รื่นร่มรมเยศ : ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว

รื่นร่มรมเยศ : ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว

รื่นร่มรมเยศ : ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว

เรามักจะได้ยินคำพูดเชิงตัดพ้ออยู่เสมอว่า “ทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไป” เราลองมาดูกันซิว่าความจริงมันเป็นเช่นนั้นหรือไม่

นักเรียนนักศึกษามีความขยันหมั่นเพียร เอาใจใส่ต่อการเรียน ยึดหลักหัวใจนักปราชญ์สี่ประการ คือ สุ. (ฟัง) จิ. (คิด) ปุ. (ถาม) ลิ. (จด) ใครเห็นใครรู้ก็ชมว่าเขาเป็นนักเรียนนักศึกษาดี

ข้าราชการทำงานในหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่คดไม่โกง ไม่ฉ้อราษฎร์บังหลวง ไม่เอาเวลาราชการไปแสวงหาผลประโยชน์เข้าตัว ใครเห็นใครได้ยินก็ชื่นชมว่าเขาเป็นข้าราชการดี

Advertisement

นักเรียนที่ตั้งใจเรียน ข้าราชการที่ซื่อสัตย์สุจริต ถ้าพูดในแง่พระพุทธศาสนาก็เรียกว่าเขาทั้งสองกำลังทำความดี

และเขาทั้งสองก็ได้ความดีตอบแทนในทันทีที่เขาทำ คือได้ความเป็นนักเรียนที่ดี ขยันศึกษาเล่าเรียน และได้ความเป็นข้าราชการที่ดี ซื่อสัตย์สุจริต

นี่แหละที่พระท่านว่า ทำดีได้ดีหมายถึง “ทำความดีได้ความดี” ไม่เคยปรากฏว่ามีใครทำความดีแล้วได้ความชั่ว

นักเรียนนักศึกษาที่ดี ถึงเวลาสอบก็ย่อมจะได้คะแนนดี ครูผู้สอนเขามาก็พลอยดีใจ ที่ลูกศิษย์ที่ตนประสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้มาสอบได้ดี โรงเรียนที่เขาสังกัดอยู่ก็พลอยได้ชื่อเสียงไปด้วยที่มีนักเรียนนักศึกษาเก่งๆ เช่นเขา พ่อแม่ญาติพี่น้องเพื่อนฝูงก็ดีใจ สังคมก็ยกย่องชมเชย นี่คือผลพลอยได้ที่ตามมาจากการเป็น “นักเรียน นักศึกษาดี”

ข้าราชการที่ซื่อสัตย์ก็เช่นเดียวกัน ย่อมได้รับการยกย่องชมเชยจากคนทั่วไป มิใช่แต่ในขณะที่เขามีชีวิตอยู่เท่านั้น ตายไปแล้วเป็นเวลาร้อยปีสองร้อยปี คนเขาก็กล่าวขวัญถึงด้วยความชื่นชม นี่แหละคือ “ผลแห่งความดี”

ขอให้เข้าใจว่าทำความดีย่อมได้ความดี มิใช่ทำความดีได้ของดี โปรดอย่าตีค่าของความดีและผลของความดีเป็นวัตถุสิ่งของ

ท่านเคยได้ยินเรื่องดังนี้ไหม

นาย ก. เป็นเจ้าของโรงงานผลิตของเล่นเด็ก โรงงานตั้งอยู่ภายในบ้านของตนเอง นาย ก. รับเด็กจากต่างจังหวัดมาทำงานจำนวนหนึ่งประมาณ 10 กว่าคน

นาย ก. บังคับให้เด็กนั่งทำงานตั้งแต่เช้าถึงดึก ลุกหนีไปไหนไม่ได้ ยกเว้นเข้าห้องน้ำ ใครทำงานช้าหรือแสดงทีท่าว่าเหนื่อยหรือง่วงก็เฆี่ยนตีจนได้รับบาดเจ็บ โรงงานของนาย ก. เป็นโรงงานทาสหรือโรงงานนรกกลางกรุงที่ไม่มีใครทราบ

บาปกรรมที่นาย ก. ทำทารุณโหดร้ายต่อเด็กๆ ก็บันดาลให้ข่าวรั่วไหลไปถึงหูตำรวจ ตำรวจยกไปบุกทลายโรงงานเถื่อน จับ นาย ก. พร้อมภรรยา เด็กที่ได้รับการช่วยเหลือออกมามีสภาพน่าสงสารยิ่ง บางคนเป็นง่อยเดินไม่ได้ มือเท้าลีบ เพราะถูกกักให้นั่งทำงานเป็นเวลาแรมปี บางคนมีบาดแผลเรื้อรัง เพราะถูกเจ้าของโรงงานอำมหิตทุบตีเป็นแผล ไม่ได้รับการเยียวยารักษา

หนังสือพิมพ์ประโคมข่าวครึกโครม พฤติกรรมอันหฤโหดไร้มนุษยธรรมของสองสามีภรรยาถูกสาปแช่งไปทั่ว และในที่สุดศาลตัดสินจำคุกทั้งสองคนเป็นเวลาหลายปี ออกจากคุกมาแล้ว ไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง เพราะโรงงานถูกสั่งปิด ญาติพี่น้องหมางเมิน ฐานะยากจนลง ที่ร้ายที่สุดก็คือ ทั้งสองมีลูกสาวและลูกชาย ล้วนรูปร่างพิกลพิการ คนโตมือเท้าลีบ คนน้องเป็นใบ้

พฤติกรรมของนาย ก. และภรรยาเป็นพฤติกรรมของคนทำชั่วผิดศีลธรรม ผลของความชั่วที่นาย ก. และภรรยาได้รับเห็นได้ตามลำดับ เช่น

– ได้รับการประณามว่าเป็นคนชั่ว เสื่อมเสียชื่อเสียง
– ถูกตำรวจจับ ถูกศาลตัดสินจำคุก
– โรงงานถูกสั่งปิด ฐานะความเป็นอยู่ยากจนลง
– ลูกเกิดมาพิกลพิการ
– จิตใจของเขาทั้งสองเร่าร้อน หาความสงบสุขมิได้

ผลทั้งหมดนี้เห็นกันในชาตินี้ ไม่ต้องรอถึงชาติหน้า เพราะฉะนั้น โปรดรำลึกไว้เถิดว่า ทำชั่วได้ผลชั่วแน่นอน และผลที่ร้ายแรงที่สุดก็คือ ความทุกข์ทางใจที่จะพึงได้รับ

เสฐียรพงษ์ วรรณปก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image