รื่นร่มรมเยศ : สร้างความดีเป็นทุนเดิม (2) โดย เสฐียรพงษ์ วรรณปก

เมื่อครั้งผมเป็นสามเณรอยู่กับหลวงพ่อเจ้าคุณพระธรรมเจดีย์ วัดทองนพคุณ (สมณศักดิ์ท่านสมัยนั้นคือพระกิตติสารโศภน) มีคหบดีท่านหนึ่งนำพระสุโขทัยสวยงามมากองค์หนึ่งมาถวายท่านบอกว่า ตั้งแต่ได้พระองค์นี้มาคนในบ้านไม่สบายกันบ่อย หมอเข้าทรงบอกว่าให้นำพระไปถวายวัดเสีย

เมื่อเขาไปแล้วหลวงพ่อพูดว่า พระพุทธรูปนั้นดีทุกองค์ แต่ที่อยู่กับเขาไม่ได้ เพราะเขาไม่มีความดีพอที่จะรองรับ บุญไม่ถึงที่จะได้ของดีเป็นสิริมงคลมาอยู่ด้วย มันก็มีอันให้ร้อนใจอย่างนี้แหละ

“คงไม่เคยไหว้พระสวดมนต์ ทำบุญทำกุศลอะไรเลย พระท่านจึงไม่อยู่ด้วย” หลวงพ่อสรุป

อยากได้เพชรมาทำแหวน ก็ต้องหาเรือนแหวนมารองรับเพชร และเรือนก็ต้องสวยงามมีค่าพอที่จะรองรับเพชรเม็ดโตได้ฉันใด อยากมีความสุขความเจริญ ก็ต้องมีความดีที่สะสมอบรมไว้เป็นฐานรองรับหรือเกื้อหนุนส่งเสริมให้เจริญฉันนั้น ไม่ใช่อยู่ๆ จะให้เจริญก้าวหน้าโดยไม่เคยทำอะไรไว้เลย ย่อมเป็นไปไม่ได้

Advertisement

ถึงมี “บุญหล่นทับ” ก็รักษาไว้ไม่ได้ ดังที่ชาวบ้านเรียกว่า วาสนาบารมีไม่ถึง ดังนิทานจะเล่าให้ฟังดังต่อไปนี้

ณ เทวาลัยนอกเมืองพาราณสี มีไก่หลายตัวอาศัยอยู่ คืนวันหนึ่งไก่สองตัวทะเลาะกัน สาเหตุมาจากตัวที่นอนอยู่ข้างบนขี้ใส่หัวตัวที่นอนอยู่ข้างล่าง

“ไอ้ตัวไหนขี้รดหัวกูวะ” ตัวอยู่ข้างล่างตะโกนด่า

“ทานโทษไม่ทันเห็น นึกว่าไม่มีใครอยู่ข้างล่าง แต่ไม่เป็นไรดอก ขี้ฉันไม่ใช่ขี้ธรรมดานะ” ตัวอยู่บนพูดยวนทำให้ตัวข้างล่างโมโหหนักขึ้น

“เอ็งรู้ไว้เสียด้วย ถ้าใครได้กินข้า จะได้กหาปณะพันหนึ่งในวันนี้ทันที” ไก่ตัวล่างตะโกนอวด

“กระจอก รู้ไว้เสียด้วย ถ้าใครได้กินเนื้อสันของข้า จะได้เป็นพระราชา ใครกินเนื้อติดหนังจะได้เป็นเสนาบดี ถ้าเป็นหญิงจะได้เป็นมเหสี ถ้าใครกินเนื้อติดกระดูกจะได้เป็นขุนคลัง ถ้าเป็นพระจะได้เป็นพระอาจารย์พระเจ้าแผ่นดิน เห็นหรือยังว่าข้าแน่ขนาดไหน” ไก่ตัวบนคุยทับ

คนหาฟืนที่หลบมานอนอยู่ใกล้เทวาลัยได้ยินเข้าจึงแอบเอาไก่ตัวบนไปฆ่าย่างอย่างดี ชวนภรรยาไปอาบน้ำชำระร่างกายก่อนกินไก่ อาบน้ำพลางครึ้มอกครึ้มใจที่จะได้เป็นพระราชามหากษัตริย์ ขณะนั้นเอง ถาดใส่ไก่ย่างถูกลมพัดแรงลงแม่น้ำลอยไปตามกระแสน้ำ สองสามีภรรยาเลยชวดกิน

นายควาญช้างอาบน้ำให้ช้างอยู่ทางใต้น้ำเห็นเข้า จึงนำไปให้ภรรยาที่บ้าน ดาบสผู้คุ้นเคยกับควาญช้างรู้เห็นเหตุการณ์ล่วงหน้า ได้ไปยังบ้านควาญช้างพอดี เขาจึงนำไก่ย่างตัวนั้นไปถวายดาบส ดาบสฉันเนื้อติดกระดูก แบ่งเนื้อสันให้นายควาญช้าง และเนื้อติดหนังให้ภรรยานายควาญช้าง กล่าวเป็นปริศนาว่า โยมทั้งสองจะโชคดีในไม่ช้านี้ แล้วลากลับ

สามวันต่อมา มีข้าศึกมาล้อมเมืองพาราณสี พระราชาทรงคิดพิสดารอะไรไม่รู้ คือ ทรงให้นายควาญช้างแต่งกายเป็นพระองค์ ส่วนพระองค์แต่งตัวเป็นทหารเลวออกรบ สิ้นพระชนม์ในสนามรบ พอสงครามสงบ เหล่าเสนาอำมาตย์และประชาชน ได้ยกนายควาญช้างขึ้นเป็นพระราชาปกครองประเทศสืบแทนองค์ก่อน

ตำแหน่งใหญ่โตรออยู่ข้างหน้า คนหาฟืนแกอดได้เป็นอย่างนี้ทางพระท่านเรียกว่า ไม่มีปุพฺเพกตปุญฺญตาครับ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image