กรรมดี ครอบครัวดี มีความสุข โดย นพ.วิชัย เทียนถาวร

หน้าที่ของคน คือ รับผิดชอบหน้าที่การงาน คนเราจะอยู่ได้ด้วยหน้าที่และการงาน พ่อแม่รับผิดชอบ คือ รักลูก คิดปลูกฝังให้ลูกฝึกรักษาศีล ให้ลูกได้ดีมีปัญญา มีวิชาให้ลูกเป็นคนดี บุตรธิดาก็ต้องรับผิดชอบด้วยการศึกษาเล่าเรียน ว่านอนสอนง่าย หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม แห่งวัดอัมพวัน จังหวัดสิงห์บุรี ท่านได้อบรมสอนไว้ ความว่า…

พ่อแม่ช่วยลูกได้ ลูกช่วยพ่อแม่ได้ด้วยกรรมฐาน

แม่นั้นสำคัญมาก แม่ต้องรักษาลูกไว้ แม่ที่ดีต้องเป็นแม่แบบแม่แผน แม่แปลน แม่บันได แม่บ้าน แม่เรือน อยู่ตรงนี้ ลูกจะดีหรือไม่ดีขึ้นอยู่กับแม่เป็นหลักให้ลูก ไม่ใช่พ่อ ถึงพ่อจะดีแสนดี แต่แม่ฉุยแฉกแดกราน สุรุ่ยสุร่าย ไม่รู้จักเก็บงำให้ดี ไม่เป็นแบบที่ดีของลูก รับรองเจ๊งแน่

แม่บ้านดี ลูกดีหมด แม่บ้านดี ผัวเป็นอะไรก็ได้ เป็นนายพลได้ เป็นเจ้าเมืองได้ เป็นอาเสี่ยได้

Advertisement

ผัวขี้เหล้าเมายาไม่เป็นไร ถ้าภรรยาดีซักคน ลูกดีแน่ ผัวกินเหล้า นักเลงโต นักเล่นการพนัน หวยเถื่อนอย่าไปสนใจ เราจะไปตามผัวคนชั่วมาทำไม ดูแลลูกให้ดี สวดมนต์ทำกรรมฐานแผ่เมตตาให้เขามีความสุข เดี๋ยวผัวดีคนเดิมก็กลับมา มีตัวอย่างเล่าสู่กันฟัง คือ

ผู้หญิงคนหนึ่ง มีลูก 5 คน ดูแลลูกอยู่คนเดียว สามีไม่เคยมาเหลียวแลเลย ตลอด 16 ปี ดิ้นรนหาเลี้ยงลูก จากลูกจ้างไต่เต้าจนขึ้นมาเป็นผู้จัดการอยู่อังกฤษ ลูกดีหมด อีกรายหนึ่ง แม่ความรู้ ป.4 สวดมนต์ แผ่เมตตาทุกวัน ทำกรรมฐานเป็นประจำ ตัวเองค้าขายร่ำรวยดี ทำอะไรก็ได้มรรค ได้ผล ลูกสาว 4 คน ประสบความสำเร็จ ทั้งการศึกษาและหน้าที่การงาน

ขอทานสองคนสามีภรรยาได้เงินมาจะทำบุญส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งซื้ออาหารเลี้ยงลูก ประพฤติปฏิบัติเช่นนี้เป็นประจำ หลวงพ่อติดตามผลมานานปี จนขอทานสองคนผัวเมียตายไปแล้ว ต่อมาลูกหลานก็ร่ำรวย เป็นเศรษฐีมั่งมีศรีสุข อยู่กรุงเทพฯก็มีเงินเป็นร้อยล้าน อยู่ที่สหรัฐอเมริกาก็มี ท่านเลี้ยงลูกขอให้มีอัธยาศัยดีตั้งแต่เด็กๆ โตขึ้นว่านอนสอนง่ายหมดทุกคนเลยนะ

Advertisement

อย่าให้ลูกอยู่ว่าง อย่าให้ห่างผู้ใหญ่ นกอยู่ในกรงให้รีบสอน ออกไปแล้วจะตามไปสอนอย่างไร

