บทนำ : โควิดเรือนจำ
กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรมแถลงเมื่อ 12 พ.ค.ว่า ได้ตรวจเชิงรุกเจ้าหน้าที่ และผู้ต้องขัง 100% พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ได้แก่ ทัณฑสถานหญิงกลาง ติดเชื้อ 1,040 ราย เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ติดเชื้อรวม 1,795 ราย ขณะนี้รักษาตัวโรงพยาบาลสนาม ทัณฑสถาน โรงพยาบาลราชทัณฑ์ บางรายมีอาการหนักจะย้ายออกไปรักษายังโรงพยาบาลภายนอก และยืนยันว่า กรมราชทัณฑ์กับกระทรวงสาธารณสุข ควบคุมการแพร่ระบาดได้ จะไม่ขยายตัวไปสู่วงกว้าง เวลานี้มีแดนกักโรคและโรงพยาบาลสนาม มีแพทย์และพยาบาลดูแลใกล้ชิด การให้ยารักษาและการดูแลเป็นไปตามมาตรฐานของสาธารณสุข รวมทั้งมีการวางแผนเพื่อฉีดวัคซีนให้ผู้ต้องขังด้วย อยู่ระหว่างรอการจัดสรรจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ก่อนหน้านั้น น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุลหรือรุ้ง แกนนำกลุ่มราษฎร ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว แจ้งว่าติดเชื้อโควิด-19 โดยระบุว่า หลังจากที่ออกจากทัณฑสถานหญิงกลาง เมื่อวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา เพิ่งได้รับทราบผลตรวจโควิดว่าติดเชื้อ กำลังเข้ารับการรักษาที่ รพ.ธรรมศาสตร์ทันที ตอนนี้ได้แจ้งคนที่ใกล้ชิดทุกคนแล้ว ขอโทษทุกคนที่ได้มาสัมผัส หรือใกล้ชิด ไม่คิดว่าตัวเองจะติดเลย เพราะไม่มีอาการจนช่วงค่ำของเมื่อวันที่ 12 พ.ค. และต่อมายังทราบว่า มีผู้เกี่ยวข้อง ได้แก่ นายนรเศรษฐ นาหนองตูม ทนายความ นายภานุพงษ์ จาดนอก หรือ ไมค์ ระยอง แกนนำ ติดเชื้อโควิดด้วย และก่อนหน้านี้ มีแกนนำการเคลื่อนไหวอีกหลายคนที่ติดเชื้อจากในเรือนจำ
สิ่งที่เกิดกับผู้ต้องขังนับพันรายในขณะนี้ น่าจะทำให้ญาติพี่น้องห่วงใยและร้อนใจ ปัญหานี้ที่จริงมีการเตือนมาหลายครั้ง แต่รัฐไม่ได้ตอบสนองใดๆ จนติดเชื้อลุกลามกลายเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ และทราบกันดีว่า การป้องกันโรคหวังผลยาก ด้วยสภาพแออัดและระบบภายใน ซึ่งยากที่สังคมภายนอกจะล่วงรู้ การระบาดเป็นคลัสเตอร์ขนาดใหญ่เช่นนี้ จะเกิดจากอะไรก็ตาม รัฐและหน่วยงานที่รับผิดชอบจะต้องแก้ปัญหา ทั้งเฉพาะหน้าและระยะยาว เพื่อรักษาชีวิตผู้ติดเชื้อ และลดความเสี่ยงให้ผู้ต้องขัง รวมถึงผู้ถูกกล่าวหาในคดีความต่างๆ ซึ่งถือเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่ไม่ได้ประกันตัว ต้องถูกควบคุมในสภาพเสี่ยงโรค จนต้องติดเชื้อไปด้วย
