บทนำ : แก้ทั้งฉบับ
พรรคพลังประชารัฐ ยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมแบบรายมาตรา ต่อ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาไปแล้ว เสนอแก้ทั้งหมด 5 ประเด็น13 มาตรา พร้อมบันทึกหลักการและเหตุผล สาระหลัก เป็นการแก้มาตรา 94 ให้การเลือกตั้ง ส.ส.เป็นแบบบัตรสองใบ ส.ส.แบบแบ่งเขต 400 คน ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน ตามรัฐธรรมนูญ 2540 ไม่เกี่ยวข้องกับสิทธิเสรีภาพของประชาชน หรือการพัฒนาประชาธิปไตย หรือเรื่องที่สังคมเรียกร้อง อาทิ การตัดอำนาจ ส.ว.ในการกำหนดตัวนายกรัฐมนตรี สะท้อนจุดยืนพรรคที่ไม่อยากแตะต้องรัฐธรรมนูญฉบับนี้ชัดเจน
ส่วน 3 พรรครัฐบาล ที่มีจุดยืนเรื่องรัฐธรรมนูญมาแต่ต้น ประกอบด้วย ประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย ชาติไทยพัฒนา เตรียมเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 6 ฉบับ ประกอบด้วย การขยายเรื่องสิทธิเสรีภาพ, การกระจายอำนาจ, การตรวจสอบการทุจริต, ขั้นตอนการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามมาตรา 256 การตัดอำนาจ ส.ว. เปลี่ยนให้อำนาจ ส.ส.เลือกนายกรัฐมนตรี ตามประเพณีการเมืองเดิม แก้ไขระบบเลือกตั้งจากเลือกตั้งใบเดียวเป็นบัตร 2 ใบ ขณะที่พรรคฝ่ายค้านนำโดยพรรคเพื่อไทย จับมือ 5 พรรค รื้อหน้าที่และอำนาจของ ส.ว. ปรับเปลี่ยนระบบเลือกตั้ง บทบาทหน้าที่ขององค์กรอิสระ
ที่น่าจับตาได้แก่ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) เสนอให้ทำประชามติ ยกเลิกรัฐธรรมนูญปี 2560 แล้วจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยตั้ง ส.ส.ร.ที่มาจากการเลือกตั้ง เลขาธิการพรรคก้าวไกลระบุว่า ที่ผ่านมาพรรคร่วมรัฐบาล และ ส.ว.ได้ล้มการตั้งส.ส.ร.โดยอ้างว่าต้องถามประชาชนก่อน แต่หลังจากล้มวาระ 3 ไปแล้ว กลับไม่พูดถึงเรื่องประชามติเลย พูดแต่เรื่องจะแก้ไขเพิ่มเติมรายมาตราเท่านั้น พรรคพลังประชารัฐ ก็เสนอเพียงมาตราที่ พปชร.ได้ประโยชน์ และเป็นเพียงการปะผุรัฐธรรมนูญ ในนัยยะที่เพื่อประโยชน์ฝั่งรัฐบาล โดยการแก้ไขรายมาตรานั้นก็สามารถทำคู่ขนานกันไปได้ ซึ่งข้อเสนอของพรรค ก.ก.คือแก้ไขในประเด็นหลักที่เป็นหัวใจในการสืบทอดอำนาจ เช่น ปิดสวิตช์ ส.ว. โดยข้อเสนอนี้น่าจะเป็นข้อเสนอที่ได้รับการยอมรับมากขึ้น
การแก้ไขรัฐธรรมนูญแบบยกร่างใหม่ ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะจะมีอุปสรรคจากการใช้กฎหมายสกัดโดยเครือข่ายของรัฐบาลแน่นอน แต่เป็นเรื่องที่จะต้องทำ เพราะหลายพรรคได้หาเสียงกับประชาชนเอาไว้และนับวันยิ่งชัดเจนว่ารัฐธรรมนูญนี้เป็นประโยชน์กับบุคคลบางกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำรัฐธรรมนูญปัจจุบันขึ้นมา พรรคการเมืองจะต้องหาหนทางร่วมมือกับประชาชน รณรงค์ให้มีการยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่เพื่อเปลี่ยนผ่านการเมืองให้พ้นจากวังวนขณะนี้ให้ได้
