สถานีคิดเลขที่ 12 : สูตรโบราณ

สถานีคิดเลขที่ 12 : สูตรโบราณ ในยุคที่ม็อบการเมืองออกมาเคลื่อนไหวอย่างคึกคัก

สถานีคิดเลขที่ 12 : สูตรโบราณ

ในยุคที่ม็อบการเมืองออกมาเคลื่อนไหวอย่างคึกคัก กลายเป็นเรื่องขาดไม่ได้ ต้องมีม็อบฝ่ายขวาแนวบู๊ ออกมาตอบโต้ต่อต้านฝ่ายนักเรียนนักศึกษา เป็นสูตรสำเร็จที่ใช้กันมาตั้งแต่หลัง 14 ตุลาคม 2516 จนถึงปี พ.ศ.ปัจจุบัน

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา มีกลุ่มมวลชนฝ่ายขวา ภายใต้ชื่อดุดันว่า เป็นกลุ่มนักรบ เป็นหน่วยปฏิบัติการพิเศษ มีรูปว่อนในโซเชียล ใส่เสื้อติดสัญลักษณ์ “กอ.รมน.” ด้วย

ทำเอา กอ.รมน.หรือกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ต้องออกมาชี้แจงว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มมวลชนดังกล่าว ถือเป็นการนำเอาตราของ กอ.รมน.ไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

Advertisement

ก็เป็นเรื่องดีที่หน่วยราชการออกมาชี้แจงให้ชัดเจน รวมทั้งควรจะต้องติดตามดำเนินการทางด้านกฎหมายอย่างจริงจัง

เมื่อปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับมวลชนกลุ่มนี้ ควรทำให้เห็นในทางปฏิบัติด้วย

ไม่เช่นนั้นแล้วจะกลายเป็นเรื่องซ้ำรอยประวัติศาสตร์ เพราะในอดีตองค์กร กอ.รมน.นี่แหละ มีส่วนจัดตั้งมวลชนแนวดุดันเอียงขวา ออกมาเคลื่อนไหวด้วยการใช้ความรุนแรงกระทำต่อมวลชนอีกฝ่าย

Advertisement

โดยหลังเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 ซึ่งขบวนการนักเรียนนักศึกษา ที่สามารถขับไล่รัฐบาลทหารถนอม-ประภาสได้สำเร็จ ได้กลายเป็นองค์กรฝ่ายประชาธิปไตยที่มีบทบาทอย่างสูง เคลื่อนไหวในปัญหาความไม่เป็นธรรมและปัญหาทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง

ฝ่ายรัฐ โดย กอ.รมน. ซึ่งขณะนั้นมี พล.ต.สุตสาย หัสดิน เป็นผู้มีบทบาทสำคัญ ดำเนินการดึงนักเรียนอาชีวะ มาจัดตั้งเป็นกลุ่มกระทิงแดง ออกมาเคลื่อนไหวปะทะกับศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย

เน้นปะทะจริงๆ ทั้งใช้กำลังต่อยตี ไปจนถึงปืน ระเบิด และลอยนวลทุกครั้ง ไม่เคยถูกจับกุมดำเนินคดี

วิธีการของ กอ.รมน.ในการตั้งกลุ่มมวลชนสายบู๊ดังกล่าว ยุคนั้นทำอย่างเปิดเผย พล.ต.สุตสายออกมาให้สัมภาษณ์อธิบายเหตุผลที่ต้องทำอย่างชัดเจน

จนเมื่อผ่านพ้นยุคศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแล้ว แกนนำกลุ่มกระทิงแดงที่จบสิ้นภารกิจ เช่น นายเฉลิมชัย มัจฉากล่ำ ก็ได้เข้ารับราชการเป็นนายทหารอย่างเต็มตัว จนต่อมาโด่งดังอย่างมาก ในนาม พ.ต.เฉลิมชัย หรือ ผู้พันตึ๋ง หนึ่งในนายทหารมาเฟีย จนถูกดำเนินคดีอาชญากรรมร้ายแรงหลายหน

กอ.รมน.เป็นองค์กรของกองทัพที่ทำงานด้านมวลชน ภารกิจสำคัญก็คือ รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เห็นเป้าหมายภารกิจก็ชัดเจนว่า เน้นไปยังคนในราชอาณาจักรนี่แหละ ที่มองเห็นว่าเป็นภัยต่อความมั่นคง

ปัญหาก็คือ คนในราชอาณาจักรที่ถูกมองว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาตินั้น มักเป็นผู้คิดต่างทางการเมือง เป็นผู้เรียกร้องสิทธิเสรีภาพและประชาธิปไตย ให้อำนาจการเมืองเป็นของประชาชน

ยุคนี้เป็นการฟื้นตัวของขบวนการนักเรียนนักศึกษา แล้วก็เกิดมวลชนฝ่ายขวาแนวดุเดือดกลับมาอีกเช่นกัน สูตรดั้งเดิมจริงๆ จนกระทั่งเกิดกลุ่มนักรบ ติดอาร์ม กอ.รมน. ออกมาเคลื่อนไหว

เมื่อ กอ.รมน.ปฏิเสธว่าไม่เกี่ยว ก็ค้องทำให้เห็นเป็นรูปธรรมด้วยว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกันจริงๆ

เพราะเคยมีข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ปรากฏมาแล้ว แถมจะกลายเป็นการตอกย้ำว่า ฝ่ายรัฐนั้นความคิดยังโบราณเหมือนเดิม

มองคนคิดต่างเป็นศัตรู เป็นภัยต่อความมั่นคงในราชอาณาจักร

สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image