บทนำ : ปรับท่าที

บทนำ : ปรับท่าที มีการเผยแพร่ข้อมูลในโซเชียลมีเดียและเว็บไซต์ต่างๆ

บทนำ : ปรับท่าที

มีการเผยแพร่ข้อมูลในโซเชียลมีเดียและเว็บไซต์ต่างๆ ว่าทางราชการไทยผลักดันผู้อพยพจากพม่ากลับประเทศ หลังจากเกิดการสู้รบระหว่างกองทัพพม่ากับกองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง หรือเคเอ็นยูที่ร่วมคัดค้านการยึดอำนาจของทหารพม่า บริเวณแนวชายแดนไทย ฝั่งตรงข้าม อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ทางเคเอ็นยูได้เข้าโจมตีฐานทหารพม่า และกองทัพพม่าใช้เครื่องบินทิ้งระเบิด ทำให้ประชาชนบาดเจ็บและเสียชีวิต ประชาชนรัฐกะเหรี่ยงอยู่ในอาการหวาดกลัวอันตราย ได้อพยพมาพักที่ อ.แม่สะเรียง การผลักดันดังกล่าว เป็นภาพด้านลบและถูกวิจารณ์ในเรื่องของมนุษยธรรม

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ได้ประสานกับฝ่ายความมั่นคงที่เตรียมรับสถานการณ์อยู่ในขณะนี้แล้ว โดยต้องช่วยเหลือขั้นต้นตามความเหมาะสม หลักใหญ่คือถ้าอยู่บริเวณชายแดนเมียนมาได้ก็ให้อยู่ตรงนั้นก่อน แต่หากมีเหตุที่ต้องดูแลตามหลักสิทธิมนุษยชนก็ดำเนินตามหลัก โดยจะมีองค์กรระหว่างประเทศเข้ามาช่วยดูแล ส่วนจังหวัดอื่นที่มีชายแดนติดกับเมียนมา ทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งการไปแล้วให้กองกำลังตามแนวชายแดนดูแลอยู่

การยึดอำนาจของกองทัพพม่าจากรัฐบาลที่ประชาชนให้การสนับสนุนอย่างกว้างขวาง เมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา เป็นการนำประเทศกลับสู่ยุคเผด็จการภายใต้กองทัพ ทำให้ประชาชนพม่าลุกฮือขึ้นต่อต้านทั่วประเทศทันทีและต่อเนื่องมาจนปัจจุบัน ทหารพม่าใช้อาวุธเข้าปราบปราม ขณะที่ฝ่ายประชาชนยิ่งพากันออกมาต่อต้าน มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 500 ราย เป็นโศกนาฏกรรมที่ทั่วโลกกำลังจับตา ส่วนประเทศไทยอ้างหลักไม่แทรกแซงกิจการภายใน แต่ยังมีการพบปะระหว่างบุคคลในรัฐบาลทหารพม่ากับผู้นำไทยและมีการส่งเสบียงข้าวสารอาหารให้ทหารพม่า ผู้เชี่ยวชาญด้านกิจการต่างประเทศระบุว่าการฆ่าฟันประชาชน ควรถูกนานาชาติต่อต้าน และเกินเวลาที่จะอ้างหลักไม่แทรกแซงกิจการภายในแล้ว สถานการณ์ขณะนี้ มาถึงจุดที่รัฐบาลไทยควรปรับท่าทีให้ทันกับสถานการณ์ และกระแสความเห็นของนานาชาติ เพื่อร่วมกดดันพม่าให้กลับสู่แนวทางที่ถูกต้อง

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image