สะพานแห่งกาลเวลา : ยูเอฟโอกับมนุษย์ต่างดาว โดย ไพรัตน์ พงศ์พานิชย์

(ภาพ-AFP)

ในสหรัฐอเมริกาเวลานี้ กระแส “ยูเอฟโอ” กำลังมาแรงอีกครั้ง ว่ากันว่า ความสนใจที่คนอเมริกันเทให้กับเรื่องนี้พุ่งขึ้นสูงพอๆ กับเมื่อครั้งเกิดอาการ “คลั่งยูเอฟโอ” จนเกิดปรากฏการณ์บุก “แอเรีย51” ขึ้นเมื่อปี 2019 เลยทีเดียว

ส่วนหนึ่งที่ก่อให้เกิดกระแสยูเอฟโอฟีเวอร์ขึ้นมา เป็นเพราะสื่อกระแสหลักพากันหันมาเล่นข่าวเรื่องนี้กันจริงๆ จังๆ แทนที่จะแพร่กันอยู่เฉพาะในโซเชียลมีเดียเหมือนก่อนหน้านี้

ตัวอย่างเช่น เดอะ นิวยอร์เกอร์ นิตยสารเก่าแก่อายุเกือบศตวรรษของสหรัฐอเมริกา ตีพิมพ์บทความเมื่อวันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมา เกี่ยวกับการที่ “เพนตากอนกำลังจริงจังกับยูเอฟโอ” หรือกรณีที่รายการโทรทัศน์ดังอย่าง “ซิกซ์ตี มินิทส์” สัมภาษณ์ นาวาตรี อเล็กซ์ ดีทริช นักบินเครื่องบินขับไล่ของกองทัพเรืออเมริกันออกรายการ บอกเล่าประสบการณ์เผชิญยูเอฟโอของตนเอง

ที่น่าสนใจอย่างมากก็คือ แม้แต่คนอย่าง บารัค โอบามา อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ยังออกมาให้สัมภาษณ์ว่า “มีฟุตเทจและบันทึกจำนวนหนึ่งว่าด้วยวัตถุบนท้องฟ้า ซึ่งเราไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วมันคืออะไร” ส่งผลให้เกิดพาดหัวใหญ่โตตามมา อาทิ “บารัค โอบามา เพิ่งพูดบางอย่าง ‘น่าสนใจมาก’ เกี่ยวกับยูเอฟโอ”

Advertisement

เรื่องนี้โด่งดังข้ามแอตแลนติกไปถึงอังกฤษ เทเลกราฟ เพิ่งรายงานเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมาว่า “ในที่สุด เพนตากอนก็คิดว่า ยูเอฟโอ มีอยู่จริง” และย้ำไว้ตอนหนึ่งในรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐอเมริกา “หันมาจริงจังกับมนุษย์ต่างดาว” แล้ว

ต้นสายปลายเหตุของเรื่องนี้ก็คือ การที่มีกำหนดการที่จะนำเสนอรายงาน “ที่ไม่อยู่ในชั้นความลับ” ซึ่งจัดทำโดยทีมผู้เชี่ยวชาญของกระทรวงกลาโหม (เพนตากอน), สำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ), และสำนักงานข่าวกรองกองทัพเรือ (โอเอ็นไอ) ต่อสภาคองเกรส ในวันที่ 25 มิถุนายนที่จะถึงนี้

แล้วก็มี “แหล่งข่าวกล่าวว่า” ในรายงานดังกล่าวจะมีการนำเสนอหลักฐานที่แสดงถึงสิ่งซึ่งที่ผู้เชี่ยวชาญเรียกว่า “ปรากฏการณ์ในท้องฟ้าที่ไม่สามารถระบุได้” (Unidentified aerial phenomena-UAP) อยู่ด้วย

