‘สี จิ้นผิง’พบ‘อังเกลา แมร์เคิล’ Farewell Call

‘สี จิ้นผิง’พบ‘อังเกลา แมร์เคิล’ Farewell Call

‘สี จิ้นผิง’พบ‘อังเกลา แมร์เคิล’
Farewell Call

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง พบกับ “อังเกลา แมร์เคิล” นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ทางวีดิทัศน์เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม เป็นการสนทนาที่ “แมร์เคิล” บอกลาจากตำแหน่ง เรียกกันว่า “Farewell Call”
ผู้นำทั้งสองได้สนทนาเกี่ยวกับความสัมพันธ์จีนกับเยอรมนี จีนกับยุโรป และสัญญาข้อตกลงทางการค้าจีนกับยุโรป ตลอดจนปัญหาภูมิอากาศ การป้องกันไวรัสระบาดและสิทธิมนุษยชน
แม้ “แมร์เคิล” จะอำลาตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสิ้นปีนี้ก็ตาม แต่เธอยังได้กล่าวถึงงานฉลองการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตจีน-เยอรมนี ครบรอบ 50 ปี ในปีหน้าด้วย

นักวิเคราะห์เชื่อว่ารัฐบาลเยอรมนีชุดต่อไป คงเป็นการยากที่จะหาผู้ที่เหมือนกับ “แมร์เคิล” กล่าวคือ นโยบายของ “รัฐบาลแมร์เคิล” ที่มีต่อจีนนั้น มีความนุ่มนวล และเปี่ยมด้วยไมตรี แต่ก็เชื่อว่าไม่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในมุมกว้าง

“แมร์เคิล” อยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 16 ปี ได้เยือนจีนอย่างเป็นทางการถึง 12 ครั้ง ในบรรดาผู้นำตะวันตก ไม่มีผู้ใดที่นำหน้าเธอได้ หากมิใช่ติดปัญหาไวรัสระบาด เธอได้วางแผนไว้ก่อนแล้วจะเยือนจีนเป็นครั้งที่ 13 จึงไม่แปลกที่ “สี จิ้นผิง” ได้บอกเธอไประหว่างการสนทนาว่า “จีนไม่ลืมเพื่อนเก่า ประตูของจีนได้เปิดไว้ต้อนรับท่านตลอดเวลา”

Advertisement

“แมร์เคิล” กล่าวว่า “สหภาพยุโรปควรต้องพัฒนาสัมพันธภาพกับจีน” เธอยืนยันว่า จะพยายามสนับสนุนความร่วมมือเยอรมนีกับจีน ยุโรปกับจีน อย่างต่อเนื่อง และในวันเดียวกันเธอยังได้ร้องขอวงการเศรษฐกิจเยอรมนีให้สนับสนุนข้อตกลง CAI ซึ่งเป็นข้อตกลงที่เธอเป็นหนึ่งในผู้ที่สนับสนุนจนบรรลุความสำเร็จเบื้องต้น แต่จะนำมาใช้บังคับได้ก็ต้องผ่านมติของรัฐสภาสหภาพยุโรป แต่เนื่องจากปีนี้ทั้งจีนและยุโรปเกิดเหตุการณ์ต่างฝ่ายต่างคว่ำบาตรซึ่งกัน

จึงเป็นเหตุให้สภาลงมติแช่แข็งข้อตกลงดังกล่าว

(หมายเหตุ CAI คือข้อตกลงการลงทุนระหว่างจีน-สหภาพยุโรปแบบครอบคลุม (China-EU Comprehensive Agreement on Investment)

Advertisement

อันข้อตกลง CAI นั้น “อังเกลา แมร์เคิล” เป็นผู้ที่สนับสนุนอย่างเสมอต้นเสมอปลาย เพราะเธอมองว่าข้อตกลงดังกล่าวคือคำมั่นที่สำคัญที่สุด ดังนั้น เมื่อพิจารณาถึงความสัมพันธ์กับจีน จึงไม่ควรพิจารณาเฉพาะสิทธิมนุษยชนและหลักนิติธรรมท่านั้น หากต้องคำนึงถึงผลดีทางเศรษฐกิจและภาวการณ์ด้านตลาดด้วย

