สถานีคิดเลขที่ 12 : วัดฝีมือที่วัคซีน

สถานีคิดเลขที่ 12 : วัดฝีมือที่วัคซีน แม้ว่าโรคระบาดโควิดทำให้ชาวโลก

สถานีคิดเลขที่ 12 : วัดฝีมือที่วัคซีน

แม้ว่าโรคระบาดโควิดทำให้ชาวโลกประสบชะตากรรมคล้ายๆ กัน จนเหมือนว่าช่วงแรกโรคนี้จะทำให้เกิดความเท่าเทียมกันไปทั่ว

แต่ต่อมาสถานการณ์บ่งบอกว่าไม่ใช่เลย นอกจากโควิดอาจสำแดงให้เห็นความเหลื่อมล้ำในโลกแล้ว ยังอาจตอกย้ำว่าถึงเราอยู่ในโลกเดียวกัน ก็อาจเหมือนอยู่กันคนละโลกก็ได้

ช่วงแรกที่โรคระบาด คนฝั่งตะวันตกจำนวนมากต่อต้าน แต่ต้านในแบบที่ฝืนใช้ชีวิตแบบเดิม คือไม่สวมหน้ากาก รวมกลุ่มปาร์ตี้เหมือนเดิม ไม่ค่อยจะใส่ใจการล้างมือ ไม่ถอดรองเท้าก่อนเข้าบ้าน ฯลฯ

Advertisement

กระทั่งเชื้อโรคแพร่ลาม และคร่าชีวิตผู้คนจำนวนมาก ครึ่งล้านที่อเมริกา และหลายแสนในยุโรป ระบบสาธารณสุขปั่นป่วน ความกลัวโรคระบาดและความรู้สึกต้องรับผิดชอบต่อสังคมจึงเพิ่มขึ้นมา

แต่วิธีที่ชาติตะวันตกคิดใช้แก้ปัญหามากที่สุด ไม่ใช่ล็อกดาวน์ แต่เป็นการฉีดวัคซีน เพราะรู้ว่าการล็อกดาวน์ บังคับคนให้เปลี่ยนวิถีชีวิตทำได้ยากมาก ถึงฝืนทำก็จะไม่ได้นาน เพราะเศรษฐกิจจะพังหมด

ฝรั่งจึงคำนวณว่าฉีดวัคซีนได้มากเท่าไหร่ การแพร่ระบาดจะชะลอลง อาการป่วยจะลดลง หรือแทบไม่แสดงอาการเลย ระบบสาธารณสุขไม่ต้องแบกภาระเกินตัว

Advertisement

ส่วนเชื้อที่กลายพันธุ์อยู่ตลอด จะค่อยๆ ลดฤทธิ์เดชลง จนมาถึงจุดที่สังคมจะเดินต่อไปอย่างปกติได้ คือใช้ความระมัดระวังบ้าง และผ่อนคลายความวิตกลงบ้าง

เมื่อมาถึงจุดที่นานาประเทศรู้ว่า วัคซีนคืออาวุธสำคัญที่จะสู้กับโควิด จุดนี้จึงเป็นโจทย์ใหม่สำหรับ “วัดฝีมือ” รัฐบาลแต่ละประเทศ

จากเดิมที่เคยวัดกันว่า รัฐบาลแต่ละประเทศจะตรึงให้ประชาชนอยู่ในกฎเกณฑ์ควบคุมโควิดได้เพียงใด

เปลี่ยนมาเป็นรัฐบาลรู้จักวิธีบริหารจัดการให้ประชาชนฉีดวัคซีนกันอย่างไร

ช่วงที่สถานการณ์เปลี่ยนและโจทย์เปลี่ยน ไทยแลนด์เข้าสู่โหมดการระบาดระลอกใหม่พอดี

วิธีรับมือยังคงยึดอยู่กับความพยายามควบคุมเชื้อให้ได้ก่อน เพราะวัคซีนที่ได้มายังมีน้อยมาก และฉีดไปแล้วน้อยมาก ยังไม่ถึง 1% ของประชากร

หันไปดูอินเดีย ประเทศที่มีประชากรพันล้าน ช่วงนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ทุบสถิติเป็นว่าเล่นหรือเกินวันละเกินแสน แต่ขณะเดียวกัน อินเดียเพิ่งทำสถิติฉีดวัคซีนให้ประชาชนเกิน 100 ล้านโดส ภายในเวลา 85 วัน แซงหน้าสหรัฐอเมริกาที่ใช้เวลา 89 วัน และจีนใช้เวลา 102 วัน ในปริมาณเดียวกัน

ส่วนสหราชอาณาจักร ที่เคยบอบช้ำจากโควิด ด้วยยอดผู้ติดเชื้อ 4.3 ล้านคน และยอดผู้เสียชีวิต 1.27 แสนราย สูงมากเป็นอันดับต้นๆ ของยุโรป ตอนนี้เริ่มตั้งตัวได้แล้ว หลังจากฉีดวัคซีนไปครึ่งประเทศ 32 ล้านคนเข็มแรก ในจำนวนนี้ 7.5 ล้านคนฉีดครบเข็มที่สอง

ตอนนี้อังกฤษกลับมาเปิดผับได้แล้ว ซึ่งการเข้าผับได้ถือว่าเป็นมาตรการผ่อนคลายอย่างชัดเจน

จากนี้ไปอังกฤษจะร่วมเป็นเจ้าภาพจัดมหกรรมยูโร 2020 กับชาติอื่นๆ ของยุโรป และจะเปิดสนามเวมบลีย์ให้คนเข้าไปเชียร์ได้

ความมั่นใจและการตั้งหลักฟื้นฟูนี้มาจากการฉีดวัคซีนอย่างกว้างขวาง พร้อมกับการรณรงค์ให้ใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังเชื้อโรคขึ้นอีกหน่อย

ส่วนไทยแลนด์คงต้องไว้คุยกันทีหลัง เพราะรัฐบาลสั่งให้ราชการเวิร์กฟรอมโฮมไปก่อนจนถึงปลายเดือนเมษายน

ชุมฉันท์ ชำนิประศาสน์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image