บทนำหนังสือพิมพ์มติชน : หัวเลี้ยวหัวต่อ

บทนำ : หัวเลี้ยวหัวต่อ ยอดผู้ป่วยโรคโควิด-19 เริ่มต่ำกว่าหมื่นต่อวัน

บทนำหนังสือพิมพ์มติชน : หัวเลี้ยวหัวต่อ

ยอดผู้ป่วยโรคโควิด-19 เริ่มต่ำกว่าหมื่นต่อวัน เปรียบเทียบกับผู้ป่วยก่อนหน้านี้ที่พุ่งสูงถึง 2-3 หมื่นคนต่อวันแล้ว ถือว่าสถานการณ์ดีขึ้นมาก ขณะเดียวกัน ยอดผู้เสียชีวิตแม้จะอยู่ในระดับสูงแต่ตัวเลขการสูญเสียที่ต่ำกว่าร้อยคนต่อวัน เมื่อเปรียบเทียบกับก่อนหน้านี้ก็ถือว่าดีมาก สถานการณ์การระบาดในพื้นที่จังหวัดสีแดงเข้มหลายจังหวัดดีขึ้นมาก กระทั่งโรงพยาบาลสนามที่ตั้งขึ้นอย่างเร่งด่วนได้ปิดลง เนื่องจากไม่มีผู้ป่วยใหม่เข้ามารักษาอีกแล้ว จะยังมีจังหวัดที่น่าเป็นห่วงก็อาทิ 4 จังหวัดชายแดนใต้ที่ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้ปรับแผน โดยใช้โมเดลกรุงเทพฯ ไปดำเนินการ

ขณะที่การฉีดวัคซีนก็มีตัวเลขคืบหน้า แม้จะยังไม่แน่ใจว่าจำนวนผู้ได้รับวัคซีนจะบรรลุเป้าหมายที่รัฐบาลได้ตั้งเอาไว้หรือไม่ แต่ความคึกคักในการฉีดวัคซีนมีให้เห็นทุกวัน นอกจากนี้ยังเริ่มฉีดวัคซีนให้แก่เด็กนักเรียน โดยมีเป้าหมายที่จะเปิดเรียนเทอมสองแบบออนไซต์ คือ นักเรียนเดินทางไปเรียนที่โรงเรียนได้ ขณะเดียวกัน รัฐบาลก็เริ่มพิจารณาคลายล็อก เพื่อให้ธุรกิจสามารถค้าขายได้ โดยปรับเวลาเคอร์ฟิวจาก 21.00-04.00 น. เป็นเวลา 22.00-04.00 น. พร้อมกันนั้นยังอนุญาตให้ธุรกิจหลายประเภทกิจการเริ่มค้าขายได้

สถานการณ์ในขณะนี้แม้จะยังไม่พ้นอันตราย แต่ถือว่าอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ นั่นคือ ประชาชนมีภูมิป้องกันมากขึ้น ร้านค้ามีวิธีการป้องกันการระบาด กระทรวงสาธารณสุขเพิ่มความเข้มแข็งให้ระบบสาธารณสุขเพื่อรับมือกับการระบาด เช่นเดียวกับรัฐบาลที่ต้องมียุทธศาสตร์จัดการอย่างรัดกุม ทั้งด้านสาธารณสุขที่ป้องกันมิให้การระบาดหวนกลับมาระบาดซ้ำอย่างรุนแรง และด้านเศรษฐกิจที่ต้องใช้วิธีการเยียวยาแก่ผู้ได้รับผลกระทบ และการกระตุ้นฟื้นฟูให้ภาคเอกชนและภาคประชาชนทำมาหากินได้มากขึ้น

Advertisement

ช่วงนี้ถือเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ หลายประเทศที่เคยคลายล็อก เมื่อเกิดการระบาดรอบใหม่ ต้องเอาตัวรอดด้วยการปิดพื้นที่ ส่วนประเทศไทยต้องระวังการระบาดรอบ 5 ซึ่งอาจเกิดขึ้นและสร้างความเสียหาย การป้องกันหรือชะลอมิให้เกิดการระบาดรอบ 5 ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน ทั้งรัฐบาล ราชการ ภาคเอกชน และประชาชน ต้องทราบว่า ณ ปัจจุบัน ประเทศไทยอยู่ในห้วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ทุกคนต้องรับผิดชอบต่อตนเอง รับผิดชอบต่อผู้อื่น และสังคม ต้องระลึกอยู่เสมอว่าประเทศปลอดภัย คนไทยก็ปลอดภัย แต่ถ้าเกิดความผิดพลาดจนประเทศตกอยู่ในอันตราย ประชาชนก็ยากที่จะอยู่อย่างปลอดภัยได้ ทุกจังหวะก้าวต้องขับเคลื่อนด้วยความระมัดระวัง เพื่อให้คนไทยสามารถทำมาค้าขายได้เป็นปกติไม่ต่างจากเดิม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image