จะมีเขยมีสะใภ้ ขอให้เลือกคนดีอย่าไปเอาลูกเศรษฐี คนดีมีปัญญา อยู่ที่ไหนก็เจริญฯ

เอาละหนู หนูไปฝึกจิตสูง เมื่อใด หนูจะได้สามีจิตสูง ถ้าหนูจิตต่ำเมื่อใด หนูจะได้สามีเป็นคนใจต่ำฯ

ท่านทั้งหลาย พ่อเปรียบเป็นรั้วบ้าน ให้ความแน่นหนา ไม่ให้ใครมารังแกลูกได้ แม่เปรียบเป็นธนาคาร มั่นคงในจิตใจ ลูกทุกคนเป็นเฟอร์นิเจอร์ประดับบ้าน

พาลูกเข้าวัดตอนเป็นหนุ่มเป็นสาว จะมองเห็นพระเป็นตุ๊กตา ต้องพามาตั้งแต่เด็กๆ จะได้เรียบร้อย

ลูกนำพ่อแม่มาเข้าวัด เป็นอภิชาตบุตร พ่อแม่ไม่มีทาน ให้พ่อแม่บำเพ็ญทาน พ่อแม่ไม่มีศีล ให้พ่อแม่บำเพ็ญศีล พ่อแม่ไม่มีภาวนา ให้พ่อแม่มาสวดมนต์ไหว้พระปฏิบัติธรรมฯ

พี่น้องต้องรักใคร่ปรองดองกันไว้ พี่รักน้อง น้องรักพี่ สร้างความดีให้พ่อแม่ พี่ชายคนโตเปรียบเหมือนพ่อ พี่สาวคนโตเปรียบเหมือนแม่ อย่าทะเลาะกัน บ้านไหนทะเลาะกันบ้านนั้นอัปมงคลฯ

กัน อยู่ที่ แม่ แก้ อยู่ที่ พ่อ ก่อ อยู่ที่ ลูก ปลูก อยู่ที่ ครู ความรู้ อยู่ที่ ศิษย์เป็นมิตรกัน

รักวัวต้องผูก รักลูกต้องตี รักมีต้องค้า รักหน้าต้องคิด รักมิตรต้องเตือนกัน

ลูกปฏิบัติกรรมฐาน อุทิศให้พ่อแม่ พ่อแม่จะมีอายุยืน…อารมณ์ดีอย่าโมโห อย่าด่า อย่าฆ่าสัตว์ อย่าโกรธ อย่าอิจฉา อย่าริษยา จะทำให้อายุยืน ผิวพรรณผ่องใส สุขภาพดี…คนบาป คนโมหะ อายุ 60 จะขาดสติ จะขี้หลงขี้ลืม

ถ้าจะขึ้นบ้านใหม่ให้ขึ้นวันพฤหัสบดี ซื้อผ้าใหม่ให้พ่อแม่สวมใส่ ไม่มีพ่อไม่มีแม่ ก็ไปเชิญปู่ ย่า ตา ยายก็ได้ แล้วเชิญท่านมานั่งบนผ้าขาวที่เราปูเตรียมไว้ให้นั่ง ตัวเราก็ไหว้พระสวดมนต์ เสร็จแล้วเราก็กราบท่านขอพรจากท่าน จำไว้พ่อแม่ให้พรลูกรับรองรวยทุกคน แล้วให้ท่านเจิมบ้านให้ ไม่จำเป็นต้องไปนิมนต์พระมาทำพิธีเสมอไป

ลูกต้องการอะไร? เด็กต้องการอะไร?… พ่อแม่ที่เคารพโปรดทราบ 1.ลูกต้องการความรัก โปรดให้ความรักความอบอุ่นกับลูก อย่าทิ้งลูก พ่อแม่รักลูกเท่ากัน แต่ห่วงใยลูกไม่เท่ากัน 2.ลูกต้องการความรู้ ลูกต้องการความรู้ อยากจะรู้ โปรดเมตตากับลูก สอนลูกดีๆ พูดไพเราะ อย่าตีลูก ถ้าถ้วยแตกซื้อใหม่ได้ แต่อยากเจริญพรถามว่า ลูกแตกไปซื้อได้ที่ไหน

