สถานีคิดเลขที่12 : ครม.กู้วิกฤต โดย นฤตย์ เสกธีระ

ข่าวก่อนหน้านี้ที่ระบุว่า การปรับ ครม.จะเสร็จสิ้นภายในวันที่ 21 มีนาคม

ตอนนี้เหลือเวลาอีก 10-11 วัน เมื่อถึงวันนั้น ประเทศไทยจะมีคณะรัฐมนตรีที่ต้องทำหน้าที่ในสถานการณ์วิกฤต

คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ต้องมีรัฐมนตรีใหม่เข้าไปนั่งในเก้าอี้ที่ว่าง 3 เก้าอี้

หนึ่ง คือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

Advertisement

หนึ่ง คือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

หนึ่ง คือ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม

สาเหตุที่รัฐมนตรีคนเดิมไม่อยู่ เพราะต้องพ้นจากเก้าอี้เนื่องจากต้องคำพิพากษาให้จำคุก ในคดีชัตดาวน์กรุงเทพฯ

Advertisement

เมื่อเก้าอี้รัฐมนตรีว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องหาคนเข้ามาทำแทน

ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ วางกรอบการปรับ ครม.ไว้ว่า ให้หัวหน้าพรรคเจ้าของโควต้าเดิมส่งรายชื่อเข้ามา

อยากสะกิดนายกฯว่า อำนาจ ปรับ ครม.เป็นของท่าน

รัฐมนตรีที่มาร่วมทำงานควรจะเป็นบุคคลที่เหมาะสมมีความสามารถ

ไม่ใช่ใช้ “โควต้า” เป็นใบเบิกทางเข้ามานั่งเก้าอี้

คนไทยหวังจะมีอนาคตหลังจากโรคโควิด-19 ผ่านพ้นไป การจะทำเช่นนั้นได้ ต้องพึ่งพาฝีมือของ ครม.

ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะนายกฯ ต้องถือโอกาสการปรับ ครม.ครั้งนี้ จัดทัพให้สอดคล้องกับสถานการณ์

ยึดภารกิจนำคนในชาติให้รุ่งโรจน์เป็นภารกิจหลัก

ไม่ใช่มุ่งแค่ภารกิจทางการเมือง

การปรับ ครม.ครั้งนี้ อย่างน้อยบุคคลที่จะเข้ามารับตำแหน่ง ควรเป็นคนที่ทำให้คนไทยมีความหวัง

คนที่นั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการคนใหม่ ต้องทำให้คนมีความหวังต่อการปฏิรูปการศึกษา

หวังว่าจะมีผลงานมากกว่าคนเก่า

คนที่นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลฯ ต้องทำให้คนมีความหวังจะได้เห็นการนำเทคโนโลยีไปพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมให้คืบหน้ากว่าเดิม

คนที่จะนั่งในตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมก็เช่นกัน

ต้องสามารถทำหน้าที่ได้ดีกว่าเดิม

รวมทั้งการปรับสลับเก้าอี้ หากมีขึ้นก็ต้องได้คนที่ทำให้ประเทศชาติมีความหวัง

จึงหวังว่า พล.อ.ประยุทธ์จะคัดเลือกรัฐมนตรีคนใหม่ที่สร้างความหวังให้คนไทยได้

ไหนๆ รัฐบาลคิดจะอยู่ครบวาระ ไหนๆ ก็วางแผนจะอยู่นาน

การปรับ ครม.ที่เสมือนการจัดทัพใหม่ ควรจะได้คนใหม่ที่เหมาะกับสถานการณ์ประเทศ

ได้รัฐมนตรีใหม่ที่น่าเชื่อว่าจะขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า

ยิ่งในสถานการณ์ที่เป็นโอกาส ประเทศไทยฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้ว

จังหวัดต่างๆ เริ่มเป็นพื้นที่สีขาว ภาคเอกชนเตรียมพร้อมฟื้นฟูเศรษฐกิจ

สถานการณ์เช่นนี้ รัฐบาลมีความสำคัญต่อความสำเร็จ

นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีทุกคน มีความสำคัญ

การปรับ ครม.ครั้งนี้ จึงสำคัญ

สำคัญเพราะเป็นความหวังที่จะขับเคลื่อนประเทศชาติ

มีความสำคัญ เพราะจะเป็นผู้นำในการกู้วิกฤต

รัฐมนตรีที่จะมาทำงานจึงต้องมีความพร้อม เป็นคนดี มีฝีมือ

การปรับ ครม. จึงต้องคัดเลือกคนดีมีฝีมือเข้ามาทำงาน

เข้ามาร่วมกันเป็น ครม.กู้วิกฤต

ไม่ใช่ ครม.ก่อวิกฤต

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image