| ผู้เขียน | สถานีคิดเลขที่ 12 |
|---|
สถานีคิดเลขที่ 12 : เมื่อการเมืองยังไม่ดี
ข่าวเศร้าเมื่อไม่กี่วันมานี้ สำหรับลูกจ้างจำนวน 1,300 คน พร้อมครอบครัว เมื่อโรงงานรับจ้างตัดเย็บเสื้อผ้าและชุดชั้นในสตรี ในนิคมอุตสาหกรรมบางพลี สมุทรปราการ ได้ประกาศปิดกิจการแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว ไม่แจ้งอะไรล่วงหน้า
เหตุผลแห่งการปิดก็คือ พิษเศรษฐกิจและสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด
สิ่งที่ตามมามี 2 ด้าน ด้านหนึ่งคือเงินชดเชยให้กับลูกจ้างกว่าพันคน ซึ่งเชื่อว่ากระทรวงแรงงานยุค นายสุชาติ ชมกลิ่น เป็นรัฐมนตรี มีความฉับไวในด้านนี้
แต่อีกด้านคือสถานการณ์เศรษฐกิจและการพังทลายของกิจการต่างๆ ตามด้วยคนตกงาน โดยก่อนหน้านี้มีอีกหลายกิจการที่เป็นเหมือนโรงงานที่เพิ่งเกิดเหตุ และถัดไปข้างหน้า ต้องเตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ได้เลย
ประการนี้ รัฐบาลต้องมีฝีไม้ลายมือมีสายตายาวไกล ในการหาทางพลิกฟื้นเศรษฐกิจในระยะข้างหน้าที่หนักหนาสาหัส
แม้แต่เรื่องวัคซีนป้องกันโควิด เป็นดังที่กล่าวกันว่าวัคซีนไม่แค่ป้องกันโรค แต่เป็นตัวฟื้นเศรษฐกิจที่สำคัญด้วย ขณะที่การบริหารจัดการวัคซีนของประเทศไทยเวลานี้ เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอื้ออึง
นอกจากนี้ ตัวชี้วัดสภาพเศรษฐกิจชีวิตความเป็นอยู่ที่เป็นรูปธรรมอีกอย่างหนึ่งก็คือ การลักวิ่งชิงปล้น เกิดขึ้นมากน้อยแค่ไหน
ย้อนไปดูตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ราว 2 เดือนเศษมานี้ มีคดีชิงทรัพย์ร้านทองเกิดขึ้นหลายคดีเลยทีเดียว
มีทั้งควงปืนชิงทรัพย์ร้านทอง ภายในห้างสรรพสินค้าที่นครราชสีมา ได้ทองไปไม่น้อย ตีเป็นเงินได้ 2 ล้านบาท ต่อมาตำรวจตามจับได้รับสารภาพว่าทำจริง เนื่องจากสถานบริการที่ตนเองทำงานอยู่ ขาดรายได้ ก็เลยต้องมาก่อเหตุกระทำผิด
ถัดมามีคนร้าย 2 คนใช้ปืนยิงขึ้นฟ้า ก่อนจี้ชิงทรัพย์ร้านทอง ที่บ้านดู่ เมืองเชียงราย ได้ทองรูปพรรณซึ่งมีมูลค่าประมาณล้านบาท
จากนั้นยังมี 2 คนร้าย บุกชิงทรัพย์ร้านทองภายในห้างสรรพสินค้า ที่บางกระสอ นนทบุรี มีการกระโดดข้ามตู้โชว์ทองอย่างคล่องแคล่ว กวาดทองไปสนุกมือ มีมูลค่าถึง 6.5 ล้านบาท เงินสดอีก 8 หมื่น ยังดีที่ตำรวจตามจับได้เร็วพร้อมทรัพย์สินของกลาง สารภาพว่ามาจากปัญหาหนี้สิน
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ก็มีเหตุถือปืนบุกเดี่ยวจี้ชิงทองกลางห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ที่บ้านโป่ง ราชบุรี ได้ทองรูปพรรณมีมูลค่าล้านกว่าบาท ต่อมาตำรวจแกะรอยตามไปล้อมจับได้ตัดสินใจยิงตัวตายในรีสอร์ตแห่งหนึ่ง
ยังมีประเภท เข้าไปขอดูทองในร้าน เลือกไปเลือกมา คว้าวิ่งหนีเอาไปได้ 2-3 เส้น ก็มีอีกเช่นกัน
สถานการณ์ด้านคดีอาชญากรรมประเภทนี้ เป็นตัวบ่งบอกสภาพเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี
มีโจร มีคนตกงานเพราะกิจการเจ๊ง เป็นตัวบ่งชี้ที่ชัดเจน
ขณะที่รัฐบาลกำลังจะปรับ ครม. ก็ว่ากันไปตามโควต้าพรรค ไม่มีอะไรที่เป็นสัญญาณว่าจะมีคนมากฝีมือเข้ามาร่วมบริหารงาน โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ
ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นความหวังการเปลี่ยนแปลงอย่างหนึ่ง ก็เกิดเงื่อนไขใหม่ล่าสุดขึ้นมาอีก เมื่อศาลรัฐธรรมนูญตีความคำร้องว่า รัฐสภามีอำนาจและหน้าที่แก้ไขรัฐธรรมนูญได้ แต่ต้องทำประชามติทั้งก่อนและหลัง
ประเด็นก็คือ การแก้รัฐธรรมนูญเป็นทางออกที่สำคัญทางหนึ่ง เพราะฉบับปัจจุบันเอื้ออำนวยให้กลุ่มคนกลุ่มหนึ่งผูกขาดอำนาจ ไม่เปิดกว้างให้คนรุ่นใหม่คนมากฝีมือเข้ามาช่วยกันฉุดประเทศชาติให้พ้นจากปากเหวโควิดได้
ถ้าการเมืองไม่ดีและยังคงไม่ดีต่อไป ก็ทำให้เศรษฐกิจชีวิตปากท้องไม่ดีไปด้วยนั่นเอง
สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน
