ศบค.เปิดเผยว่า สถานการณ์ล่าสุดเมื่อวันจันทร์ 25 ต.ค. พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวัน9,351 ราย หายป่วย 10,098 ราย และเสียชีวิตเพิ่ม 56 ราย ผู้ป่วยปอดอักเสบ มีแนวโน้มลดจำนวนลง จากเดิมในวันที่ 11 ต.ค. มีผู้ป่วยปอดอักเสบ 2,969 ราย วันนี้พบมีผู้ป่วยปอดอักเสบ 2,432 ราย เช่นเดียวกับผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ จากเดิมในวันที่ 11 ต.ค. มีผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ 680 ราย ในวันที่ 25 ต.ค. มีผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ 546 ราย และผู้เสียชีวิตจากเดิมในวันที่ 11 ต.ค. 60 ราย ขณะที่วันที่ 25 ต.ค. มีผู้เสียชีวิต 56 ราย จำนวนการติดเชื้อในเขตพื้นที่ต่างๆ อย่างเช่น กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่วนใน 4 จังหวัดภาคใต้ ประกอบด้วย ยะลา นราธิวาส ปัตตานี และสงขลา พบผู้ติดเชื้อ 1,945 ราย ซึ่งสูงอย่างต่อเนื่อง ส่วนจังหวัดอื่นๆ อีก 67 จังหวัด
พบผู้ติดเชื้อ 5,750 ราย
ศบค.ระบุว่าจำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุด 10 อันดับแรก ยังเป็นจังหวัดทางภาคใต้อยู่ 5 อันดับ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร 929 ราย สงขลา 682 ราย นครศรีธรรมราช 582 ราย ปัตตานี 511 ราย ยะลา 487 ราย เชียงใหม่ 461 ราย สมุทรปราการ 294 ราย ชลบุรี 289 ขอนแก่น 269 ราย และนราธิวาส 265 ราย สำหรับกรุงเทพฯ ที่ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงต่ำกว่า 1,000 รายนั้น ยอดลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 3โดยวันที่ 22 ต.ค. พบผู้ติดเชื้อ 908 ราย วันที่ 23 ต.ค. พบผู้ติดเชื้อ 935 ราย และในวันที่ 24 ต.ค. พบผู้ติดเชื้อ 929 ราย วันที่ 25 ต.ค. ผู้ป่วยรายใหม่ 908 ราย เสียชีวิต 10 ราย และนับเป็นวันแรกในรอบหลายๆ เดือน ที่กรุงเทพฯมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่ำกว่าหลักพัน
เห็นได้ชัดว่า การรับวัคซีนมีผลต่อตัวเลขการติดเชื้ออย่างมาก ใน กทม. มีผู้รับวัคซีนจำนวนมาก ทำให้ตัวเลขลดลงเรื่อยๆ ขณะที่บางภาค จำนวนผู้ได้รับวัคซีนมีจำนวนไม่มากผลที่ตามมาคือ ตัวเลขผู้ที่ติดเชื้อที่ยังสูงมาก ขณะนี้ตัวเลขผู้รับวัคซีนสะสมมีจำนวน 14,438,253 โดส เป็นเข็มที่ 1 จำนวน 8,223,417 โดส เข็มที่ 2 จำนวน 5,648,420 โดส ร้อยละ 73.36 และเข็มที่ 3 จำนวน 566,416 โดสการเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย. จึงต้องทำควบคู่ไปกับการระดมฉีดวัคซีนในทุกภาคอย่างทั่วถึงโดยเร็ว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับคนไทยด้วยกันเอง และนักท่องเที่ยว นักธุรกิจจากต่างประเทศที่ต้องการเดินทางเข้าประเทศไทย ซึ่งจะมีผลต่อการพลิกฟื้นเศรษฐกิจของประเทศที่ทรุดหนักมาตลอดช่วงโควิดระบาด
