บทนำ : สัญญาณบวก
นพ.เฉวตสรร นามวาท ผอ.กองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แถลงเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ถึงสถานการณ์การควบคุมโรคโควิด-19 ระบาด ตอนหนึ่งว่า การฉีดวัคซีนป้องกันโควิดในประเทศอิสราเอล วัคซีนของบริษัท ไซเฟอร์ สหรัฐอเมริกา ฉีดครอบคลุมประชากรจำนวนมากจึงนำข้อมูลมาวิเคราะห์ว่าผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป 200,000 คน เทียบกับไม่ได้ฉีดอีก 200,000 คน พบว่า คนได้รับวัคซีนมีอัตราการติดเชื้อน้อยกว่าคนไม่ได้ฉีดถึงร้อยละ 33 เป็นสัญญาณดีในแง่ประสิทธิผลของวัคซีนตอนตั้งต้นเป็นไปในทางบวกน่าวางใจ และรายงานความปลอดภัย ไม่พบอาการแทรกซ้อนน่ากังวลในผู้สูงอายุที่รับวัคซีนแล้ว
สำหรับการฉีดวัคซีนทั่วโลก ศ.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ระบุว่า วันที่ 3 กุมภาพันธ์ เป็นวันที่จำนวนการฉีดวัคซีนกับจำนวนผู้ติดเชื้อเท่ากันพอดี ตัวเลขประมาณ 104 ล้านโดส/คน สถิติที่สำคัญในวันที่ยอดตัวเลขทั้งสองเท่ากัน เปรียบเทียบ 2 ด้าน คือ 1.จำนวนการฉีดวัคซีนโควิด-19 สะสมถึง 104 ล้านโดส ใช้เวลา 57 วันนับจากวันที่ฉีดครั้งแรก ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิดทั่วโลกรวมกันถึง 104 ล้านคน ใช้เวลา 400 วันนับจากวันที่รายงานผู้ติดเชื้อครั้งแรก 2.ต่อจากนี้จำนวนการฉีดวัคซีนจะเพิ่มขึ้น เร็วกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อช่วงนี้มีการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นวันละ 4.2 ล้านโดส ขณะนี้จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นวันละประมาณ 500,000 คน
การสัมมนา “พลิกสูตรวัคซีนสู้โควิด พลิกวิกฤตเศรษฐกิจไทย” ที่หนังสือพิมพ์มติชนจัดขึ้นเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ทั้งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ทั้งนายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนพ.นคร เปรมศรี ผอ.สถาบันวัคซีนแห่งชาติต่างยืนยันการจัดหาวัคซีนสำหรับคนไทยโดยมั่นใจว่าตั้งแต่เดือนมิถุนายนไทยจะฉีดวัคซีนให้คนไทยเดือนละ 5 ล้านโดส และขอให้มั่นใจในความปลอดภัย รับรองว่าไม่มีใครเอาคนไทยไปเป็นหนูทดลอง และเชื่อว่าอีก 3 เดือนข้างหน้าความสามารถการผลิตวัคซีนทั้งโลกจะมีมากขึ้น จะไม่มีปัญหาขาดแคลนวัคซีน ทั้งหมดนี้คือสัญญาณบวกสำหรับประชากรทั้งหมดในโลกรวมทั้งคนไทย แต่ในห้วงเวลาที่ได้รับสัญญาณบวก ขอให้ทุกคนอย่าประมาท ต้องปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขเพื่อความปลอดภัย
