กลายเป็นประเด็นดราม่าที่นางเอกซุปตาร์ของไทย ระดับ “อั้ม” พัชราภา ไชยเชื้อ และ “ชมพู่” อารยา เอฮาร์เก็ต โดนโลกโซเชียลโหมกระหน่ำ ตั้งคำถามถึงการเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ยี่ห้อซิโนแวค
โดยเฉพาะในรายของ “ชมพู่” อารยา ที่ออกมาร่ายยาวรีวิวการฉีดวัคซีนยี่ห้อซิโนแวค ผ่านไอจีส่วนตัวถึงการตัดสินใจเข้ารับการฉีดวัคซีน การให้ข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีการผลิตและประสิทธิภาพของวัคซีนซิโนแวค
จนถูกมองว่าเป็นการพีอาร์ให้กับทางรัฐบาลหรือไม่
นอกจาก อั้ม และชมพู่ ยังมีคนในแวดวงบันเทิงอีกหลายคน ที่ออกมาช่วยกันรณรงค์ฉีดวัคซีน สร้างความเชื่อมั่น แก่ประชาชน ที่ยังห่วงผลข้างเคียงจากการฉีด
ไม่ว่าจะเป็น “เบิร์ด” ธงไชย แมคอินไตย นักร้องซุปเปอร์สตาร์ตลอดกาล นิรุตติ์ ศิริจรรยา สุดา ชื่นบาน และนพพล โกมารชุน ที่ปล่อยวลีเด็ด “เชื่อหมอ ไม่เชื่อหมา”
การออกมาของเหล่าคนบันเทิงอาจจะเป็นการรณรงค์ส่วนตัว หรือได้รับคำเชื้อเชิญจากภาครัฐ ถือเป็นกลยุทธ์ที่ได้ผล เพราะกลายเป็นกระแส สร้างการตื่นตัวฉีดวัคซีนในกลุ่มประชาชน
ทำให้การฉีดวัคซีนถูกพูดถึงมากกว่าตอนที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกมาประกาศให้การฉีดวัคซีนโควิด-19 เป็นวาระแห่งชาติ เมื่อวันที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา พร้อมเชิญชวนคนไทยเข้ารับวัคซีนให้มากที่สุด เพื่อเร่งสร้างภูมิคุ้มกันหมู่
โดยยอดลงทะเบียนจองฉีดวัคซีนโควิดผ่านระบบหมอพร้อมอยู่ที่ 7,640,059 ราย (ข้อมูลวันที่ 22 พ.ค.) เป็นจำนวนที่เพิ่มมากขึ้นกว่าในช่วงแรกที่เปิดลงทะเบียน
เมื่อกระแสความต้องการที่จะฉีดวัคซีนเพิ่มมากขึ้นปัญหาหนึ่งที่พบ ความล่าช้าในการฉีดวัคซีนของประชาชนในหลายกลุ่ม หลายคนจองผ่านระบบหมอพร้อม แต่ได้รับการฉีดที่ช้ากว่าคนที่จองคิดผ่านช่องทางอื่นๆ
ทั้งการเปิดจุดฉีดนอกโรงพยาบาล การเปิดสารพัดแอพพลิเคชั่นลงทะเบียนของหลายหน่วยงาน
จนสร้างความสับสนแก่ประชาชน ในการลงทะเบียน
เพราะหลายคนยังคิดว่ามีการลงทะเบียนแค่ช่องทางหมอพร้อม เท่านั้น โดยไม่ทราบว่ามีช่องทางอื่นๆ
เห็นด้วยกับ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ออกมาสะท้อนปัญหาการลงทะเบียนฉีดวัคซีนโควิด-19 ว่า “รัฐบาล หน่วยงานด้านสาธารณสุข และท้องถิ่น ได้สร้างแอพพลิเคชั่น หรือระบบลงทะเบียนขึ้นมาหลายระบบ สร้างความสับสนให้กับประชาชน
ขั้นตอนต่างๆ ก็เกิดความวุ่นวาย บางกรณีได้เดินทางไปฉีด กลับไม่ได้ฉีด หรืออยู่ๆ ก็ตัดสินใจยกเลิกการฉีดวัคซีนแบบวอล์กอิน รัฐบาลควรจัดทำระบบขึ้นมาเพียงระบบเดียว เพื่อให้ประชาชนเตรียมตัวได้ถูกต้อง”
สิ่งเหล่านี้รัฐบาลต้องเร่งสร้างความเข้าใจแก่ประชาชนในภาพรวม ว่ามีช่องทางไหนบ้าง ในการเข้ารับการฉีดวัคซีน
เช่นเดียวกับเรื่องของวัคซีน หากรัฐบาลสามารถสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชนได้แต่แรก ทั้งในเรื่องของประสิทธิภาพ ความหวาดกลัวในผลข้างเคียง
ก็ไม่จำเป็นที่จะอาศัยศิลปิน ดารา คนมีเชื่อเสียง มาสร้างความเชื่อมั่น
เป็นการสะท้อนภาพคนเชื่อดารามากกว่ารัฐบาลหรือไม่??
