เดินหน้าชน : ‘บาปทั้ง 6’ โดย โกนจา

ผู้นำที่ดีนอกเหนือจากหน้าที่แล้ว จะละทิ้งความรับผิดชอบไม่ได้เช่นกัน เฉกเช่นนายกรัฐมนตรีมูห์ยิดดิน ยัสซิน ของมาเลเซีย ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งหลังเผชิญแรงกดดันจากหลายฝ่ายในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะความไม่พอใจของประชาชนจากความล้มเหลวในการรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19

ไม่ต่างจากกรณีของ “ผู้ว่าฯปู” วีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าฯสมุทรสาคร ที่ยื่นลาออก ระบุว่าเนื่องจากปัญหาทางสุขภาพหลังจากเคยติดเชื้อโควิด-19 เมื่อปลายปีที่แล้ว กระทบต่อการทำงาน พร้อมทิ้งท้ายว่า “สู้ไม่ไหวแล้วจริงๆ พอแล้ว จบแล้ว” เนื่องจากสภาพร่างกายที่ไม่พร้อม ไม่สามารถออกภาคสนามดูแลประชาชนในภาวะวิกฤตเช่นนี้ได้ โดยการลาออกมีผลวันที่ 2 ตุลาคมนี้

ภาพที่ทั้ง 2 คนแสดงสปิริต เมื่อประชาชนมอบหมายภาระหน้าที่ แต่เมื่อเห็นว่าตนเองบกพร่องไม่ว่าการบริหารงานล้มเหลว หรือปัญหาสุขภาพที่เป็นอุปสรรคต่อการทำงาน

เมื่อหันกลับมาที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนมอบหมายหน้าที่การบริหารจัดการโควิด-19 แต่คำตอบวันนี้เห็นชัดที่ตัวเลขคนเจ็บคนตายที่สูงขึ้นแทบทุกวัน โยงมาถึงปัญหาปากท้องของประชาชน เดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า หากวัดจากเจเนเรชั่นที่ยังมีลมหายใจอยู่ คงไม่มียุคไหนคนไทยจะยากแค้นแสนเข็ญเช่นนี้

Advertisement

เหมือนที่ พิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ด้านเศรษฐกิจ สะท้อนความล้มเหลวในการบริหารประเทศของ “บิ๊กตู่” โดยเฉพาะทางด้านเศรษฐกิจใน 6 ภาพจำ

1.ภาวะกบต้ม ตามทฤษฎีกบต้มที่เป็นทฤษฎีทางเศรษฐศาสตร์ที่มีอยู่จริงที่มีมากว่า 100 ปีแล้ว ภาวะเศรษฐกิจที่จะค่อยๆ ทรุดลงเรื่อยๆ เหมือนค่อยๆ เร่งไฟหม้อต้มกบ กบจะค่อยๆ ปรับตัวจนถูกต้มเดือดตาย ซึ่งภาวะกบต้มของไทยนี้เห็นได้ชัดเจนขึ้นทุกวัน พอมาเจอวิกฤตโควิดจึงเหมือนเป็นการเร่งไฟหม้อกบต้ม คนเจ็บคนตายเป็นจำนวนมาก ธุรกิจเจ๊งกันมาก แถมยังไม่มีทิศทางจะฟื้นเศรษฐกิจได้เลย

2.บริหารโดยการโดนด่า ไม่เคยคิดหรือวางแผนล่วงหน้า ถูกด่าถึงจะคิดแก้ไข ตั้งแต่การล็อกดาวน์ในครั้งแรกและไม่คิดจะเยียวยาจนต้องโดนด่าถึงคิดเยียวยา พอเยียวยาก็เยียวยาไม่ทั่วถึง จนต้องโดนด่าถึงจะทำ จนกระทั่งมาถึงปัจจุบันที่การบริหารจัดการวัคซีนยังมั่วมาก

Advertisement

3.บริหารแบบรอวันเจ๊ง ขาดความรู้ความสามารถ ปล่อยประเทศและประชาชนตามยถากรรม “บิ๊กตู่” จะฟื้นเศรษฐกิจได้อย่างไร ที่ผ่านมายังไม่เคยพิสูจน์เลยว่าทำได้ เปลี่ยนทีมเศรษฐกิจกี่ครั้งก็ยังล้มเหลว ยิ่งเป็นหัวหน้าทีมเองยิ่งล้มเหลวหนักมากขึ้น ทุกวันนี้บริหารเหมือนรอวันเจ๊ง หนี้สาธารณะพุ่งกระฉูด เป็นการยืมเงินของลูกหลานในอนาคตมาแจก อีกหน่อยลูกหลานก็ต้องตามใช้หนี้กันอาน

4.ไม่สามารถลำดับความสำคัญได้ หรืออาจจะเรียกได้ว่าเป็นผู้นำพิการทางความคิด เรื่องที่สำคัญควรเร่งทำก่อน กลับไม่ยอมทำ เรื่องการบริหารจัดการวัคซีนน่าจะเห็นชัดสุด กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท แต่กลับไม่ยอมนำเงินไปซื้อวัคซีนที่มีคุณภาพ ทำให้เกิดการระบาดรอบใหม่คนเจ็บคนตายพุ่งขึ้นจำนวนมาก กู้เงินอีก 5 แสนล้านบาท ก็ยังไม่เห็นวัคซีนที่มีคุณภาพเข้ามาเลย แสดงถึงการจัดลำดับความสำคัญของเรื่องต่างๆ ไม่ได้เลย

5.ปิดปากคนเห็นต่าง เรื่องนี้ยังเป็นปัญหาอย่างมากตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน หากจำกันได้สมัยที่เป็นเผด็จการได้เรียกผู้เห็นต่างจำนวนมากไปปรับทัศนคติ หลังจากมีการเลือกตั้งแล้ว ก็ยังคงปิดปากผู้เห็นต่างตลอด มีการฟ้องดำเนินคดี เพื่อปิดปาก ดารา นักร้อง นักแสดง ที่ทนการบริหารที่ล้มเหลวไม่ได้ ต้องออกมา call out พยายามจะปิดปากสื่อมวลชน แม้กระทั่งการชุมนุมเพื่อประท้วงยังถูกเจ้าหน้าที่ยิงด้วยกระสุนยางและแก๊สน้ำตา

6. #ผนงรจตกม หรือผู้นำโง่เราจะตายกันหมด ซึ่งต้องขอชื่นชมนักศึกษาที่ขึ้นป้ายนี้ในฟุตบอลประเพณีต้นปี 2563 เป็นการแสดงวิสัยทัศน์ของเด็กรุ่นใหม่ได้อย่างแม่นยำที่สุด ปัจจุบันความไม่ฉลาดของผู้นำทำให้คนเจ็บและคนตายเป็นจำนวนมาก ไม่ตายด้วยไวรัสโควิดก็ตายด้วยพิษเศรษฐกิจ จึงเป็นความจริงขึ้นทุกวันและเป็นจริงขึ้นเรื่อยๆ

คุณพิชัยใช้คำว่า “6 ภาพจำ” แต่ผมขออนุญาตใช้คำว่า “บาปทั้ง 6” ที่ผู้นำเป็นผู้ก่อ แต่ประชาชนเป็นผู้รับกรรม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image