ผู้นำกับการนินทา

ผู้นำกับการนินทา

ผู้นำกับการนินทา

การมีชีวิตของมนุษย์หรือคนในโลกนี้ ระบบการสื่อสารเพื่อให้มีความเข้าใจตรงกันเพื่อกระทำหน้าที่ภารกิจให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดีมีทั้งการใช้ภาษาในลักษณะต่างๆ ทั้งการพูด เขียน รวมถึงการใช้อวัจนภาษาก็คือ การสื่อสารโดยมิต้องใช้ถ้อยคำทั้งพูด เขียนแต่สื่อสารกันด้วยกิริยาท่าทาง น้ำเสียง สายตา ที่สามารถรับรู้ แปลความหมายกันได้และสามารถทำความเข้าใจต่อกันได้ ระบบการสื่อสารของผู้คนในยุคปัจจุบันมีความย้อนแย้งต่อวิถีชีวิตท่ามกลางสังคมโลกที่เปลี่ยนไป

การให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 28 เมษายน พ.ศ.2564 ที่ทำเนียบรัฐบาลถึงกรณีการทำความเข้าใจกับทางพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กับการไม่พอใจคำสั่งนายกฯที่ 85/2557 เรื่องการมอบหมายให้รัฐมนตรีรับผิดชอบ แนวคิดการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน ในระดับพื้นที่จังหวัดที่ถูกมองว่าเป็นการยกพื้นที่ของภาคใต้ให้กับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โดยขอยืนยันว่ายังไม่มีการเปลี่ยนแปลงคำสั่งใดๆ ยังคงเป็นคำสั่งเดิม ไม่ใช่เวลาการเมืองเป็นเวลาของการทำงาน ไม่ได้มุ่งหมายจะให้พรรคใครได้ประโยชน์

และในที่ประชุม ครม.ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยได้กล่าวถึงตนเองถูก กทม.และตำรวจปรับ 6,000 บาท จากการไม่สวมหน้ากากอนามัยรวมถึงการกล่าวที่ว่า “รัฐมนตรีบางคนพูดจาไม่ดีและนินทาผมในที่ประชุมบางวง ให้ระวังตัวไว้ด้วย ผมเป็นคนตัดสินใจเลือกเข้ามาทำงาน จะชอบหรือไม่ชอบผม อย่านินทาให้ผมได้ยิน ถ้าผมได้ยินอีก ผมจำเป็นต้องปรับออก จะรับโควต้านั้นมาเป็นของผมเอง ผมมีทีมงานคอยดูเฟซบุ๊กทุกท่าน ผมไม่วางใจและไม่สบายใจ ใครก็ตามที่สร้างความขัดแย้ง เกลียดชัง ทุจริต ถ้ามีปัญหาผมจะพิจารณาเอาออก” การพูดของนายกรัฐมนตรีดังกล่าว ทำให้รัฐมนตรีที่เข้าร่วมประชุมต่างนิ่งเงียบ เพราะเป็นท่าทีที่รุนแรงและไม่มีใครแสดงความคิดเห็น…(matichon.co.th)

Advertisement

ข้อเท็จจริงหนึ่งในชีวิตของนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตั้งแต่มีชีวิตลมหายใจมาจวบจนถึงปัจจุบัน การพูดถึงในทางไม่ดี กล่าวร้าย ให้ร้าย อิจฉาริษยา ด่าทอรวมทั้งการนินทาในครั้งนี้คงจักมิใช่ครั้งแรกของชีวิต เหตุใดที่การใช้ภาษาของนักการเมืองบางคนที่ผู้นำของประเทศได้ยินได้ฟังมาจึงรู้สึกได้ถึงภาวะแห่งความขัดแย้ง มิพอใจ ขัดใจ ซึ่งส่งผลต่อการให้สัมภาษณ์ทั้งภาษาและท่าทาง เหตุหนึ่งอาจจักเนื่องด้วยระบบการเมืองของไทยเรายังคงมีความไม่แน่นอน ไม่นิ่ง สั่นคลอนทั้งตำแหน่งผู้นำ พรรคการเมือง ทั้งการจัดม็อบประท้วงของฝ่ายตรงกันข้ามและบรรดานักการเมืองซีกฝ่ายค้าน รวมถึงปัญหาของการระบาดครั้งใหญ่ของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ถูกตั้งคำถามถึงความเพียงพอของวัคซีนให้กับคนในชาติ…

