บทนำ : ทำตามกฎหมาย
ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า การที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พักอาศัยในบ้านพักรับรองของกองทัพบก ไม่ถือเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ตามรัฐธรรมนูญ ที่ห้าม ส.ส., ส.ว., รัฐมนตรี รับประโยชน์จากหน่วยงานรัฐเป็นพิเศษ โดยถือว่าเป็นการเข้าพักตามระเบียบกองทัพบกที่ให้สิทธิในฐานะอดีตผู้บังคับบัญชาระดับสูง อดีต ผบ.ทบ. ที่เคยทำคุณประโยชน์ให้ประเทศชาติ คดีหรือคำร้องเป็นอันยุติ พล.อ.ประยุทธ์ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมต่อไป อย่างไรก็ตาม ยังมีประเด็นที่น่าสนใจติดตามมา
ในเรื่องเดียวกันนี้ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว. ยื่นหนังสือต่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ในฐานะประธาน กมธ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ให้ตรวจสอบว่า แม้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่มีความผิด แต่คำวินิจฉัยฟังข้อเท็จจริงได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้สิทธิพิเศษ มูลค่าเกิน 3,000 บาท ตามพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริต เพราะอยู่มาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2557 จนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 6 ปี บนบ้านเนื้อที่ 2 ไร่ที่ค่าน้ำ ค่าไฟต้องเกิน 3,000 บาทต่อเดือนแน่นอน จึงขอให้ กมธ.เร่งสอบสวนข้อเท็จจริง โดยเรียกหลักฐานประกอบด้วย คำวินิจฉัยกลาง และคำวินิจฉัยส่วนตนของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ คำร้องพรรคเพื่อไทย คำชี้แจงของ พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ อดีต ผบ.ทบ. และ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. รวมถึงเรียก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ออกระเบียบบ้านพักรับรองกองทัพบก ปี 2548 มาให้ข้อมูลต่อ กมธ.
ถือเป็นประเด็นที่สภาควรให้ความสำคัญ และหาทางศึกษาเพื่อให้เกิดมาตรฐาน และเป็นไปตามกฎหมาย ขณะเดียวกัน ผู้เกี่ยวข้องน่าจะต้องพิจารณา เพื่อหาแนวทางปฏิบัติอันเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย จะได้เกิดมาตรฐานการปฏิบัติ ที่สอดคล้องต้องกัน ทั้งรัฐธรรมนูญ และระเบียบกองทัพบก ประเด็นสำคัญ คือ ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เป็นตำแหน่งทางการเมือง ภายใต้รัฐธรรมนูญ 2560 ต้องถูกตรวจสอบตลอดเวลาว่า ได้ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ โดยพรรคฝ่ายค้านต้องทำหน้าที่ตรวจสอบตามกฎหมายเช่นกัน จึงถือว่าต่างฝ่ายต่างมีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องปฏิบัติให้ถูกต้องเพื่อป้องกันมิให้เกิดปัญหาทั้งทางกฎหมายและทางการเมือง