สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกที่ 3 ที่อยู่ในภาวะวิกฤต กว่าการระบาดรอบที่ผ่านมา
สร้างความวิตกกังวล และความไม่มั่นใจแก่ประชาชนว่ารัฐบาลจะควบคุมสถานการณ์ได้หรือไม่
เพราะยอดผู้ติดเชื้อรายวันพุ่งเกินกว่าพันคน ทำให้คนติดเชื้อเกิน 5 หมื่นคน (ข้อมูล 24 เมษายน) มีผู้เสียชีวิต 129 คน
คนติดเชื้อจำนวนมากที่อาการไม่หนัก ต้องกักตัว รักษาตัวเองอยู่ที่บ้าน ระหว่างรอเตียงในโรงพยาบาลว่าง
หลายกรณีไม่ได้รับการรักษาที่ทันท่วงทีเป็นเหตุให้เสียชีวิต กลายเป็นภาพที่สะเทือนใจอย่างยิ่ง
และไม่คิดว่าเราจะมาถึงจุดนี้ เฉกเช่นในหลายประเทศที่มีผู้ป่วยล้นโรงพยาบาล
การออกมาแถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ (ทรท.) ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ถึงแผนบริหารสถานการณ์โควิด-19 การจัดหาวัคซีน และความพร้อมการดูแลรักษาผู้ป่วย
ช่วงค่ำวันที่ 23 เมษายน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชน
โดยตอกย้ำให้คำมั่นสัญญาว่า “จะทำทุกทางเพื่อให้ผ่านวิกฤตในระลอกนี้ไปให้ได้ พวกเราทุกคนจะสู้ไปด้วยกันอีกครั้ง และเชื่อมั่นว่า ด้วยศักยภาพของเราทุกคนประเทศไทยจะต้องเอาชนะโรคร้ายในครั้งนี้-ได้อย่างแน่นอน”
ส่วนตัวมองว่าถ้อยแถลงที่ออกมาคงไม่สามารถสร้างความมั่นใจได้ หากปัญหาต่างๆ ยังไม่คลี่คลาย
ประเด็นแรก การจัดการเรื่องของเตียงที่รองรับผู้ป่วย ที่ผ่านรัฐบาลออกมายืนยันอยู่เสมอว่าสามารถบริหารจัดการได้ มีเตียงเพียงพออย่างแน่นอน ไม่ต้องกังวล แต่การแพร่ระบาดรอบนี้ที่ผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจำนวนมาก จึงเกินศักยภาพของโรงพยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ที่ทุ่มเททำงานกันอย่างเต็มที่
เหล่านี้สะท้อนถึงการประเมินสถานการณ์ที่ผิดพลาดของรัฐบาล
ประเด็นที่สอง การบริหารจัดการวัคซีนโควิด-19 ที่ยังล่าช้าส่งผลให้ตัวเลขการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชน ในภาพรวมยังอยู่ในจำนวนที่ต่ำ
จากข้อมูลวันที่ 24 เมษายน มียอดฉีดวัคซีนสะสม เพียง 1,095,445 คน ในจำนวนนี้ฉีดเข็มที่สอง 1 แสนกว่าคนเท่านั้น เทียบตัวเลขกับประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนแล้วอยู่ในกลุ่มท้ายๆ ที่มีสัดส่วนการฉีดวัคซีนที่ต่ำ
แม้ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์จะออกมายืนยันว่ารัฐบาลได้เร่งจัดหาวัคซีนเพิ่มเติม โดยตั้งเป้าหมายว่าจะต้องจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมให้ครบ 100 ล้านโดส เพื่อฉีดให้กับประชาชน 50 ล้านคน ภายในสิ้นปี 64
แต่ก็น่าห่วงว่าจะมีการบริหารจัดการฉีดวัคซีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทันกับสถานการณ์แพร่ระบาดหรือไม่
ทั้งสองเรื่องเป็นสิ่งที่รัฐบาลจะต้องเร่งเข้ามาแก้ปัญหา ปรับการบริหารจัดการ
ในขณะที่ประชาชนก็ต้องร่วมแรงร่วมใจ ร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัด
เพื่อให้ผ่านวิกฤตโควิดคราวนี้ไปด้วยกัน