บทกลอนของสุนทรภู่ในเรื่องพระอภัยมณี ตอนพระฤาษีสอนสุดสาครตอนหนึ่งที่ว่า “อันนินทากาเลเหมือนเทน้ำ ไม่ชอกช้ำเหมือนเอามีดมากรีดหิน แม้องค์พระปฏิมายังราคิน คนเดินดินหรือจะสิ้นคนนินทา…” หากเราท่านได้ผ่านการศึกษาเล่าเรียนวิชาภาษาไทยในช่วงประถมหรือมัธยมศึกษา ก็จักคุ้นเคยกับบทกลอนดังกล่าวเป็นอย่างดี ผู้เขียนรวมทั้งท่านผู้อ่านหลายท่านก็เข้าใจว่าชีวิตของนายกรัฐมนตรีก็คงจะคุ้นกับบทกลอนดังกล่าวเช่นกัน

การนินทาหรือพูดถึงกล่าวถึงบุคคลในระดับผู้นำองค์กร หน่วยงานต่างๆ รวมทั้งนายกรัฐมนตรี หากเราท่านได้พิจารณาถึงหลักการของศาสนาโดยเฉพาะศาสนาพุทธมีหลักธรรมะอยู่ในโลกธรรมแปดก็คือ ได้ลาภ-เสื่อมลาภ มียศ-เสื่อมยศ สรรเสริญ-นินทา ทุกข์-สุข เป็นสิ่งที่อยู่คู่กับโลกมนุษย์มาตั้งแต่ครั้งอดีต รวมถึงพุทธสุภาษิตที่ได้กล่าวถึง “นตฺถิ โลเก อนินทิโต : การไม่ถูกนินทา ย่อมไม่มีในโลก” การนินทาในความหมายหนึ่งก็คือ การพูดลับหลัง ซุบซิบ การพูดให้ร้าย ให้ได้รับความอับอาย เสียชื่อ เสียเกียรติ เสียความเคารพนับถือ การลอบกัด การสดุดี การยกย่อง การสรรเสริญ หลักการของศาสนาหนึ่งก็คือ ผู้นินทาก็คือผู้ที่กระทำกรรมในสิ่งที่ไม่ดีไม่งาม…

Advertisement

การนินทาอาจจักกล่าวว่าเป็นวาทกรรมหนึ่งของผู้คนในสังคมทุกยุคสมัย ที่สะท้อนสิ่งดังกล่าวผ่านบทการแสดงในหลากหลายบริบททั้งการมีชีวิตอยู่ในชีวิตประจำวัน ประเพณีวัฒนธรรม ความเชื่อทั้งผี พุทธ พราหมณ์ พระเจ้า ละครเวที การแสดงที่ส่งผลต่อดนตรี กีฬา ศาสนาและการเมืองรวมถึงบริบทอื่นๆ ที่วาทกรรมดังกล่าวถูกนำไปใช้ทั้งบุคคล เวลา และสถานการณ์ ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก็เสมือนแสงไฟแห่งสปอตไลต์ ที่จะสาดส่องไปในมุมมองต่างๆ ภาวะแห่งความเป็นผู้นำข้อเท็จจริงหนึ่งก็คือความแข็งแกร่งทั้งร่ายกาย จิตใจ อารมณ์ วุฒิภาวะแห่งความเป็นผู้นำ ความมั่นคงในอารมณ์ที่เสมอต้นเสมอปลาย