3.ลูกต้องการอิสระเสรี ไม่ชอบบังคับ เด็กมันต้องดุกดิก เด็กนั่งเฉยๆ ไม่ได้ อย่าบังคับลูกเกินไป

รักลูกให้เหมือนปลูกต้นโพธิ์ เมื่อใหญ่เมื่อโตจะได้อาศัย ถึงคราวเจ็บจะได้ฝากไข้ ถึงคราวตายจะได้ฝากผี เวลาดีเอาไว้ใช้สอยบ้างประไรมี รักลูกเหมือนปลูกต้นตาลโตไปจะมีหลักฐาน

เลี้ยงลูกให้โต ปลูกต้นโพธิ์ให้ได้ร่ม ให้โตด้วยวิชาการ ให้มีหลักฐานมีงานทำ มีคู่ครองขอให้เป็นทองแผ่นเดียวกัน อย่าให้โตด้วยข้าวสุกหาความสนุกในสังคมฯ

ถ้าเป็นเด็ก ขี้เกียจ ขี้โกหก ขี้ขโมย ต้องห้ามเป็นผู้ใหญ่ ขี้เหล้า เล่นการพนัน ต้องห่างไกล

มาถึงตอนนี้ขอฝากญาติโยมเลยนะ ถ้ามีลูกสาวกับลูกชายนี่ โยมจะเอาใจใส่ใครมาก โยมจงเอาใจใส่ลูกสาว ให้เชี่ยวชาญกว่าลูกชายเพราะถ้าไม่มีวิชาความรู้ ไม่เชี่ยวชาญเคหะศาสตร์ไม่เข้าใจแม่บ้านการเรือนไปได้สามีเขาก็จะแผลงฤทธิ์เอา

อย่าสอนลูกขณะกำลังทานข้าว อย่าสอนลูกขณะกำลังอ่านหนังสือทำการบ้าน อย่าสอนลูกขณะที่ลูกกำลังจะนอน จงสอนลูกหลังจากลูกสวดมนต์ไหว้พระเสร็จแล้ว

คนโบราณสอนไว้ว่า พ่อแม่ตักเตือนต้องนิ่ง ต้องดุษณีภาพ ต้องรับฟัง ต้องยอมรับด้วยความจำนนและเหตุผลในตน คนโบราณได้สร้างความดีให้กับลูก สร้างความถูกให้กับหลาน ลงทุนสร้างความดี อดทนต่อความลำบากได้ทุกประการ ผิดกับคนในสมัยนี้ สร้างความชั่วไว้ในใจ กินสบาย นอนสบาย นอนตื่นสาย หน่ายหากิน หมิ่นเงินน้อย นั่งคอยวาสนาให้มาหาเอง ไม่เหมือนคนโบราณที่เขาต้องวิ่งไปหาวาสนา คือ ทำสองมือสองเท้า สมองหนึ่ง เป็นที่พึ่ง

อย่าไปเถียงพ่อแม่ ไม่เถียงครูบาอาจารย์ ไม่เถียงผู้ใหญ่ ต้องดุษณีภาพนิ่งไว้ด้วยความเคารพ ถึงท่านจะผิดถูกประการใด ท่านเป็นรัตตัญญู รู้กาลเวลากว่าเรา บอกว่าเราเป็นเด็กเกิดมาภายหลัง เราว่าท่านพูดไม่ถูกสำหรับเรา แต่ถูกสำหรับท่านนะ พ่อแม่เกิดมาก่อน อย่าเถียงนะเป็นบาป

คุณหนู หมั่นจด หมั่นจำ หมั่นจำ หมั่นจด สิ่งใดงาม อย่าได้งด คุณหนู หมั่นจด หมั่นจำ เรียนให้รู้ ดูให้จำ ทำให้จริง เรียนให้รู้ ดูให้จำ ทำให้จริง

