สื่อมวลชนต่างประเทศรายงานข่าวอุทกภัยในต่างประเทศ พบว่าหลายประเทศเกิดน้ำท่วมหนักและท่วมอย่างรวดเร็ว อาทิ ที่ประเทศจีน เกิดฝนตกหนักทำให้น้ำไหลท่วมให้อุโมงค์ทางรถไฟใต้ดินในเมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน มีผู้โดยสารติดอยู่ในระดับน้ำที่กำลังเพิ่มสูง และมีผู้เสียชีวิต หรือที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักเป็นเหตุให้น้ำท่วมฉับพลันหลายพื้นที่ มีรถยนต์จำนวนมากติดอยู่บนท้องถนน เช่นเดียวกับสถานีรถไฟใต้ดินที่ได้รับผลกระทบจากน้ำขัง นอกจากนี้ในเยอรมนี เบลเยียม สวิตเซอร์แลนด์ ลักเซมเบิร์ก เนเธอร์แลนด์ ต่างก็ประสบกับเหตุน้ำท่วมที่ทำให้เกิดความสูญเสีย
สถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นแสดงถึงความรุนแรงของภัยจากธรรมชาติ หลังจากที่ประเทศจีนประสบเหตุก็ปรากฏข่าวว่าระดับน้ำริมแม่โขงของไทยเพิ่มระดับขึ้น สะท้อนถึงความเชื่อมโยงและความเป็นไปได้ว่าภัยจากอุทกภัยเช่นนี้อาจจะเกิดในประเทศไทยก็เป็นไปได้ดังนั้น การได้รับทราบสถานการณ์แต่เนิ่นๆ ทำให้ประเทศไทยคะเนได้ว่าเหตุอุทกภัยอาจเกิดขึ้นในพื้นที่ต่างๆ ในไทย รวมทั้งพื้นที่เมือง ปริมาณน้ำและการไหลของน้ำที่ไม่เหมือนเดิมอาจส่งผลกระทบต่อประชาชน ทุกอย่างจึงควรเตรียมการไว้
แม้ในขณะนี้ประเทศไทยยังไม่ปรากฏข่าวการเกิดอุทกภัยใหญ่เหมือนดั่งต่างประเทศ แต่การรับมือกับภัยพิบัติดังกล่าวก็ต้องตระเตรียมเอาไว้ก่อน ทั้งระบบเตือนภัยอย่างการพยากรณ์อากาศ การขุดลอกคูคลองหนองบึง การทำความสะอาดท่อระบายน้ำ และอื่นๆ ซึ่งหากมีการเตรียมการไว้แต่ต้น และสามารถคาดคะเนปริมาณน้ำฝนที่จะตกมาได้แต่เนิ่นๆ ความเสียหายย่อมลดน้อยลง ทั้งความสูญเสียที่เกิดจากการจมน้ำ เหมือนดั่งที่เกิดในจังหวัดนครศรีธรรมราชเมื่อกาลก่อน รวมไปถึงความสูญเสียในตัวเมือง
ท่ามกลางสถานการณ์โรคโควิด-19 ระบาด ทุกองคาพยพกำลังสาละวนกับการยับยั้งการระบาด แต่วัฏจักรของธรรมชาติยังคงดำเนินไปเหมือนเดิม หน้าฝนน้ำมาก หน้าแล้งน้ำน้อย เมื่อปริมาณน้ำมากหรือน้อยเกินไปก็จะกลายเป็นภัย หากไทยป้องกันได้ดี มีความพร้อมในการรับมือ แม้จะห้ามมิให้ภัยพิบัติเกิดขึ้นไม่ได้แต่น่าจะยับยั้งความสูญเสียเอาไว้ได้ ดังนั้น จึงไม่ควรประมาทในการป้องกันภัยธรรมชาติที่พร้อมจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