วันเวลานี้ผู้คนพลเมืองในชาติบ้านเมืองไทยเรา รวมทั้งเพื่อนบ้านที่เป็นผู้อพยพในจำนวนหลายล้านคนรอบๆ บ้านเราที่เข้ามาอาศัยผืนแผ่นดินไทยได้มีลมหายใจ อยู่กินหลับนอนที่มีความสุขในระดับหนึ่งจากแผ่นดินต่างๆ ทั่วโลก ประชาชนไทยส่วนใหญ่ได้รับความเดือดร้อนทั้งปัญหาเศรษฐกิจ สังคม ชีวิตความเป็นอยู่การทำมาหากิน อยู่ใช้สอย มิอาจจักรวมถึงการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้การทำมาค้าขายต้องซบเซา การค้าขายบางกิจการต้องปิดกิจการไปอย่างไม่รู้วันเวลาที่จะกลับมา ผู้คนที่เป็นเสาหลักของครอบครัวต้องตกงาน ปัญหาสุขภาพจิต อาชญากรรม การพนัน สิ่งเสพติด เด็กแว้น หนี้สินนอกระบบ รวมถึงปัญหาอื่นๆ ประชาชนในชาติคาดหวังว่าผู้นำของเขาจักช่วยเยียวยา ชุบชีวิตที่เขาเหล่านั้นได้ออกไปใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งในวันเวลาที่ผ่านมา…

การที่นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึง “รัฐมนตรีบางคนพูดจาไม่ดีและนินทาผม…” อาจจักเป็นวาทกรรมหนึ่งที่เสมือนกับผู้ที่มีอำนาจจักใช้อำนาจต่อผู้ใต้บังคับบัญชาหรือเพื่อนร่วมงานที่ร่วมชี้เป็นชี้ตายในอนาคตของประเทศชาติ อาจจะนำมาซึ่งคุณและโทษต่อผู้ที่ถูกใช้วาจาดังกล่าว ข้อเท็จจริงหนึ่งของการนินทา นายกรัฐมนตรีทั้งเมืองไทยเราและในหลายๆ ประเทศ สำหรับสังคมไทยเราคงจักมิใช่เฉพาะผู้ที่ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพียงผู้เดียวเท่านั้น จำนวนนายกรัฐมนตรีของไทยเราทุกท่านล้วนแล้วแต่ผ่านการนินทาตั้งแต่ในระดับชาวบ้าน ผู้นำท้องถิ่น ข้าราชการประจำ ข้าราชการการเมือง นักบวชในศาสนา อาจจักรวมถึงญาติพี่น้องและเพื่อนอันเป็นที่รักนินทารวมอยู่ด้วยก็ได้

หลักการหนึ่งของศาสนาและหลักแห่งธรรมชาติก็คือ การนินทาจะเกิดขึ้นได้ระหว่างบุคคลสองฝ่าย หรือฝ่ายที่สามที่มีการพาดพิงบุคคลที่ต้องการกล่าวถึง หากการนินทานั้นเป็นจริงผู้ที่ถูกนินทาอาจจักต้องใช้ทั้งสติปัญญาใคร่ครวญถึงความเป็นเหตุเป็นผล หากเขาปรารถนาดีจักให้เหตุบ้านการเมือง ปัญหาของชาติบ้านเมืองดีขึ้นเจริญขึ้น ปัญหาพื้นฐานที่เดือดร้อนต่างๆ ทุเลาลงไป วุฒิภาวะของผู้นำก็ควรจักขอบคุณ ขอบใจในความปรารถนาดี มิควรไปโกรธ ต่อว่าด่าทอหรือใช้ภาษากายที่อาจจักกระทบต่อสัมพันธ์ภาพชีวิตในอนาคต หลังจากหมดวาสนา บารมี ตำแหน่งหน้าที่การงาน…

คําสอนหนึ่งของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ประยุทธ์ ปยุตโต) ที่เกี่ยวเนื่องกับความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและการบริหารงานได้เรียบร้อยราบรื่นก็คือ ให้ฝึกมองตนเองให้เป็นคนที่เล็กเข้าไว้ อย่าทำตนเป็นคนใหญ่โต ฝึกให้ตนเองไม่เป็นนักสะสมที่เป็นภาระแต่ให้สะสมความดีงาม ฝึกตนเองให้เป็นคนที่สบายๆ ใครๆ ก็จักเข้าพบหาน่าคบหาอย่างสุขใจ ฝึกตนเองให้เป็นคนนิ่งๆ หรือไม่ก็พูดในสิ่งที่ดีๆ ไม่พูดหรือวิจารณ์ให้ได้รับความเสียหาย ฝึกให้ตนเองรู้ถึงความเป็นธรรมชาติของชีวิต ว่าอะไรๆ ก็ผ่านไปเสมอทั้งความทุกข์และสุข รวมถึงการฝึกตนเองให้เข้าใจเรื่องการติฉินนินทาว่า คนเราทุกคนที่เกิดมาแล้วย่อมต้องถูกนินทา เมื่อวันเวลาใดที่ถูกนินทาก็ให้รู้ว่าเรามาถูกทางแล้ว หมายความว่า เรายังมีตัวตนอยู่ในโลกใบนี้คนที่เต้นแร้งเต้นกากับคำนินทาก็คือคนที่ไม่รู้เท่าทันโลกและชีวิต…

นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผ่านการศึกษาในโรงเรียนวัด ผ่านการศึกษาในระบบของทหารชั้นสูงสุดของประเทศย่อมผ่านการฝึกอบรมทั้งศาสตร์ สาขา ความเชี่ยวชาญ ชำนาญการที่เป็นการเฉพาะด้านโดยเฉพาะวิชาชีพด้านทหารอาชีพ อดีตเคยเป็นลูกน้อง ผู้บังคับบัญชาเหล่าทัพตามลำดับจนกระทั่งตำแหน่งสูงสุดก็คือผู้บัญชาการทหารบก หัวหน้าคณะปฏิวัติเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ.2557 (หัวหน้า คสช.) และนายกรัฐมนตรี ถือว่าชีวิตหนึ่งที่ประสบความสำเร็จของชีวิตที่เกิดมา และวันหนึ่งในอนาคตข้างหน้าความเป็นนายกรัฐมนตรีของต้องหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนไปเป็นของผู้อื่น การใช้อำนาจหน้าที่ก็สิ้นสุดลง รวมถึงการถูกนินทาก็อาจจักทุเลาลงไปตามบริบทของเวลา

ผู้นำกับการนินทา

การมีชีวิตของมนุษย์หรือคนในโลกนี้ ระบบการสื่อสารเพื่อให้มีความเข้าใจตรงกันเพื่อกระทำหน้าที่ภารกิจให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดีมีทั้งการใช้ภาษาในลักษณะต่างๆ ทั้งการพูด เขียน รวมถึงการใช้อวัจนภาษาก็คือ การสื่อสารโดยมิต้องใช้ถ้อยคำทั้งพูด เขียนแต่สื่อสารกันด้วยกิริยาท่าทาง น้ำเสียง สายตา ที่สามารถรับรู้ แปลความหมายกันได้และสามารถทำความเข้าใจต่อกันได้ ระบบการสื่อสารของผู้คนในยุคปัจจุบันมีความย้อนแย้งต่อวิถีชีวิตท่ามกลางสังคมโลกที่เปลี่ยนไป

การให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 28 เมษายน พ.ศ.2564 ที่ทำเนียบรัฐบาลถึงกรณีการทำความเข้าใจกับทางพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กับการไม่พอใจคำสั่งนายกฯที่ 85/2557 เรื่องการมอบหมายให้รัฐมนตรีรับผิดชอบ แนวคิดการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน ในระดับพื้นที่จังหวัดที่ถูกมองว่าเป็นการยกพื้นที่ของภาคใต้ให้กับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โดยขอยืนยันว่ายังไม่มีการเปลี่ยนแปลงคำสั่งใดๆ ยังคงเป็นคำสั่งเดิม ไม่ใช่เวลาการเมืองเป็นเวลาของการทำงาน ไม่ได้มุ่งหมายจะให้พรรคใครได้ประโยชน์

และในที่ประชุม ครม.ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยได้กล่าวถึงตนเองถูก กทม.และตำรวจปรับ 6,000 บาท จากการไม่สวมหน้ากากอนามัยรวมถึงการกล่าวที่ว่า “รัฐมนตรีบางคนพูดจาไม่ดีและนินทาผมในที่ประชุมบางวง ให้ระวังตัวไว้ด้วย ผมเป็นคนตัดสินใจเลือกเข้ามาทำงาน จะชอบหรือไม่ชอบผม อย่านินทาให้ผมได้ยิน ถ้าผมได้ยินอีก ผมจำเป็นต้องปรับออก จะรับโควต้านั้นมาเป็นของผมเอง ผมมีทีมงานคอยดูเฟซบุ๊กทุกท่าน ผมไม่วางใจและไม่สบายใจ ใครก็ตามที่สร้างความขัดแย้ง เกลียดชัง ทุจริต ถ้ามีปัญหาผมจะพิจารณาเอาออก” การพูดของนายกรัฐมนตรีดังกล่าว ทำให้รัฐมนตรีที่เข้าร่วมประชุมต่างนิ่งเงียบ เพราะเป็นท่าทีที่รุนแรงและไม่มีใครแสดงความคิดเห็น…(matichon.co.th)