Advertisement

เท่านั้นแหละครับมีคนโยง ยูเอพี ในรายงานว่า ก็คือ ยูเอฟโอ (Unidentified flying objects) หลักฐานที่แสดงถึง ยูเอพี ก็คือหลักฐานที่แสดงว่า ยูเอฟโอ มีจริง แล้วก็ลากต่อเนื่องไปถึงเรื่อง “มนุษย์ต่างดาว” หรือ “เอเลียนส์” แล้วก็ลามปามไปถึงการ “พยายามปกปิดข้อเท็จจริง” ของทางการที่ผ่านมาอีกด้วย

สนุกครับ เรื่องทำนองนี้อ่านหรือเล่าสู่กันฟังเมื่อไหร่ก็สนุกเมื่อนั้น แต่ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

คนที่เชื่อว่า ยูเอฟโอ มีจริงแล้วก็มนุษย์ต่างดาวมีจริง ก็มีเหตุผลที่จะเชื่อเช่นนั้น ส่วนคนที่ไม่เชื่อก็มีเหตุผลที่จะไม่เชื่อถือครับ

ตัวอย่างเช่นคนอย่าง มิค เวสต์ เจ้าของเว็บไซต์ Metabunk.com ที่สั่งสมประสบการณ์ในการตรวจสอบและให้เหตุผลว่าทำไมปรากฏการณ์บางอย่างที่หลายคนเชื่อถือว่าเป็นยูเอฟโอ เป็นยานจากต่างดาวนั้น เป็นจริงไปไม่ได้มานานปี ก็ยังชี้ให้เห็นว่า คนที่ฮือฮากับรายงานของอเมริกันหนนี้ ก็ยังคงให้น้ำหนักกับหลักฐานที่นำมาแสดงสูงเกินจริงไป

มิค เวสต์ บอกว่า หลักฐานที่ดีที่สุดเท่าที่มีการเผยแพร่กันออกมาก็เป็นแค่วิดีโอภาพแตกๆ ไม่ชัดเจนของกองทัพเรืออเมริกันเท่านั้นเอง

ข้อสังเกตที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ ในรายงานนี้ใช้คำว่า “ปรากฏการณ์บนท้องฟ้า” ไม่ใช่ “วัตถุบินได้”

ปรากฏการณ์เหนือท้องฟ้าที่เราบอกไม่ได้ว่าคืออะไร เกิดจากอะไร มีอยู่มากมายมาก แต่ไม่ได้หมายความว่า นั่นคือ การปรากฏให้เห็นของยานจากต่างดาว เพียงอย่างเดียวเท่านั้น

มันอาจเป็นโดรนลึกลับ, เป็นบอลลูนตรวจการณ์ยุคใหม่ หรือเป็นอะไรได้อีกหลายอย่าง

ด้วยเหตุนี้เองถึงต้องมีการตรวจสอบกันอย่างจริงจังจากกระทรวงกลาโหม หรือหน่วยงานอื่นใดของสหรัฐ เผื่อว่ามันอาจเป็นอุปกรณ์ใหม่สำหรับงานจารกรรม หรือเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติขึ้นมาก็จะได้รู้กัน

อันที่จริง เหตุผลนี้นี่เองที่ทำให้ เพนตากอน จริงจังกับเรื่องนี้มาตลอด ในอดีตเคยมีโครงการลับเพื่อตรวจสอบเรื่องนี้อย่างจริงจัง เรียกว่า “โปรเจ็กต์บลูบุค” หลังจากนั้นก็มีโครงการลับอีกครั้งระหว่างปี 2007-2012 ก่อนที่จะยุบไป มอบหมายให้หน่วยข่าวกรองกองทัพเรือรับช่วงต่อ

เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ก็มีการก่อตั้ง “หน่วยเฉพาะกิจยูเอพี” ขึ้นมาอีกส่วนหนึ่งด้วย

แต่นั่นเป็นสิ่งที่เพนตากอนจำเป็นต้องทำ

ไม่ใช่เครื่องพิสูจน์ว่าสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาจากต่างดาวมีจริงแต่อย่างใดทั้งสิ้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image