตและภัยก่อการร้ายจากนอกประเทศเข้ามายุ่งได้อย่างไร

ปมขัดแย้งนี้พอจะเป็นเหตุผลได้ว่า ทำไมนายทรัมป์ถึงปลดนายเอสเพอร์

แต่จังหวะการปลด หลังลุงทรัมป์ถูกมองว่าแพ้การเลือกตั้งแล้วเป็นผลร้ายเข้าไปใหญ่

โดยปกติที่ประธานาธิบดีคนอื่นๆ เขาทำกัน คือจะไม่ไปแตะกระทรวงกลาโหมระหว่างอยู่ในช่วงถ่ายโอนอำนาจให้ผู้นำคนใหม่ เนื่องจากเพนตากอนมีภารกิจสำคัญต่อความมั่นคงของประเทศ

รายงานข่าวของสื่อสหรัฐระบุว่า นับตั้งแต่ปี 2490 ที่มีการตั้งเพนตากอนและตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไม่มีใครเคยทำแบบลุงทรัมป์มาก่อน

ประธานาธิบดี 3 คนที่พ่ายแพ้การเลือกตั้งสมัยสอง ทั้ง เจอรัลด์ ฟอร์ด, จิมมี คาร์เตอร์ และ จอร์จ บุช ผู้พ่อ ต่างปล่อยให้ผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมทำหน้าที่ไปจนหมดวาระถึงวันที่ประธานาธิบดีคนใหม่สาบานตน

การตัดสินใจและการกระทำของทรัมป์ครั้งนี้ ตอกย้ำว่าอะไรที่คนอื่นไม่ทำ ท่านทำได้เสมอ

ขนาดรู้ว่าผลคะแนนออกมาชัดขนาดที่คะแนนป๊อปปูลาร์โหวตของไบเดนสูงกว่า 5 ล้านคะแนนเสียง ลุงก็ยังไม่ยอมถอย

เทียบกับเมื่อ 4 ปีก่อน นางฮิลลารี คลินตัน มีคะแนนป๊อปปูลาร์โหวตมากกว่านายทรัมป์ 3 ล้านคะแนน แต่เมื่ออิเล็กโทรัลโหวตก็ชัดเจนว่าแพ้ นางก็ยอมรับความปราชัย และออกจากสนามแข่งไปแบบสวยๆ

เป็นตัวอย่างให้ลุงทรัมป์ และลุงๆ คนอื่นเห็นว่า ยอมแพ้ตั้งแต่มีจังหวะเปิดทางให้ ดีกว่าดึงดันเป็นไหนๆ

ชุมฉันท์ ชำนิประศาสน์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image