ข้อเท็จจริงหนึ่งในชีวิตของนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตั้งแต่มีชีวิตลมหายใจมาจวบจนถึงปัจจุบัน การพูดถึงในทางไม่ดี กล่าวร้าย ให้ร้าย อิจฉาริษยา ด่าทอรวมทั้งการนินทาในครั้งนี้คงจักมิใช่ครั้งแรกของชีวิต เหตุใดที่การใช้ภาษาของนักการเมืองบางคนที่ผู้นำของประเทศได้ยินได้ฟังมาจึงรู้สึกได้ถึงภาวะแห่งความขัดแย้ง มิพอใจ ขัดใจ ซึ่งส่งผลต่อการให้สัมภาษณ์ทั้งภาษาและท่าทาง เหตุหนึ่งอาจจักเนื่องด้วยระบบการเมืองของไทยเรายังคงมีความไม่แน่นอน ไม่นิ่ง สั่นคลอนทั้งตำแหน่งผู้นำ พรรคการเมือง ทั้งการจัดม็อบประท้วงของฝ่ายตรงกันข้ามและบรรดานักการเมืองซีกฝ่ายค้าน รวมถึงปัญหาของการระบาดครั้งใหญ่ของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ถูกตั้งคำถามถึงความเพียงพอของวัคซีนให้กับคนในชาติ…

บทกลอนของสุนทรภู่ในเรื่องพระอภัยมณี ตอนพระฤาษีสอนสุดสาครตอนหนึ่งที่ว่า “อันนินทากาเลเหมือนเทน้ำ ไม่ชอกช้ำเหมือนเอามีดมากรีดหิน แม้องค์พระปฏิมายังราคิน คนเดินดินหรือจะสิ้นคนนินทา…” หากเราท่านได้ผ่านการศึกษาเล่าเรียนวิชาภาษาไทยในช่วงประถมหรือมัธยมศึกษา ก็จักคุ้นเคยกับบทกลอนดังกล่าวเป็นอย่างดี ผู้เขียนรวมทั้งท่านผู้อ่านหลายท่านก็เข้าใจว่าชีวิตของนายกรัฐมนตรีก็คงจะคุ้นกับบทกลอนดังกล่าวเช่นกัน

การนินทาหรือพูดถึงกล่าวถึงบุคคลในระดับผู้นำองค์กร หน่วยงานต่างๆ รวมทั้งนายกรัฐมนตรี หากเราท่านได้พิจารณาถึงหลักการของศาสนาโดยเฉพาะศาสนาพุทธมีหลักธรรมะอยู่ในโลกธรรมแปดก็คือ ได้ลาภ-เสื่อมลาภ มียศ-เสื่อมยศ สรรเสริญ-นินทา ทุกข์-สุข เป็นสิ่งที่อยู่คู่กับโลกมนุษย์มาตั้งแต่ครั้งอดีต รวมถึงพุทธสุภาษิตที่ได้กล่าวถึง “นตฺถิ โลเก อนินทิโต : การไม่ถูกนินทา ย่อมไม่มีในโลก” การนินทาในความหมายหนึ่งก็คือ การพูดลับหลัง ซุบซิบ การพูดให้ร้าย ให้ได้รับความอับอาย เสียชื่อ เสียเกียรติ เสียความเคารพนับถือ การลอบกัด การสดุดี การยกย่อง การสรรเสริญ หลักการของศาสนาหนึ่งก็คือ ผู้นินทาก็คือผู้ที่กระทำกรรมในสิ่งที่ไม่ดีไม่งาม…