สามรู้ สามดี ห้าปัญญา เอาไปสอนลูกหลาน

1.รู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกหาม 2.รู้อะไรไม่สู้รู้วิชา 3.รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี

ดี ที่เป็นที่ปรารถนาของทุกคน ดี ที่เป็นที่สนใจของทุกคน ดี ที่ละชั่วได้ (ท่านมาสร้างบุญ ต้องละบาป มาสร้างความดี ต้องละความชั่วจึงจะเป็นที่ปรารถนาของทุกคน เป็นที่สนใจของทุกคน เรียกว่า ความดี)

1.ภูมิรู้ 2.ภูมิธรรม 3.ภูมิฐาน 4.ภูมิปัญญา 5.ภูมิปัจจุบัน (อดีตอย่ารื้อฟื้น เรื่องของคนอื่นอย่าคิด กิจที่ชอบทำให้เสร็จอย่างเดียว นี่ภูมิปัจจุบัน)

บอกลูกหลานไว้ด้วยว่าอยากมีปัญญาดีมั้ย ขัดส้วม รับรองปัญญาดีทุกคน ไม่ใช่เรื่องโกหก อาตมาไปซื้อบานประตูหน้าต่างจากกำแพงเพชรไปเจอเด็กคนหนึ่ง เจ้าของร้านบอกหลวงพ่อว่า หลานคนนี้หัวไม่เอาไหนเลย สอบตกอยู่เรื่อย อยากจะเรียนหนังสือเก่งทำอย่างไรจะมีปัญญา หลวงพ่อก็บอกให้มาบวชเณรที่นี่ (ปัจจุบันที่วัดไม่รับบวชเณร) พอบวชแล้วบอกเณรขัดส้วม ขัดไปขัดมาก็รักษาความสะอาด อยู่มาได้หน่อยสึกแล้วไปเรียนหนังสือต่อ เรียนไปเรียนมากลายเป็นผู้พิพากษาไปสอบได้ที่หนึ่งเลย นี่ขัดส้วม

นานมาแล้ว คนเป็นขี้ทูดแต่ไม่รู้มาก่อน มาบวชที่วัดอัมพวัน อยู่ต่อมาก็มีอาการกำเริบจึงขอให้หลวงพ่อช่วย และปรารภสึกออกไปแล้วอยากได้เมียสวย หลวงพ่อแนะนำดังนี้ 1.สวดพาหุงมหากาฯ 2.ทำกรรมฐาน 3.ขัดส้วมวัด สองสามเดือนผ่านไป ขี้ทูดหาย เล็บงอกเป็นปกติ หน้าตาเกลี้ยงเกลาลาสึกไปเรียนจนจบรามคำแหง ต่อปริญญาโทจุฬาฯ และพบภรรยาลูกสาวเจ้าของเหมือง (สวยรวย ตามที่ขอกับหลวงพ่อไว้) ปัจจุบันเป็นรองศาสตราจารย์ไปอยู่อเมริกา

พระพุทธเจ้าสอนว่า “คนเราจะรักกัน ต้องกินข้าวหม้อเดียวกัน อยู่บ้านเดียวกันจึงจะรักกัน” พ่อไปทาง แม่ไปทาง พ่อแม่สร้างปมด้อยไว้กับลูก

ขอฝากข้อคิดไว้สอนลูกหลานบ้านใดอยากจน จะมีขี้ 3 กอง คือ 1.ขี้เมา 2.ขี้เล่น 3.ขี้เกียจ ถ้าอยากรวยเป็นเศรษฐี เอาขี้สามกองทิ้งให้หมด ข้อสำคัญ รวยเงินรวยทองเป็นเศรษฐีแล้ว ขอให้เป็นคนรวยน้ำใจด้วย จะเป็นที่ชื่นชมรักใคร่ของทุกคน

