สถานีคิดเลขที่ 12 : ปูทางลง

สถานีคิดเลขที่ 12 : ปูทางลง ทันทีสหรัฐอเมริกาเปลี่ยนผู้นำประเทศอย่างเป็นทางการ

สถานีคิดเลขที่ 12 : ปูทางลง

ทันทีสหรัฐอเมริกาเปลี่ยนผู้นำประเทศอย่างเป็นทางการวันพุธที่ 20 ม.ค. สถิติการทำงานของ นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีหญิงเยอรมนี ร่วมกับผู้นำสหรัฐจะเพิ่มเป็น 4 คน

แม้ว่าจะทำงานกับ โจ ไบเดน ด้วยระยะเวลาไม่ถึงปี

ช่วงเวลาที่สหรัฐระทึกอยู่กับการตรึงกำลังรักษาความปลอดภัยสำหรับพิธีสาบานตนเป็นประธานาธิบดีของนายไบเดน เยอรมนีมีเหตุการณ์สำคัญทางการเมืองที่ส่งสัญญาณว่าการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองมาถึงแล้วเช่นกัน

Advertisement

นางแมร์เคิลจะยุติการเป็นผู้นำประเทศที่กินเวลามานาน 16 ปี ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ หลังจากประกาศไม่ไปต่อในการเลือกตั้งทั่วไป เดือนกันยายน 2564

พรรค CDU ต้นสังกัดของนางแมร์เคิลเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ที่มาแทนผู้นำหญิงไว้แล้ว คือ นายอาร์มิน ลาเช็ต แนวนิยมสายกลาง บุคลิกเรียบๆ เหมือนกับนางแมร์เคิล โดยมีภารกิจนำพรรคลงสู้ศึกเลือกตั้ง และมีโอกาสที่จะได้เป็นนายกฯ ของประเทศด้วย

แรงกดดันของผู้นำใหม่น่าจะอยู่ที่การทำหน้าที่และสร้างผลงานต่อจากนายกฯหญิง ซึ่งไม่เพียงเป็นผู้นำชาติเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 4 ของโลก และชาติทรงอิทธิพลของอียู ยังไต่ระดับไปถึงการเป็นผู้นำโลกประชาธิปไตย โดยเฉพาะเมื่ออเมริกาเสียรังวัดในยุค โดนัลด์ ทรัมป์

Advertisement

สถานีข่าวซีเอ็นเอ็น นับเวลาเปรียบเทียบให้เห็นว่า นายกฯแมร์เคิลทำงานกับผู้นำนานาประเทศมาแล้วหลายคน เป็นนายกฯ อังกฤษ 5 คน ประธานาธิบดีฝรั่งเศส 4 คน นายกรัฐมนตรีอิตาลี 7 คน และประธานาธิบดีสหรัฐ 4 คน

หันมาเทียบช่วงเวลาประเทศไทย ถ้ามองย้อนไปกว่านางแมร์เคิลอยู่ในตำแหน่งนายกฯ ตั้งแต่ปี 2548 ก็ตรงกับที่ประเทศไทยเปลี่ยนนายกฯ มาแล้ว 6 คน

แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับช่วงเวลาที่ตรงกับเหตุการณ์รัฐประหารไทยถึง 2 ครั้ง

การทำงานกับประเทศที่เกิดรัฐประหารย่อมไม่ง่ายสำหรับเยอรมนี ชาติที่เป็นประชาธิปไตยและมีความสัมพันธ์ทางการทูตกับไทยมายาวนาน จะครบ 160 ปีในปีหน้า

นายกฯแมร์เคิลเคยต้อนรับนายกฯ ไทยที่กรุงเบอร์ลิน ทั้งนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่มาจากการเลือกตั้ง เมื่อปี 2555 และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตอนเป็นผู้นำ คสช. ปี 2561

การวางตัวและบรรยากาศต้อนรับเป็นอย่างไร แตกต่างหรือไม่ ผู้สนใจไปเสิร์ชย้อนดูภาพในกูเกิลได้ แต่สาระสำคัญของการเจรจาเอ่ยถึงได้ชัดเจน

ทริปปี 2555 พูดถึงการเพิ่มความร่วมมือทางการค้าระหว่างสองประเทศ ส่วนทริป 2561 พูดถึงความคาดหวังที่ไทยจะกลับเข้าสู่การฟื้นฟูระบอบประชาธิปไตย ย้ำว่า ถ้าการเลือกตั้งเป็นธรรม สื่อมีเสรีภาพมากเท่าใด การเพิ่มความสัมพันธ์ก็จะรวดเร็วและเพิ่มพูนเท่านั้น

มาถึงตอนนี้เป็นอย่างไรก็คงจะพอมองออก อะไรๆ ที่ค้างไว้ก็ยังไม่บรรลุผล จะบอกว่าเป็นเพราะสถานการณ์โควิดทำให้เดินเรื่องช้าก็อาจจะได้ (แต่เอฟทีเอ อียู-เวียดนาม มีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่ปี 2563 ทั้งๆ ที่โควิดระบาดหนัก)

ฉะนั้นความคืบหน้าแผนงานใหญ่ใดๆ เกี่ยวกับไทย-เยอรมัน ไม่น่าจะเกิดทันในยุคนายกฯแมร์เคิลแล้ว

นายกฯหญิงจะทำงานหมดวาระไปอย่างสง่างามตามวิถีประชาธิปไตย ซึ่งไม่ง่ายที่ใครจะลงจากอำนาจแบบสวยๆ อย่างนี้

ชุมฉันท์ ชำนิประศาสน์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image