การนินทาอาจจักกล่าวว่าเป็นวาทกรรมหนึ่งของผู้คนในสังคมทุกยุคสมัย ที่สะท้อนสิ่งดังกล่าวผ่านบทการแสดงในหลากหลายบริบททั้งการมีชีวิตอยู่ในชีวิตประจำวัน ประเพณีวัฒนธรรม ความเชื่อทั้งผี พุทธ พราหมณ์ พระเจ้า ละครเวที การแสดงที่ส่งผลต่อดนตรี กีฬา ศาสนาและการเมืองรวมถึงบริบทอื่นๆ ที่วาทกรรมดังกล่าวถูกนำไปใช้ทั้งบุคคล เวลา และสถานการณ์ ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก็เสมือนแสงไฟแห่งสปอตไลต์ ที่จะสาดส่องไปในมุมมองต่างๆ ภาวะแห่งความเป็นผู้นำข้อเท็จจริงหนึ่งก็คือความแข็งแกร่งทั้งร่ายกาย จิตใจ อารมณ์ วุฒิภาวะแห่งความเป็นผู้นำ ความมั่นคงในอารมณ์ที่เสมอต้นเสมอปลาย

วันเวลานี้ผู้คนพลเมืองในชาติบ้านเมืองไทยเรา รวมทั้งเพื่อนบ้านที่เป็นผู้อพยพในจำนวนหลายล้านคนรอบๆ บ้านเราที่เข้ามาอาศัยผืนแผ่นดินไทยได้มีลมหายใจ อยู่กินหลับนอนที่มีความสุขในระดับหนึ่งจากแผ่นดินต่างๆ ทั่วโลก ประชาชนไทยส่วนใหญ่ได้รับความเดือดร้อนทั้งปัญหาเศรษฐกิจ สังคม ชีวิตความเป็นอยู่การทำมาหากิน อยู่ใช้สอย มิอาจจักรวมถึงการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้การทำมาค้าขายต้องซบเซา การค้าขายบางกิจการต้องปิดกิจการไปอย่างไม่รู้วันเวลาที่จะกลับมา ผู้คนที่เป็นเสาหลักของครอบครัวต้องตกงาน ปัญหาสุขภาพจิต อาชญากรรม การพนัน สิ่งเสพติด เด็กแว้น หนี้สินนอกระบบ รวมถึงปัญหาอื่นๆ ประชาชนในชาติคาดหวังว่าผู้นำของเขาจักช่วยเยียวยา ชุบชีวิตที่เขาเหล่านั้นได้ออกไปใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งในวันเวลาที่ผ่านมา…

การที่นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึง “รัฐมนตรีบางคนพูดจาไม่ดีและนินทาผม…” อาจจักเป็นวาทกรรมหนึ่งที่เสมือนกับผู้ที่มีอำนาจจักใช้อำนาจต่อผู้ใต้บังคับบัญชาหรือเพื่อนร่วมงานที่ร่วมชี้เป็นชี้ตายในอนาคตของประเทศชาติ อาจจะนำมาซึ่งคุณและโทษต่อผู้ที่ถูกใช้วาจาดังกล่าว ข้อเท็จจริงหนึ่งของการนินทา นายกรัฐมนตรีทั้งเมืองไทยเราและในหลายๆ ประเทศ สำหรับสังคมไทยเราคงจักมิใช่เฉพาะผู้ที่ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพียงผู้เดียวเท่านั้น จำนวนนายกรัฐมนตรีของไทยเราทุกท่านล้วนแล้วแต่ผ่านการนินทาตั้งแต่ในระดับชาวบ้าน ผู้นำท้องถิ่น ข้าราชการประจำ ข้าราชการการเมือง นักบวชในศาสนา อาจจักรวมถึงญาติพี่น้องและเพื่อนอันเป็นที่รักนินทารวมอยู่ด้วยก็ได้