ถ้าไปเรียนต่อต่างประเทศ หลวงพ่อขอฝากไว้ 1.ให้พักอยู่คนเดียว ไม่เช่นนั้นจะชวนกันเที่ยว ดูหนังสือก็ดูคนเดียว จะได้ไม่คุยกัน 2.สวดมนต์เพื่อให้มีสมาธิ 3.ปฏิบัติกรรมฐานเพื่อให้มีสติ คิดถึงพ่อคิดถึงแม่ไว้ จะได้มีกำลังใจ แล้วหลวงพ่อจะแผ่เมตตาช่วย ขอให้ปฏิบัติตาม รับรองจบทุกคน

เสียงแม่กับเสียงพ่อเหมือนระฆังที่สอนเรามา เสียงอะไรจะไพเราะเท่าเสียงพ่อแม่ไม่มีแล้ว เสียงอะไรเล่าจะเสียงดังเท่าระฆังเสียงแม่ที่สอนลูกรักให้ดี ให้มีปัญญา ให้ลูกมีวิชาความรู้

สนองพระเดชพระคุณบิดามารดาไม่ยากด้วยการสร้างความดีให้มากได้ไหมอย่าให้พ่อแม่ผิดหวัง

ไม่ได้เตรียมตัวไว้ “ต้องพึ่งตนเอง” หลวงพ่อไปธุระแถวบางระจัน ก็เลยแวะเยี่ยมโยมหญิงคนหนึ่งเป็นอัมพาต ช่วยตัวเองไม่ได้ เหม็นอุจจาระมาก ตั้งแต่เช้ายังไม่ทานอะไรเลย สักพักหนึ่งมีรถ BMW วิ่งเข้ามาจอดที่บ้าน ในรถมีคนห้าคน ทั้งหมดขึ้นมาบนบ้าน หลวงพ่อถามว่า หนูเป็นใคร เขาบอกว่าเป็นลูก เรียนปริญญาโทจุฬาฯ จะไปเผาศพญาติของเพื่อนที่อยุธยาเลยแวะมาหาแม่เพื่อจะบอกว่าเดือนหน้าขอเงินหนึ่งหมื่นไปพิมพ์วิทยานิพนธ์ หลวงพ่อบอกว่า ไหนๆ มาแล้วซักผ้าให้แม่หน่อย อุจจาระเต็มไปหมด แม่ยังไม่ได้ทานข้าวเลย นี่แม่ของเธอนะ ถ้าแม่ของหลวงพ่อจะซักให้เดี๋ยวนี้เลย นี่แม่เธอนะ เธอทำ เธอก็ได้บุญ แต่ลูกสาวบอกว่า ไม่ได้ค่ะ ต้องรีบไป แม่ร้องไห้โฮเลย และบอกหลวงพ่อว่า ลูกคนนี้หมดนาไป 4-5 แปลงแล้ว จะมาเอาอีกแปลงหนึ่ง รถ BMW ก็ยังส่งไม่หมด เมื่อย้อนดูตัวแม่ ปรากฏว่าตนเองก็ไม่เคยซักผ้าให้แม่ และแม่ก็เป็นอัมพาตตาย ไม่เคยอยู่ปฏิบัติแม่ เพียงไปเยี่ยมแล้วก็กลับ พอมาถึงตัวเองก็เป็นอย่างนี้แหละหนอ ไม่ได้ให้เตรียมตัวเลย ไม่เคยเจริญกุศลภาวนา ไม่เคยสวดมนต์ไหว้พระ ไม่เคยปฏิบัติกรรมฐานแต่ประการใด

จึงเป็นดังที่กล่าวมา การเตรียมตัวนี้ต้องเจริญกุศลภาวนา ถึงจะรู้กฎแห่งกรรมจากการกระทำถึงจะแก้ปัญหาชีวิตได้อย่างแน่นอน ในที่สุดนาก็หมด บ้านก็หมด พ่อแม่ต้องขายเอาเงินแจกลูกไป นี่เป็นกฎแห่งกรรม : พึงระลึกไว้เสมอว่า “กรรมดี ครอบครัวดี มีสุข” ไงเล่าครับ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image