ผู้เขียน | สถานีคิดเลขที่ 12 |
---|
สถานีคิดเลขที่ 12 : ถ้าทหารไร้สงคราม
คิดเล่นๆ ว่าถ้าโลกไม่มีสงคราม ทหารยังจะต้องทำอะไรบ้าง
แน่นอนว่า คงไม่ใช่การรัฐประหารแบบพม่า แต่เป็นภารกิจที่เหลือทั้งหมดที่ทำกันอยู่ตอนนี้ ยกเว้นการสู้รบฆ่าฝ่ายศัตรู
ต้นตอที่ทำให้คิดเล่นๆ มาจากกรณีที่รัฐบาล นายโจ ไบเดน แห่งสหรัฐอเมริกา แถลงยุติการสนับสนุนปฏิบัติการทางทหารกับพันธมิตรในเยเมน
ข่าวนี้ไม่ได้ดังครึกโครมอะไร และดูเหมือนจะได้รับความสนใจน้อยกว่า การแสดงท่าทีของรัฐบาลไบเดนที่มีต่อจีน ว่าจะยังไม่เร่งรีบเปลี่ยนแปลงอะไร ทั้งยังงัดข้อกันชัดเจนถึงจุดยืนของแต่ละฝ่ายในประเด็น ฮ่องกง ไต้หวัน ทิเบต ซินเจียง รวมมาถึงพม่าด้วย
เมื่อมหาอำนาจสองฝ่ายเห็นไม่ตรงกัน ย่อมจะเป็นที่สนใจมากกว่า เพราะจะเป็นการถ่วงดุลอำนาจในภูมิภาคใหญ่ๆ อย่างเอเชีย-แปซิฟิก
สำหรับเยเมน เป็นประเทศเล็กๆ ตรงปลายคาบสมุทรอาหรับ ตั้งอยู่ทั้งภูมิภาคเอเชีย ฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ และเป็นส่วนหนึ่งของตะวันออกกลาง มีประชากรไม่ถึง 30 ล้านคนฐานะของประเทศก็ยากจน
นับตั้งแต่เยเมนกลายเป็นสมรภูมิสงครามกลางเมืองปี 2557 ระหว่างนิกายสุหนี่ กับนิกายชีอะห์ คนในประเทศนี้ก็เป็นที่น่าสงสารมากถึงมากที่สุดมานาน 6 ปี และเข้าสู่ปีที่ 7
ลำพังคนในประเทศสู้รบกันก็เหนื่อยมากพอแล้ว ต่อมาเยเมนกลายเป็นสงครามตัวแทนของชาติมหาอำนาจให้แก้ยากเข้าไปอีก
รัฐบาลสหรัฐสองชุดก่อนไบเดน สนับสนุนซาอุดีอาระเบีย พี่ใหญ่ของชาติอาหรับ สู้รบกับกบฏฮูธีที่เชื่อว่าอิหร่านหนุนหลัง จนไม่มีใครยอมใคร ไม่มีใครยอมแพ้
ผลกรรมซ้ำเคราะห์จึงตกแก่ชาวบ้านอย่างสาหัส โดยเฉพาะเมื่อมีการโจมตีทางอากาศ วิธีรบแบบนี้เสี่ยงสังหารคนไม่รู้อิโหน่อิเหน่มากที่สุด
ประเมินว่ามีผู้เสียชีวิตในช่วง 6 ปีมานี้มากกว่า 110,000 ราย และอีกหลายล้านคนโดยเฉพาะเด็กๆ ตกอยู่ในสภาพอดอยากยากแค้น
ไบเดนน่าจะขบคิดได้ไม่ยากว่า มาถึงจุดนี้ไม่มีทางตัดสินผู้ชนะในสงครามครั้งนี้ได้แน่ จึงลั่นวาจาว่า “สงครามในเยเมนต้องจบได้แล้ว”
การยุติสงครามก็คือ การหยุดรบ เลิกระเบิดทางอากาศ เลิกกราดยิง เลิกปาระเบิด ที่สำคัญคือต้องตั้งโต๊ะเจรจากันระหว่างคู่ขัดแย้ง
ความจริง ถ้าเลือกวิธีเจรจากันตั้งแต่ทีแรกน่าจะทำให้ไม่ต้องฆ่ากันตายมากขนาดนี้ แต่ก็อย่างว่าพอเกิดสงคราม คนที่ได้ประโยชน์มากอันดับต้นๆ คือ ผู้ค้าอาวุธ
อย่างสงครามเยเมน คนขายอาวุธให้กับทั้งฝ่ายซาอุดีอาระเบีย และนักรบฮูธีน่าจะร่ำรวยไปไม่น้อย
ความที่สงครามเยเมนเริ่มต้นเมื่อปี 2557 จึงชวนให้คิดเทียบเคียงกับเหตุการณ์ในไทยว่า เป็นปีที่เกิดรัฐประหารขึ้น ซึ่งถ้าเทียบแล้วไทยไม่ได้เผชิญความตาย หรือสูญเสียเท่ากับเยเมน
แต่จะถึงกับสรุปว่า ไทยโชคดีแล้วก็คงจะไม่ได้ เพราะเราไม่ได้ถูกบีบให้เลือกระหว่างรัฐประหารกับเกิดสงคราม อย่างที่พยายามจะชวนเชื่อกันมา 6-7 ปี
ยิ่งมาเห็นสถานการณ์ในพม่าแล้ว ก็ได้แต่คิดว่าต่อให้ไม่มีสงคราม ทหารเป็นอาชีพที่ทำประโยชน์ได้มากมายหลายด้านจริงๆ ยกเว้นการรัฐประหาร
ชุมฉันท์ ชำนิประศาสน์