หลักการหนึ่งของศาสนาและหลักแห่งธรรมชาติก็คือ การนินทาจะเกิดขึ้นได้ระหว่างบุคคลสองฝ่าย หรือฝ่ายที่สามที่มีการพาดพิงบุคคลที่ต้องการกล่าวถึง หากการนินทานั้นเป็นจริงผู้ที่ถูกนินทาอาจจักต้องใช้ทั้งสติปัญญาใคร่ครวญถึงความเป็นเหตุเป็นผล หากเขาปรารถนาดีจักให้เหตุบ้านการเมือง ปัญหาของชาติบ้านเมืองดีขึ้นเจริญขึ้น ปัญหาพื้นฐานที่เดือดร้อนต่างๆ ทุเลาลงไป วุฒิภาวะของผู้นำก็ควรจักขอบคุณ ขอบใจในความปรารถนาดี มิควรไปโกรธ ต่อว่าด่าทอหรือใช้ภาษากายที่อาจจักกระทบต่อสัมพันธ์ภาพชีวิตในอนาคต หลังจากหมดวาสนา บารมี ตำแหน่งหน้าที่การงาน…

คําสอนหนึ่งของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ประยุทธ์ ปยุตโต) ที่เกี่ยวเนื่องกับความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและการบริหารงานได้เรียบร้อยราบรื่นก็คือ ให้ฝึกมองตนเองให้เป็นคนที่เล็กเข้าไว้ อย่าทำตนเป็นคนใหญ่โต ฝึกให้ตนเองไม่เป็นนักสะสมที่เป็นภาระแต่ให้สะสมความดีงาม ฝึกตนเองให้เป็นคนที่สบายๆ ใครๆ ก็จักเข้าพบหาน่าคบหาอย่างสุขใจ ฝึกตนเองให้เป็นคนนิ่งๆ หรือไม่ก็พูดในสิ่งที่ดีๆ ไม่พูดหรือวิจารณ์ให้ได้รับความเสียหาย ฝึกให้ตนเองรู้ถึงความเป็นธรรมชาติของชีวิต ว่าอะไรๆ ก็ผ่านไปเสมอทั้งความทุกข์และสุข รวมถึงการฝึกตนเองให้เข้าใจเรื่องการติฉินนินทาว่า คนเราทุกคนที่เกิดมาแล้วย่อมต้องถูกนินทา เมื่อวันเวลาใดที่ถูกนินทาก็ให้รู้ว่าเรามาถูกทางแล้ว หมายความว่า เรายังมีตัวตนอยู่ในโลกใบนี้คนที่เต้นแร้งเต้นกากับคำนินทาก็คือคนที่ไม่รู้เท่าทันโลกและชีวิต…

นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผ่านการศึกษาในโรงเรียนวัด ผ่านการศึกษาในระบบของทหารชั้นสูงสุดของประเทศย่อมผ่านการฝึกอบรมทั้งศาสตร์ สาขา ความเชี่ยวชาญ ชำนาญการที่เป็นการเฉพาะด้านโดยเฉพาะวิชาชีพด้านทหารอาชีพ อดีตเคยเป็นลูกน้อง ผู้บังคับบัญชาเหล่าทัพตามลำดับจนกระทั่งตำแหน่งสูงสุดก็คือผู้บัญชาการทหารบก หัวหน้าคณะปฏิวัติเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ.2557 (หัวหน้า คสช.) และนายกรัฐมนตรี ถือว่าชีวิตหนึ่งที่ประสบความสำเร็จของชีวิตที่เกิดมา และวันหนึ่งในอนาคตข้างหน้าความเป็นนายกรัฐมนตรีของต้องหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนไปเป็นของผู้อื่น การใช้อำนาจหน้าที่ก็สิ้นสุดลง รวมถึงการถูกนินทาก็อาจจักทุเลาลงไปตามบริบทของเวลา

ลาภยศสรรเสริญสุข เสื่อมลาภเสื่อมยศนินทาทุกข์เป็นสัจธรรมหรือธรรมชาติหนึ่งของสรรพสิ่งมีชีวิต เราท่านต่างก็ได้รับบทเรียนจากสิ่งต่างๆ มาตลอดชีวิตเท่าที่มีลมหายใจ สิ่งเหล่านั้นเสมือนมายาภาพที่ยึดมั่นถือมั่นในขณะที่มีตัวตน วันหนึ่งลมหายใจหมดไปจากร่างกายดั่งกาพย์ยานี พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา การนินทากาเลก็สูญหายไปชั่วขณะหนึ่งแล…

เฉลิมพล พลมุข

เฉลิมพล พลมุข

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image