บทนำมติชน 20 กุมภาพันธ์ : หลวงพ่อป้อม
ในระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจ มี ส.ส.พรรครัฐบาล เรียกเสียงฮือฮา เมื่อนำเหรียญทองคำรุ่น “หลวงพ่อป้อม” และรุ่น “ป่ารอยต่อ” มาแสดงต่อสื่อมวลชน โดยจัดทำขึ้นมา 2 รุ่น น้ำหนักเหรียญละ 50 สตางค์ พร้อมกับยืนยันว่า ได้รับอนุญาตจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐเรียบร้อยแล้ว เมื่อนำเหรียญไปให้ พล.อ.ประวิตรดู พล.อ.ประวิตรยังได้เป่าพร้อมให้พรเพื่อความเป็นสิริมงคล ขอให้คุ้มครองแคล้วคลาดจากศัตรูและคู่อริ อีกประเด็นที่เกรียวกราวไม่น้อย คือการสะกดชื่อและนามสกุลหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐผิดเป็น “พลเอกประวิทย์ วงศ์สุวรรณ”
ส่วนที่สะกดชื่อนามสกุลผิด เป็น “พลเอกประวิทย์ วงศ์สุวรรณ” ส.ส.ดังกล่าวเผยว่า เป็นเพราะความเร่งรีบจัดทำ ร้านค้นหาชื่อผิด ทั้งนี้ เมื่อทำเหรียญมาแล้ว มี ส.ส.พรรคแกนนำรัฐบาลหลายคนสนใจสอบถามอยากได้ แต่ไม่สามารถทำแจกได้ เพราะมูลค่า 3 พันบาท จึงอนุญาตให้ไปทำกันเองได้ ทั้งนี้ ที่ผ่านมาไม่เคยคล้องพระอะไรเลย แต่ครั้งนี้ด้วยความเคารพท่านเหมือนกับพ่อแม่จึงคล้องคอไว้ ต่อมามีกระแสข่าวว่า พล.อ.ประวิตร กล่าวกับสื่อว่า ไม่รู้เรื่องและไม่เคยให้คำแนะนำการจัดทำเหรียญดังกล่าว ผู้จัดทำไม่เคยมาปรึกษา และก็ไม่ได้เห็นด้วยที่ทำเหรียญดังกล่าว อย่าเอาตนไปเกี่ยวข้อง ไม่สนับสนุน ที่ต้องพูดเพราะเห็นเป็นข่าวใหญ่โต น่าจะเป็นความชื่นชอบของตัวเองมากกว่า และต่อมามีข่าวว่า ผู้จัดทำเหรียญดังกล่าวได้ขึ้นไปขอโทษ พลเอกประวิตร ที่ห้องรับรองภายในอาคารรัฐสภา
เป็นเรื่องถูกต้องแล้ว ที่ พล.อ.ประวิตร ได้ห้ามปราม ส.ส.ในพรรค ก่อนจะกลายเป็นแฟชั่น ห้อยเหรียญทองคำรูปเหมือนรองนายกฯกันทั่วไปในพรรคแกนนำรัฐบาล การทำเหรียญดังกล่าวเป็นเสรีภาพส่วนตัวของผู้ที่จัดทำขึ้นมาก็จริง แต่เนื่องจากผู้จัดทำเป็นนักการเมืองและเป็น ส.ส. ทำให้ประชาชนและสังคม เกิดความสนใจและสงสัยใคร่รู้ว่า มีเหตุผลแต่เพียงเคารพเหมือนพ่อแม่ หรือมีเหตุผลอย่างอื่นที่ลึกซึ้งมากกว่านั้น หรือเพื่อประโยชน์ทางการเมืองของผู้จัดทำนั้นเอง เป็นการเชิดชูตัวบุคคลจนเกินเลยหรือไม่ ซึ่งจะนำไปสู่คำถามเรื่องความเหมาะสม และยังเรียกแขกทำให้พล.อ.ประวิตรตกเป็นเป้าการวิพากษ์วิจารณ์ต่อไปอีก
