สถานีคิดเลขที่ 12 : ไฟเซอร์มีไม่พอ

สถานีคิดเลขที่ 12 : ไฟเซอร์มีไม่พอ เฟซบุ๊กโรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์

เฟซบุ๊กโรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์โพสต์ข้อความ
เรื่องการบูสต์โดสให้กับบุคลากรทางการแพทย์

“จะมีใครรู้บ้างไหมนะว่าพวกเราแพทย์พยาบาลจำนวนไม่น้อย ที่เป็นคนฉีดแอสตร้าเซนเนก้าให้กับคนอื่น เพิ่งเคยได้รับเพียงซิโนแวคเพียง 2 เข็มตั้งแต่มีนาคมและเมษายนเท่านั้น

“เราส่งรายชื่อแพทย์ พยาบาล เภสัชกร นักรังสี เจ้าหน้าที่เทคนิคการแพทย์ และเจ้าหน้าที่เวรเปล ตลอดถึงบุคลากรอื่นๆ ที่ทำงานด่านหน้าในโรงพยาบาล ที่แสดงความจำนงขอรับวัคซีนบูสเตอร์เข็มที่สามเป็นไฟเซอร์ไปที่กระทรวง ผ่านจังหวัดเรียบร้อยแล้ว ตามกติกาและเงื่อนไขที่กระทรวงกำหนดทุกอย่าง

“แต่เมื่อวันศุกร์บ่าย เราเพิ่งได้รับทราบว่าเราได้รับการจัดสรรให้บุคลากรด่านหน้าเพียงร้อยละ 60 ของจำนวนคนที่ส่งรายชื่อไปเท่านั้น ทั้งที่เราระบุชื่อ ตำแหน่งหน้าที่ และส่งรายชื่อผู้ที่จะขอฉีด บูสเตอร์ไฟเซอร์ไปไม่ถึงครึ่งหนึ่งของจำนวนบุคลากรทั้งหมดที่ทำงานอยู่ในโรงพยาบาลในขณะนี้ด้วยซ้ำ

Advertisement

“ความยากลำบากของการบริหารงานก็คือ เราจะอธิบายกับกลุ่มแพทย์แต่ละกลุ่มที่ทำหน้าที่อยู่ในโรงพยาบาลได้อย่างไรว่าในกลุ่มแพทย์สาขานี้ ในจำนวน 15 คนที่ร้องขอ จะมีแพทย์ได้รับวัคซีนเพียง 9 คน อีก 6 คนไม่ได้

“และเราจะอธิบายกับพยาบาลในวอร์ด ICU โควิดได้อย่างไรว่า 10 คนที่ทำงานอยู่ในวอร์ดเดียวกัน และเคยฉีดซิโนแวคมาคนละสองเข็มนั้น จะมีคนได้รับวัคซีนไฟเซอร์เพียง 6 คนเท่านั้น อีก 4 คนให้รอไปก่อน”

นี่เป็นข้อความจากโรงพยาบาลด่านหน้าที่สะท้อนข้อเท็จจริงออกมา

Advertisement

เรื่องเช่นนี้ผู้บริหารไม่ว่าจะเป็นฝ่ายการเมืองหรือฝ่ายกระทรวง อย่าโกรธ
แต่ต้องขอบคุณและขอบใจที่บุคลากรทางการแพทย์สะท้อนปัญหาให้ทราบ
ฝ่ายนโยบายและฝ่ายบริหารจะได้แก้ไข

เข้าใจว่าเรื่องบูสต์โดสนี้เป็นที่เข้าใจของคนทั้งประเทศแล้วว่า บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าต้องได้ทุกคน
ถ้าจำนวนบุคลากรด่านหน้า คือ 7 แสนคน ถ้าจำนวนไฟเซอร์คือ 1.54 ล้านโดส
ในจำนวนบุคลากรทางการแพทย์จำนวนดังกล่าว มีการบูสต์โดสก่อนหน้าที่ไฟเซอร์จะมาจำนวนหนึ่งแล้ว

ดังนั้น แม้จะมีแพทย์จบใหม่ หรือแพทย์ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนเลย ต้องการวัคซีนเข็ม 1 และเข็ม 2
แต่บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าที่ฉีดซิโนแวค 2 โดสทั้งหมดก็ควรได้รับไฟเซอร์
การส่งไฟเซอร์ลงไปในพื้นที่โดยให้แต่ละโรงพยาบาลไปจัดสรร

มีคนได้ มีคนไม่ได้
คนที่ไม่ได้จะมีขวัญกำลังใจปฏิบัติงานล่ะหรือ?

ยิ่งถ้าสถานที่แห่งไหน นำไฟเซอร์ไปฉีดให้คนที่ไม่สมควรจะได้ฉีด
ยิ่งทำร้ายจิตใจ บั่นทอนขวัญกำลังใจคนทำงานหนักเข้าไปอีก
ทางที่ดีรัฐบาลต้องหาวัคซีนเอ็มอาร์เอ็นเอมาเพิ่มเติม
ต้องบูสต์โดสให้พวกเขาและพวกเธอ
ต้องบริหารจัดการความเสี่ยงตามความรู้ความสามารถ
อย่าปล่อยให้ใครต้องตายไปเพราะปฏิบัติหน้าที่

นฤตย์ เสกธีระ
maxlui2810@gmail

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image