การประชุมเกี่ยวกับข้อตกลงการลงทุนจีนกับสหภาพยุโรปแบบครอบคลุม ได้ใช้เวลาถึง 7 ปี จวบจนสิ้นปี 2020 ทั้งจีนและสหภาพยุโรปออกแถลงการณ์ร่วมกันว่าจะทำการลงนามภายในสิ้นปี 2021 ทั้งนี้ ต้องให้รัฐสภายุโรปรับรองก่อน แต่ปรากฏว่าเกิดเหตุการณ์ต่างคว่ำบาตรซึ่งกัน จึงเป็นเหตุให้รัฐสภาสหภาพยุโรปลงมติแช่แข็ง

เป็นที่ประจักษ์ว่า ข้อตกลงดังกล่าวมีประโยชน์ต่อยุโรปมากกว่าจีน พฤติการณ์แช่แข็งจึงเป็นการทำให้ยุโรปต้องเสียโอกาส ในขณะที่จีนธำรงรักษาประโยชน์ไว้ได้

แม้ข้อตกลงดังกล่าวยังไม่สัมฤทธิผลโดยสมบูรณ์ แต่คุณงามความดีของ “แมร์เคิล” ก็ได้สถิตอยู่ในดวงหทัยของคนยุโรป และอยู่ในความทรงจำของประชาชนจีนในฐานะที่เป็นกัลยาณมิตร

อย่างไรก็ตาม “สี จิ้นผิง” ได้กล่าวตอบในการสนทนาว่า จีนมีเจตนาอันแน่วแน่ที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีนและยุโรป และในทำนองเดียวกันจีนก็ต้องธำรงไว้ซึ่งอธิปไตย

นักวิเคราะห์เห็นว่า การพบปะสนทนาทางวีดิทัศน์ครั้งแรกสำหรับปีนี้ระหว่าง “สี จิ้นผิง” กับ “อังเกลา แมร์เคิล” นั้น เป็นไปในทางพัฒนาและสร้างสรรค์ยิ่ง ได้ประโยชน์หลายสถาน

หลังจากที่ “แมร์เคิล” พ้นตำแหน่งแล้ว นโยบายของรัฐบาลเยอรมนีที่มีต่อจีนจะเป็นอย่างไร เป็นเรื่องที่สังคมโลกให้ความสนใจมาก โดยเฉพาะประเทศจีน

ว่ากันว่า ขณะนี้ได้มีพรรคการเมืองใหญ่สองพรรคและพรรคเล็กที่มีอุดมการณ์เดียวกันได้เริ่มเจรจาจัดตั้งรัฐบาลผสม คาดว่านโยบายต่างประเทศคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงในด้านมหัพภาค แต่พรรคการเมืองน้อยใหญ่ในเยอรมนีย่อมรับรู้ร่วมกันในประเด็น นโยบายที่มีต่อจีนในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จะต้องแสวงจุดร่วมกับสหภาพยุโรปในการกำหนดจุดยืนที่มีต่อจีน และก็เป็นเรื่องที่รับรู้ร่วมกันของสหภาพยุโรป ดังที่ “แมร์เคิล” ได้แสดงความคิดเห็นเมื่อกลางเดือนตุลาคมว่า บรรดาผู้นำยุโรปที่จะกำหนดยุทธศาสตร์เพื่อรับมือกับการเติบโตของจีน วิกฤตอัฟกานิสถาน ตลอดจนปัญหาภายในของยุโรป จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้อง “ผนึกสติปัญญา”

หลายปีที่ผ่านมา นโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรปได้เปลี่ยนแปลงในเชิงสัญลักษณ์ แต่ค่อนข้างวิปริตโดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจให้กลายเป็นระบบการเมือง

กรณีแตกต่างกับอดีต กล่าวคือ “เศรษฐกิจก็เป็นเรื่องเศรษฐกิจ การเมืองก็คือการเมือง” ทว่าปัจจุบัน ส่วนใหญ่ผันเป็นประเด็นการเมือง อาทิ การตรวจสอบ “มาตรฐานแรงงาน” ตรวจสอบการลงทุนของจีนว่าสอดคล้องกับมาตรฐานความมั่นคงของประเทศหรือไม่ เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม เมื่อ “อังเกลา แมร์เคิล” นายกรัฐมนตรีเยอรมนี พ้นตำแหน่ง มีประเด็นที่น่าสนใจ

1 นโยบายเยอรมนีที่มีต่อจีนจะออกมาในรูปแบบใด

1 ความสัมพันธ์ระหว่างสหภาพยุโรปกับจีนจะเป็นอย่างไร

โปรดติดตามด้วยความระทึกในดวงหทัยโดยพลัน

ศ.ชยานันต์ ศุกลวณิช

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image