บทนำ : ผิดสัญญาไหม
นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) เปิดเผยว่า การประชุมวิปรัฐบาลมีระเบียบวาระรับทราบกฎหมายที่จะเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่ค้างมาจากการประชุมครั้งที่แล้ว รวมถึงการพิจารณากฎหมายใหม่เพิ่มเติม โดยวันที่24 พฤศจิกายน มีการประชุมคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่. …) พ.ศ. … แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/1 เป็นครั้งแรก นอกจากนี้ ยังจะมีการประชุมร่วมกัน 3 ฝ่าย คือฝ่ายค้าน, ฝ่ายรัฐบาล และวุฒิสภา เพื่อพิจารณาการตั้งคณะกรรมการปรองดองสมานฉันท์ด้วย
นายวิรัชกล่าวถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.แก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ถ้าหากวันนั้นไม่มีการตั้งคณะกรรมาธิการก่อนรับหลักการ ก็จะไม่มีการลงมติในวันที่ 17-18 พฤศจิกายน ญัตติก็จะตกตั้งแต่วันที่ 23-24 กันยายน ฉะนั้น ในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลจึงเป็นสิ่งที่ยืนยันว่า พรรคร่วมรัฐบาลมีความจริงใจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะเมื่อได้นำรัฐธรรมนูญมาใช้แล้ว พบจุดบกพร่องของรัฐธรรมนูญ จึงต้องมีการแก้ไข โดยคณะกรรมาธิการจะดูแลและแก้ไขเฉพาะในส่วนของการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ใช้ร่างของรัฐบาลเป็นหลัก ยืนยันว่าจะไม่แก้ไขหมวด 1 และหมวด 2
นายวิรัชยืนยันอีกครั้งว่า พรรคร่วมรัฐบาลมีความจริงใจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นคำยืนยันที่เหมือนกับ ซึ่งคำยืนยันของนายวิรัช สอดคล้องกับคำยืนยันของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่รับปากต่อรัฐสภาว่าจะผลักดันให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพียงแต่ พล.อ.ประยุทธ์ได้กำหนดระยะเวลาว่า จะให้ลงมติ 3 วาระเสร็จสิ้นภายในเดือนธันวาคม ซึ่งผลที่ออกมาย่อมมีผลกระทบ การที่รัฐสภามีมติผ่านญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 1 เมื่อวันก่อน ทำให้รัฐสภารอดพ้นจากคำครหาเรื่องผิดสัญญา ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ จะรอดพ้นคำครหาหรือไม่ ต้องรอจนถึงเดือนธันวาคม
การเมืองท่ามกลางความหวาดระแวงในขณะนี้ คำมั่นสัญญาเป็นเรื่องสำคัญ การใช้วาทะโวหาร การใช้เหตุและผลในการอธิบายแม้จะช่วยสร้างสีสันและเสริมช่วยความน่าเชื่อถือ แต่สุดท้ายแล้วผลจากการกระทำย่อมมีความหมายมากที่สุด กรณีการลดความขัดแย้ง การถอยคนละก้าว การปฏิเสธการคุกคาม การรับฟังข้อเรียกร้อง ทุกอย่างล้วนแล้วแต่มีผลต่อรัฐบาล รวมทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่รัฐสภากำลังดำเนินการ ไม่ว่าผลออกมาจะเป็นไปตามสัญญา หรือไม่เป็นไปตามคำสัญญา ผลกระทบย่อมตกไปถึงรัฐบาลอย่างมิอาจหลีกเลี่ยง
