สถานีคิดเลขที่ 12 : เดินต่อไป-ทางไหน

สถานีคิดเลขที่ 12 : เดินต่อไป-ทางไหน ผลจากการคว่ำญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ

สถานีคิดเลขที่ 12 : เดินต่อไป-ทางไหน

ผลจากการคว่ำญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ด้วยฝีมือพรรคแกนหลักรัฐบาล และ ส.ว. ซึ่งไม่ผิดคาดแต่อย่างใด เพียงแต่เป็นการตอกย้ำให้สังคมเห็นได้ชัดเจนว่า เป็นความพยายามอย่างถึงที่สุดที่จะยื้อรัฐธรรมนูญฉบับนี้ให้คงอยู่ต่อไปได้นานที่สุด

ทั้งที่เป็นรัฐธรรมนูญ ฉบับที่สร้างกลไกยอกย้อน ไม่ตรงไปตรงมา ไม่เคารพเสียงประชาชนอย่างแท้จริง และไม่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง

น่าแปลก ที่ชอบอวดอ้างกันว่า ประชาชนให้ความนิยมรัฐบาลชุดนี้มาก แต่ขัดแย้งกับพฤติกรรมที่ไม่ยอมให้แก้รัฐธรรมนูญ ต้องการดำรงอำนาจของ 250 ส.ว.ที่มาจากการแต่งตั้ง ให้สามารถชี้ขาดการโหวตนายกฯและการตั้งรัฐบาล

Advertisement

ถ้ามั่นใจว่าประชาชนรัก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างกว้างขวางจริง ก็ควรสนับสนุนการแก้รัฐธรรมนูญ สร้างกติกาที่โปร่งใส ให้การกำหนดตัวนายกฯ ให้เป็นผลจากการเลือกตั้งโดยประชาชนจริงๆ

สมัยหน้า พล.อ.ประยุทธ์ จะได้คุยเต็มปากเต็มคำว่า มาจากการเลือกตั้งโดยประชาชน ไม่มีเสียง 250 ส.ว.มาร่วมกำหนด

แต่การยื้อเช่นนี้ น่าจะส่งผลอย่างแน่นอน ให้การผลักดันแก้รัฐธรรมนูญที่เริ่มนับหนึ่งกันใหม่ ต้องใช้เวลาอีกยาวนาน ไม่ทันการเลือกตั้งครั้งต่อไป

Advertisement

แสดงว่า ยังมีเป้าหมายให้การเลือกตั้งครั้งต่อไปอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับเหลื่อมล้ำนี้และยังใช้สูตรเดิมๆ คือ ประชาชนไปเลือกตั้งกันเสร็จ ก็ให้ 250 ส.ว.มาร่วมกำหนดตัวนายกฯดังเดิม

ก็อยู่กันไปอย่างนี้ แรงต่อต้านรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากเสียงประชาชนอย่างแท้จริง ก็ยังคงอยู่ต่อไป บ้านเมืองก็อยู่ในวังวนร้อนรุ่มต่อไป

ขณะเดียวกัน ในเมื่อเห็นกันว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้คือต้นตอปัญหาความขัดแย้งแห่งยุคสมัย ก็ต้องหาทางแก้ไขกันให้ได้

ดังนั้น ถ้าจับจุดจากเรื่องรัฐธรรมนูญ มองแล้วมีแนวโน้มหลายทาง

ทางหนึ่งก็คือ สภาผู้แทนฯโดยพรรคการเมืองฝ่ายค้านต้องลงแรงแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อ โดยทวงสัญญาจากพรรคร่วมรัฐบาล 2-3 พรรค ที่อ้างกับประชาชนไว้

แต่อีกทางหนึ่ง เมื่อมีแนวโน้มว่า การแก้รัฐธรรมนูญต้องใช้เวลา น่าจะไม่ทันการเลือกตั้งสมัยหน้า ดังนั้นประชาชนที่เห็นด้วยว่า บ้านเมืองต้องพัฒนาไปสู่ประชาธิปไตยที่เสรี ก็ต้องร่วมกันเลือกพรรคการเมืองที่ไม่เอาด้วยกับอำนาจ 250 ส.ว.

เอา ส.ส.ฝ่ายแนวทางประชาธิปไตยให้เข้าสภาได้มากกว่าสมัยที่ผ่านมา เพื่อจะได้จัดตั้งรัฐบาลโดยเอาชนะเสียง 250 ส.ว.ได้

รวมไปถึงในตอนจัดตั้งรัฐบาล ประชาชนต้องกดดันพรรคการเมืองที่ร่วมรัฐบาลในขณะนี้ ให้เห็นแก่หลักประชาธิปไตย ต้องผนึก ส.ส.เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เพื่อเอาชนะอำนาจโหวตนายกฯ 250 ส.ว.ให้ได้

ทำให้เสียงฝ่าย ส.ส.อยู่เหนือเสียง 250 ส.ว. แม้อำนาจโหวตนายกฯจากสภาแต่งตั้งยังอยู่ ก็ไม่อาจทำอะไรได้

เป็นหนทางที่จะต้องเดินกันต่อไป ถ้าอยากให้การเมืองดี มีประชาธิปไตยแท้จริง เพื่อให้เศรษฐกิจดี สังคมดี ชีวิตความเป็นอยู่ดีตามไปด้วย

นี่คือการเดินหน้าต่อไป บนหนทางสันติวิธีที่ดีที่สุด

แม้จะมีหลายเสียงเริ่มพูดกันว่า พฤติกรรมในการคว่ำญัตติแก้รัฐธรรมนูญ เหมือนเป็นการโยนฟืนเข้ากองไฟ

เสมือนผลักให้ประชาชนคนรุ่นใหม่ลงไปสู่ท้องถนน มากกว่าจะให้เดินไปอย่างสันติในสภา

สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image